“สรวงศ์” เชื่อ ยังมีเวลาแก้รัฐธรรมนูญ พยายามทำให้ทันในรัฐบาลนี้ กร้าว หาก “พล.อ.พิศาล” หนีคดีตากใบจนหมดอายุความ กลับมาเป็น สส.เพื่อไทย ต่อไม่ได้ เผย ติดต่อได้ครั้งสุดท้ายเดือน ก.ย.
วันที่ 14 ตุลาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีมีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะไม่ทันในรัฐบาลนี้ตามที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีเจตนาไม่แก้ เจตนาของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่าเราเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตามที่หาเสียงไว้ และเราพยายามทำให้ทันในรัฐบาลสมัยนี้
นายสรวงศ์ เผยต่อไปว่า แต่ที่สังคมกังวลคือเรื่องการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ทันกับการเลือกตั้งท้องถิ่นต้นปี 2568 ที่จะสามารถประหยัดงบประมาณไปได้มาก หากทำประชามติไม่ทันเลือกตั้งท้องถิ่น สุดท้ายเราก็ต้องทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญตามกฎหมายอยู่ดี และเชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลชุดนี้ยังเพียงพอสำหรับการแก้รัฐธรรมนูญ วันนี้สิ่งที่พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญนอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เดินหน้าแน่แล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติเฉพาะหน้าที่ประชาชนเจออยู่ รวมถึงเดินหน้านโยบายแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนด้วย
ส่วนกรณีศาลนราธิวาสออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาคดีตากใบ พรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมพรรควันที่ 15 ตุลาคม 2567 หรือไม่ นายสรวงศ์ ระบุว่า ตามวาระการประชุมไม่มีเรื่องนี้ แต่ถ้ามีใครยกเรื่องนี้ขึ้นมาคงได้คุยกัน แต่ขณะนี้ทางพรรคอยู่ระหว่างประสานให้กลับมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่าการหนีคดีเช่นนี้ทำให้พรรคเสียหาย
...
ทั้งนี้ ครั้งสุดท้ายที่ตนสามารถติดต่อ พล.อ.พิศาล ได้คือเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้เลย ดังนั้นหาก พล.อ.พิศาล ไม่ดำเนินการอะไรจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่คดีจะขาดอายุความ ทางพรรคเพื่อไทยคงมีมาตรการอะไรออกมาที่ชัดเจน เนื่องจากทางพรรคต้องรับผิดชอบต่อสังคม และเชื่อว่า พล.อ.พิศาล ติดตามข่าวสาร สิ่งที่ตนให้ข่าวกับสื่อมวลชน รวมถึงที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ข่าวไป พล.อ.พิศาล คงได้เห็นและคงรู้ตัวว่าจะต้องทำอย่างไร หากหนีคดีจนขาดอายุความแล้วจะกลับมาเป็น สส. ของพรรคเพื่อไทยต่อ เช่นนั้นมันไม่ได้อยู่แล้ว.
