รับ “รัฐบาลอิ๊งค์” แก้ไขรธน.ไม่ทัน สรวงศ์ยันไม่ได้เบี้ยว ติดร่างกม.ประชามติ

“เพื่อไทย” ดิ้นหนีเบี้ยวสัญญา หาเสียงแก้ รธน. “สรวงศ์” ออกตัว พยายามทำทุกอย่างให้ผ่านด้วยดีและทันเวลา ยังหวัง กมธ.ร่วมปรับจูนทบทวนร่างกฎหมายประชามติ “อนุสรณ์” อ้างรัฐบาลเดินหน้าดันจริงจังตั้งแต่ยุค “เศรษฐา” แต่พรรคร่วมฯส่งซิกเบรก ต้องรับฟังรอบคอบ เพื่อไม่ไปสุมไฟขัดแย้งอีก เชื่อประชาชนเข้าใจรัฐบาลเอาจริง แม้ไม่จบแต่ใกล้เสร็จเต็มทน “ครูมานิตย์” ครวญรู้กันอยู่ใครกดปุ่มคุม สว.ถ้าสภาสูงยืนกราน ถึงทางตันตั้ง ส.ส.ร.เหนื่อย “ปกรณ์” แจ้ง 17 ต.ค. สภาฯนัดถกรายงาน กมธ.ศึกษาแนวทางนิรโทษกรรม เปิดประตูบานแรกยังไม่ฟันธง “นิด้าโพล” เผยประชาชนจะโกรธมากถ้ายกเลิกแจกเงินดิจิทัล ยังรับได้ถ้าได้น้อยกว่า 1 หมื่นบาท หรือแบ่งจ่าย 2 งวด

จากกรณีหลายฝ่ายกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะไม่สามารถทำได้ทันในรัฐบาลนี้ ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ยืนยันว่าพรรค พท.พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกอย่างทันเวลา

พท.หวัง กมธ.ร่วมปรับจูนกันได้

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 13 ต.ค. ที่อุทยานเฉลิม พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ถนนพิษณุโลก นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ อาจส่งผลให้การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ว่า พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่อยากรักษาวันและเวลาให้ได้มากที่สุด สิ่งแรกคือพยายามให้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ที่อยู่ในขั้นตอนการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมของ 2 สภาฯ ผ่านความเห็นชอบจาก รัฐสภา และหวังว่าจะทันได้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เชื่อว่าเมื่อได้มีการประชุมร่วมกัน น่าจะคุยกันได้ ในชั้นของกรรมาธิการร่วมฯ หากมีอะไรที่สามารถปรับแก้ หรือโอนเอียงได้จะพยายามทำให้ทัน

...

ยันทำประชามติชั้นเดียวดีที่สุด

นายสรวงศ์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ยืนยันว่าการทำประชามติชั้นเดียวดีที่สุด เพราะจะไม่มีอะไรที่จะเป็นการตั้งแง่ ทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา จนทำให้ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ เมื่อถามว่าหลายฝ่ายกังวลว่าการทำประชามติรอบแรกจะไม่ทันการพ่วงเลือก สจ.ทั่วประเทศ นายสรวงศ์กล่าวว่า พยายามทำให้ทัน หากไม่ทันต้องเสียงบประมาณพอสมควรในการทำประชามติแยกออกมา เมื่อถามว่าหากทำ ไม่ทัน จะใช้กฎหมายประชามติ ปี 2564 แทนได้หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่ทราบในรายละเอียด ต้องถามนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ทีมกฎหมายดูแลในเรื่องข้อกฎหมายตรงนี้

ออกตัวทำทุกทางให้ทุกอย่างทันเวลา

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้มีการพูดคุยกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคร่วมรัฐบาล ถึงเรื่อง ของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือยัง นายสรวงศ์กล่าวว่า ระหว่างพรรคกับพรรคยังไม่ได้คุยกัน แต่มั่นใจว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า พรรค คงได้พูดคุยกันในระดับหัวหน้าพรรคกันแล้ว แต่จะออกมาเป็นอย่างไร ขอให้รอการพูดคุยกันในรายละเอียดกันก่อน เมื่อถามว่าหากหักดิบ สว.กังวล หรือไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำไม่ได้ แม้แต่เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา นายสรวงศ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ผ่านไปด้วยดีและทันเวลา หากมีอะไรที่สามารถปรับ เปลี่ยนได้ หรืออะไรที่เรายังคงสิ่งที่เรามุ่งมั่นอยู่ก็สามารถพูดคุยกันได้

อ้างแก้ รธน.ต้องฟังเสียงทุกฝ่าย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีคนออกมาตั้งข้อสังเกตว่าจะไม่ทันในรัฐบาลชุดนี้ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทย ประกาศไว้ตอนหาเสียง เมื่อได้เป็นรัฐบาลเดินหน้าอย่างจริงจัง ตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ได้ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว. กลาโหม ศึกษาแนวทางการทำประชามติ จนมีการเสนอแก้กฎหมาย เราดำเนินการมีความคืบหน้าชัดเจน แต่ต้องยอมรับว่าการขับเคลื่อนนโยบายใด ต้องฟังเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วย และเท่าที่ได้เห็นสัญญาณไม่ได้ หมายความว่าทุกพรรคการเมืองไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยแก้ เพียงแต่ส่งสัญญาณว่า ควรดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม ยึดโยง และฟังเสียงประชาชน เช่น ระหว่างรอการแก้ทั้งฉบับ เราเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ รายมาตราเกี่ยวกับการทำให้ประเด็นจริยธรรมชัดเจนขึ้น บางพรรคไม่อยาก ให้แก้ เพราะกลัวจะกลายเป็นประเด็นอ่อนไหว พรรค พท. ก็รับฟัง เช่นเดียวกับการแก้ไขทั้งฉบับที่ต้องรอบคอบ เป้าของรัฐบาลเราตั้งใจให้เสร็จทันการเลือกตั้ง ครั้งต่อไป แต่เมื่อมีเสียงของพรรคร่วมฯและเสียงของ ประชาชน รวมถึง สว. เราต้องรับฟังดำเนินการให้ รอบคอบรัดกุม เพราะต้องไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง

เชื่อ ปชช.เข้าใจ รบ.เอาจริงแม้ไม่จบ

เมื่อถามว่า ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทันตามที่หาเสียงไว้ พรรค พท. ต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายอนุสรณ์ตอบว่า เชื่อว่าประชาชนเข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาล ที่เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ เห็นได้จากการเดินหน้า พ.ร.บ.ประชามติ แต่เมื่อมีเสียงสะท้อนจากพรรคร่วมฯหรือ สว.ออกมาต้องรับฟัง เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ และทุกฝ่ายระวังร่วมกันเพราะขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรสุ่มเสี่ยง แต่สารพัดม็อบจ่อลงถนนแล้ว ประเทศชาติบอบช้ำมานาน ทุกคนเอาใจช่วยกันให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม ดังนั้น จึงเชื่อว่าถ้ารัฐธรรมนูญไม่เสร็จจริงๆ แต่คงใกล้เสร็จเต็มทน ไม่ได้อยู่ที่เดิมอย่างแน่นอน

ถ้า สว.ยืนล็อก 2 ชั้นทางตันตั้ง ส.ส.ร.หืด

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) จะนัดประชุมในวันที่ 16 ต.ค. เพื่อเคาะชื่อคนที่จะมานั่งกรรมาธิการ (กมธ.) ร่วมกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติถือว่าล่าช้าหรือไม่ว่า เรายังไม่รู้ว่าวันนี้วุฒิสภาจะมีท่าทีถอยหรือไม่ หากมีท่าทีถอยเพื่อทบทวนจะไว แต่หากยืนยันเช่นเดิมจะต้องขยายไปอีก 180 วัน แน่นอนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่ทันรัฐบาลนี้ แต่คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจอะไรขึ้นว่า ถ้าเห็นแก่บ้านเมืองต้องเดินไปอย่างไร เมื่อถามว่า ส่วนตัวมีข้อเสนอหรือทางออกระหว่างสองสภาฯอย่างไรหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า ไม่มีทางออกอะไรเลยเรื่องนี้มันตัน หากวุฒิสภาต้องการทำให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทบทวนมติ คือการเอาเสียงข้างมากของคนที่มาใช้สิทธิ แต่หากวุฒิสภายังยืนกรานที่จะเอาเสียงข้างมากสองชั้น ตรงนี้จะเหนื่อย และไม่มีสิทธิที่จะเสนอแนะอะไรได้เลย เพราะอยู่ที่วุฒิสมาชิกเขาคิดอย่างไรเท่านั้นเอง

รู้กันอยู่ใครคุมอำนาจกดปุ่ม สว.

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้การทำประชามติเกิดความล่าช้านอกจากวุฒิสภาอีกหรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า ไม่มีแล้ว มันอยู่ที่ สว. หากสว.ให้ผ่านทุกอย่างก็จบ ทุกคนรู้และปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้ใครคุมอำนาจของ สว.อยู่ เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อทำความเข้าใจกับทาง สว.หรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ต้องใช้คนระดับหัวหน้าพรรคประสานในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ เมื่อถามว่า หมายถึงให้หัวหน้าพรรคไปคุยกับวุฒิสภาใช่หรือไม่ นายครูมานิตย์กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคจำนวนมาก วันนี้ใครที่ดูแลวุฒิสมาชิก แค่พรรคสองพรรคไปคุยกันตรงนี้จบแล้ว และวันนี้เป็นที่โจษจันของสังคมอยู่แล้วว่า สว.เป็นกลุ่มก้อนของใคร จะให้พรรครวมไทยสร้างชาติหรือพรรคประชาธิปัตย์ไปคุยได้อย่างไร เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวุฒิสมาชิกเลย

สภาฯจ่อถกรายงาน ก.ม.นิรโทษกรรม

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเว็บไซต์สภาฯ เผยแพร่ระเบียบวาระการประชุม ในวันที่ 17 ต.ค. โดยจะมีพิจารณารายงานของคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งค้างมาจากการประชุมสภาฯ วันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตัวแทน กมธ.ของพรรค ปชน.ยืนยันว่า ทางพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเอาเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้คือวันที่ 17 ตุลาคม โดยจะไม่เลื่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่จะมีการพิจารณาในวันที่ 17 ต.ค.นี้ เป็นเพียงรายงานเกี่ยวกับแนวทางในการร่างกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในรายงานก็มีหลายแนวทาง ไม่ใช่เป็นการฟันธง ส่วนร่างกฎหมายจริงๆ ตนคิดว่าน่าจะเข้าสมัยประชุมหน้า ทั้งนี้ หากในรายงานไม่มีใครเห็นเป็นอย่างอื่น สามารถใช้ข้อบังคับที่ระบุว่าไม่ต้องลงมติได้

หวังอย่างน้อยเป็นประตูบานเเรก

เมื่อถามว่า ในรายงานทาง กมธ.ในส่วนของพรรค ปชน.เดิม ระบุว่าควรนิรโทษกรรมในประมวลความผิดอาญามาตรา 112 ด้วย จะเห็นต่างจากซีกของพรรครัฐบาล ที่อย่างไรจะไม่รวมความผิดในมาตรานี้เลย นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า คิดว่านี่เป็นประตูบานแรกว่า กมธ.ศึกษามาอย่างไร และมาตรา 112 มีคดีแบบใดบ้าง สิ่งที่เรายืนยันมาตลอดคือ ไม่ใช่ว่าจะนิรโทษกรรม หรือไม่นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 หรือไม่ แต่อยู่ที่ว่า แรงจูงใจในการกระทำผิดนั้น เป็นแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน เมื่อถามว่า หากในส่วนนี้ยังเห็นไม่ตรงกันจะต้องมีการลงมติหรือไม่ อย่างไร นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ในส่วนนี้จะเป็นเรื่องตอนที่ร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯแล้ว แต่นี่เป็นเพียงแค่ในส่วนของรายงานของคณะ กมธ. ในรายงานจะไม่มีเฉพาะว่าจะต้องนิรโทษกรรมมาตรา 112 แต่จะมีแนวทางที่ 1 แนวทางที่ 2 หรือแนวทางที่ 3 หรือแนวทางใดบ้าง เป็นต้น

“อ๋อย” เผยยกเลิกแล้ว 36 คำสั่ง คสช.

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คำสั่ง คสช.) บางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการได้พิจารณายกเลิกคำสั่ง คสช.ไป 36 ฉบับโดยไม่ต้องเขียนกฎหมายมารองรับ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องต้องกันว่ายกเลิกได้ แต่ถึงอย่างไรกรรมาธิการจะเร่งยกเลิกเพิ่มเติมฉบับที่กระทบต่อสิทธิมนุษยชนของประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด โดยเราเตรียมไว้อีก 17 รายการ ที่เห็นว่าจะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน อาจจะต้องสอบถามความเห็นจากส่วนราชการว่ามีการดำเนินการอะไรที่ค้างคาอยู่หรือไม่ หรือเป็นคดีค้างอยู่หรือไม่ ถ้ามีจะต้องเขียนบทรองรับอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียสิทธิ ทั้งหมดนี้กรรมาธิการจะพิจารณาโดยเร็วที่สุด

เหน็บคนเบื้องหลังจะฟุ้งซ่านตายก่อน

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว.โพสต์เฟซบุ๊ก “ใครจะล่มสลายก่อนกัน...” ระบุว่า เพื่อไทยหรือใครจะล่มสลายกันแน่ คนปล่อยข่าวเรื่องนี้คุยโตเหมือนหนังบู๊ล้างผลาญ ฉายออกมามีแต่คนโห่ เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ จับแพะชนแกะเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ เขียนคำร้องโยงไปมา เอาข่าวคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยที่รู้กันอยู่แล้วมาเขียนให้เข้าข้อกฎหมายตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำนองคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขยับอะไรผิดทุกเรื่อง จะพูดกินเดินนั่งนอนหรือหายใจผิดหมด มโนจินตนาการสารพัดเรื่อง คำร้องมาจากความล่มสลายทางความคิดและความแค้นมากกว่าเหตุผล ขบวนการนี้ไม่มีอะไรใหม่ เป็นการกระทำคนหน้าเดิม คนอยู่ข้างหลังก็คนเดิมๆ คิดแต่ล้มล้างรัฐบาล เซาะกร่อนบ่อนทำลายคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทย ตราบใดคุณทักษิณยังหายใจก็มองว่าผิด คิดตลอดเวลาจะให้เขาหยุดหายใจ จะได้นอนตายตาหลับ ถ้าฟุ้งซ่านขนาดนี้ สงสัยคนในขบวนการนี้จะล่มสลาย หยุดหายใจก่อนกระมัง

เงินดิจิทัลยกเลิกโกรธมาก-แบ่งจ่ายได้

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ 2,000 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “โกรธไหม ถ้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ไม่ตรงปก” ระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค. เมื่อถามถึงสถานะการได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ร้อยละ 56.95 ระบุว่าอยู่ในกลุ่มที่จะได้รับเงิน ร้อยละ 23.95 อยู่ในกลุ่มที่จะไม่ได้รับเงินใดๆ ร้อยละ 17 ได้รับเงินสด 10,000 บาทไปเรียบร้อยแล้ว และร้อยละ 2.10 ไม่แน่ใจ ทั้งนี้ผู้ที่ระบุว่าอยู่ในกลุ่มที่จะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟสที่ 2 และผู้ที่ระบุว่าไม่แน่ใจ ร้อยละ 41.58 ระบุว่าโกรธมาก ถ้ารัฐบาลตัดสินใจยกเลิกโครงการ ไม่มีการจ่ายเงินไม่ว่าจะเป็นเงินสดหรือเงินดิจิทัล ขณะที่ร้อยละ 40.30 ระบุว่าไม่โกรธเลย หากเป็นการจ่ายในรูปของเงินดิจิทัลวอลเล็ตแต่น้อยกว่า 10,000 บาท ร้อยละ 60.54 ไม่โกรธเลย ถ้าจ่ายในรูปของเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และร้อยละ 60.88 ไม่โกรธเลยเช่นกัน ถ้าแบ่งจ่ายในรูปของเงินดิจิทัลวอลเล็ต เช่น งวดละ 5,000 บาท 2 งวด

คนไม่ได้สิทธิหนุนแจกเงินให้ทุกกลุ่ม

เมื่อถามความคิดเห็นของผู้ที่ระบุว่าอยู่ในกลุ่มที่จะไม่ได้รับเงินใดๆเกี่ยวกับการแจกเงิน 10,000 บาทของรัฐบาล ร้อยละ 29.44 ระบุว่ารัฐบาลควรแจกเงินให้กับทุกกลุ่ม ไม่ว่ากลุ่มนั้นจะมีรายได้หรือทรัพย์สินเท่าไร รองลงมา ร้อยละ 25.47 ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินให้แก่กลุ่มใดๆ ร้อยละ 25.25 ระบุว่าเห็นด้วยเฉพาะการแจกเงินสด 10,000 บาทแก่กลุ่มผู้เปราะบาง ผู้พิการ เท่านั้น ร้อยละ 15.66 ระบุว่าเห็นด้วยกับการแจกเงินทั้งแบบเงินสดแก่ผู้เปราะบาง ผู้พิการ และแบบเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสที่ 2 ร้อยละ 2.30 ระบุว่าเห็นด้วยเฉพาะการแจกเป็นรูปแบบเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในเฟสที่ 2 เท่านั้น และร้อยละ 1.88 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'อิสราเอล' ปฏิเสธ รถถังโจมตีฐานทัพ UN ในเลบานอน ชี้ 'แค่ขนทหารบาดเจ็บ'

กองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (United Nations Interim Force in Lebanon: UNIFIL) รายง...

เปิดสมรรถนะจีน ‘ไม่ใช่แค่ซ้อมแต่พร้อมรบ’

ร้อยเอกหลี่ซี่ โฆษกกองบัญชาการภาคตะวันออก กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) เผยว่า การซ้อมรบ Joint Sw...

‘สหรัฐ’ เตรียมส่งทหารไป 'อิสราเอล' พร้อมระบบสกัดกั้นขีปนาวุธขั้นสูง

ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เผยเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่า การส่งทหารไปอิสราเอล พร้อมกับระบบต่อต้าน...

วันเดียวจบ! จีนซ้อมรบเตือนไต้หวันห้ามแบ่งแยกดินแดน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน รัฐบาลปักกิ่งประกาศเมื่อราว 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น 13 ชั่วโมงหลังเริ่มซ้อมรบ...