“นายกฯอิ๊งค์” ปวารณาจะทำการบ้านหนักขึ้นระดมมันสมองเพิ่มทีมกุนซือตั้ง “เดอะเต้น-อดีตปลัด สปน.” ช่วยงาน “ภูมิธรรม” วอนอย่าอคติกับนายกฯ ย้ำเวทีผู้นำโฟกัสสาระไม่ได้อยู่ที่ดูไอแพด ชี้สปีชทางการไม่มีใครด้นสด สะพัด “ครูใหญ่ เซราะกราว-หัวหน้าหนู” ย่องเข้าบ้านจันทร์ฯพบนายเก่า “อนุทิน” ชิ่งปัดตอบนักข่าวไร้สาระ “อ้วน” หูทวนลมบอกไม่เห็นไม่ได้ยิน วิปรัฐบาลเลื่อนถกรายงานปมนิรโทษ ขอคุยพรรคร่วมให้ตกผลึกสัปดาห์หน้ารู้เรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ประชามติยังลุ้นตั้ง กมธ.ร่วม สส.-สว. ขณะที่ ปธ.พรรคเพื่อไทยเมินสังคม โบ้ยไม่ใช่หน้าที่ตามตัว “พิศาล” ขึ้นศาล ขณะที่ “สว.นันทนา” เจอร้องจริยธรรมหมิ่นคนขายหมู
หลังไขข้อข้องใจดราม่า อ่านไอแพดในเวทีประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินหน้าทำงานตามปกติ โดยรับปากจากนี้ต้องทำการบ้านหนักขึ้นหน่อย ล่าสุดเซ็นแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯหัวกะทิเพิ่มอีก 2 ราย
“อิ๊งค์” อ้อนขอทำการบ้านหนักขึ้น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 7 ต.ค. ที่ห้องฉัตรา บอลรูม ชั้น 2 โรงแรมสยามเคมปินสกี้ เขตปทุมวัน กทม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Thailand Economic Big Move” ในงานสัมมนา ASEAN Economic Outlook 2025 : The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ว่า อายุ 38 ปี ถ้าอยู่ในวงการอื่นๆที่เคยทำธุรกิจมา ไม่มีใครบอกว่าอายุน้อย แต่พอมาเป็นการเมืองปุ๊บจะบอกว่าอายุน้อยไป แต่จริงๆคิดว่าคนที่อายุเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าเปิดโอกาสให้ทำงานในทุกตำแหน่ง ทุกๆวงการ คิดว่าจะมีไอเดียใหม่ๆเข้ามา พร้อมกับมีคนรุ่นก่อนซัพพอร์ตเป็นที่ปรึกษาได้ นี่เป็นเรื่องที่อยากให้ประเทศไทยค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้เราเห็นได้ชัดแล้วว่า ทุกวงการมีคนทุกอายุเพิ่มมากขึ้น ยืนยันจะทำเต็มที่ วันนี้ลิตส์ไว้แล้วว่าจะคุยกับ 10 ประเทศอาเซียน ที่จะประชุมด้วยกันอย่างไร จากนี้ไปต้องทำการบ้านหนักหน่อยว่า แต่ละประเทศจะสามารถคุยอะไรได้บ้าง ฝากขอกำลังใจจากประชาชนด้วย
...
ระดมสมองตั้ง “เต้น” เข้าทีมกุนซือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 348/2567 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 319/2567 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 16 ก.ย. เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกฯมอบหมาย ดังนี้ 1.นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส อดีตปลัดสำนักนายกฯ และ 2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ
“อ้วน” วอนอย่าอคติผู้นำอ่านไอแพด
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีดราม่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ อ่านไอแพดในเวทีประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ว่า ควรสนใจสาระมากกว่ารูปแบบ เพราะสิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ที่แต่ละประเทศจะต่อรองกัน มันอยู่ที่สาระ ไม่ได้อยู่ที่ใช้ไอแพดหรือไม่ใช้ จะเปิดดูหรือไม่เปิดดู ที่จริงแล้วตามวัตรปฏิบัติที่ทำกันมาไม่ได้มีปัญหา เปิดดูเพราะสปีชหรือการพูดที่เป็นทางการมากๆไม่มีใครพูดสด อ่านกันทั้งนั้น บางทีเห็นผู้นำระดับโลกยืนพูดมีพรอมเตอร์ (prompter) ให้เห็นทั้งนั้น อย่าใช้อคติ มาจ้องเล่นเรื่องรูปแบบ ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ ไปเจรจาแล้วได้เปรียบเสียเปรียบ อันนั้นมันน่าคุยกว่ามาคอยจับผิดจับถูก ไร้สาระ ในภาพรวมนายกฯไปประชุมต่างประเทศครั้งแรกถือว่าโอเค มีสายสัมพันธ์ที่ดี มีข้อตกลงเชื่อมโยงที่จะคุยกันต่อในอนาคตอีกหลายเรื่อง และที่นายกฯไปตอบคอมเมนต์ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจไม่ใช่ตอบโต้
ชงชื่อ “ฉัตรชัย” นั่งเก้าอี้เลขาฯ สมช.
เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 4/2567 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอ ครม. ในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.นราธิวาส ยกเว้น อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.ปัตตานี ยกเว้น อ.ยะหริ่ง อ.ปะนาเระ อ.มายอ อ.ไม้แก่น อ.ทุ่งยางแดง อ.กะพ้อ และ อ.แม่ลาน และ จ.ยะลา ยกเว้น อ.เบตง อ.รามัน อ.กาบัง และ อ.กรงปินัง) ออกไปอีก 3 เดือน โดย สมช.เตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 15 ต.ค.ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรมได้ลงนามเสนอชื่อนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการ สมช. เพื่อเสนอ ครม. พิจารณาแต่งตั้งในวันที่ 8 ต.ค.
“หนู” ลั่นไร้สาระ “เนวิน” พบ “ทักษิณ”
อีกเรื่อง กรณีกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 71 เขตบางพลัด กทม.โดยมีอีก 1 คนเข้าไปด้วย เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 ต.ค.ล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่า อีก 1 คน ที่เข้าไปด้วยนั้นคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ช่วงเช้า หลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 4/2567 และประชุมความปลอดภัยทางถนนกับนายกฯ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า นายอนุทินปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ เพียงหันมายิ้ม พร้อมโบกมือให้ผู้สื่อข่าวเท่านั้น ก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล กระทั่งเวลา 12.57 น. นายอนุทินได้กลับเข้าทำเนียบฯ ขึ้นไปห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 1 อีกครั้ง จากนั้นเวลา 13.37 น. ลงมาจากห้องทำงาน และยังไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่ได้ย้อนถามว่า มีข่าวด้วยหรือ ผู้สื่อข่าวเลยถามว่า ได้เข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้าด้วยหรือไม่ นายอนุทินส่ายหน้าพร้อมตอบว่า “ไร้สาระ” เมื่อถามว่า ไม่ใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ใครเป็นคนออกข่าว” พร้อมกับส่ายหน้า ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบฯไป
“ภูมิธรรม” ปัดไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยิน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว. กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ต.ค.ว่า ไม่เห็นได้ยินเลยมาจากไหนก็ไม่รู้
สั่งเลื่อนถกรายงานนิรโทษกรรม
ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาลเป็นประธานการประชุม ภายหลังการประชุมนายวิสุทธิ์กล่าวว่า การประชุมสภาฯสัปดาห์นี้ ยังไม่นำรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เลื่อนไปก่อน เพื่อรอพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลให้เกิดความชัดเจนก่อน ที่ผ่านมาฟังแต่ฝ่ายค้านยังไม่ได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล จำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือ ไม่ให้เข้าสภาฯแล้วมีประเด็นขัดแย้งกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนทั้งประเด็นรายงาน กมธ.และร่างกฎหมาย
ลุ้น กมธ.ร่วมฯคลอด ก.ม.ประชามติ
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายก รัฐมนตรี ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีวุฒิสภา ยังไม่ส่งร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่มีการปรับแก้เนื้อหากลับไปใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น ในการแก้รัฐธรรมนูญ กลับไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาว่า เข้าใจว่าส่งมาแล้ว จะนำเข้าสภาฯพิจารณา ก่อนนำไปสู่การตั้ง กมธ.ร่วมของ สส.และ สว.ส่วนข้อเสนอให้ปรับลดการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญเหลือ 2 ครั้งนั้น อยู่ระหว่างการหารือ ยังไม่ได้ข้อยุติในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นแค่ความเห็นของฝ่ายที่อยากทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนความตั้งใจที่อยากทำประชามติในช่วงแรกในช่วงเดือน ก.พ.2568 ไปพร้อมกับการเลือกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นั้น หาก กมธ.ร่วม สส.-สว.ตกลงกันไม่ได้ ต้องแขวนร่างกฎหมายไว้ 180 วัน ไม่ทันในเดือน ก.พ.แต่หาก กมธ.ตกลงกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึง 180 วัน อาจใช้เวลาแค่ 1 เดือนกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้จะทำประชามติทันต้นปีหน้า
พท.โบ้ยไม่ใช่หน้าที่ลากตัว “พิศาล”
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรค พท.กล่าวถึงกระแสสังคมเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ติดตามตัว พล.อ.พิศาล วัฒนวงศ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ภายหลังศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับคดีสลายการชุมนุม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่คดีจะหมดอายุความวันที่ 25 ต.ค. ว่า เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม สส.ไม่สามารถไปติดตามใครได้ เหนืออำนาจหน้าที่ เป็นอำนาจศาลออกหมายเรียก หมายจับ พรรคเพื่อไทยไม่ทราบว่า พล.อ.พิศาลไปอยู่ไหน ไม่ใช่หน้าที่ต้องไปติดตาม และไม่เกี่ยวกับภาพลักษณ์พรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่นโยบายพรรค ใครทำผิด พรรคไม่ได้รับผิดชอบ
ยื่นสอย “นันทนา” หมิ่นคนขายหมู
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายดิษเดช หิรัญจิรคุณ รองประธานกลุ่มธรรมาภิบาลเครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือต่อนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้ตรวจสอบจริยธรรม น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.มีพฤติกรรมดูหมิ่น เสียดสี เข้าข่ายผิด ป.อาญามาตรา 393 กรณีดูหมิ่น นายดิษเดชกล่าวว่า เมื่อ 23 ก.ย. น.ส.นันทนา ให้สัมภาษณ์กรณีไม่ได้รับเลือกเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา พาดพิง สว.ที่ได้รับเลือกว่า คนขายหมูเป็น กมธ. การเมืองฯ เป็นความผิดหรือไม่ และเข้าข่ายผิดประมวลจริยธรรมของ สว.ข้อ 14 กรณีทำงานปราศจากอคติ ข้อ 18 ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียเกียรติ ข้อ 24 เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพบุคคล ไม่ใช้วาจาใส่ร้ายหรือเสียดสีบุคคลใด ถ้าเข้าข่ายผิดให้ส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมาย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
