ในช่วงฤดูฝนที่สภาพอากาศแปรปรวนบ่อย ใครที่ต้องเดินทางบ่อยๆ อาจจะต้องมีแอปพลิเคชันเรดาร์ฝน เช็กสภาพอากาศ วางแผนการเดินทางล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงฝนตกหนัก น้ำท่วม หรือการจราจรติดขัด บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์มัดรวม 5 แอปพลิเคชันเช็กเรดาร์ฝนประเทศไทย พร้อมวิธีดูง่ายๆ มาให้ดังนี้
รู้จัก "เรดาร์ฝน" คืออะไร
เรดาร์ฝนเป็นหนึ่งในเครื่องมือในการตรวจอากาศ วัดฝนฟ้าคะนอง นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงตำแหน่งศูนย์กลางของพายุหมุนเขตร้อนในรัศมีหวังผลได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี กรมอุตุนิยมวิทยาได้แบ่งชนิดของเรดาร์ดอปเปลอร์ที่ใช้งานในประเทศไทยไว้ 3 ชนิด ดังนี้
- เรดาร์ X-band เหมาะใช้สำหรับตรวจวัดฝนที่ตกเล็กน้อย รัศมีหวังผลเพียง 100 กิโลเมตร มีความถี่ 10,000 เมกะเฮิรตซ์
- เรดาร์ C-band เหมาะใช้สำหรับตรวจวัดฝนที่ตกระดับปานกลาง ไปถึงหนัก หรือตรวจจับพายุหมุนกำลังไม่รุนแรงมากนัก รัศมีหวังผล 250 กิโลเมตร มีความถี่ 6,000 เมกะเฮิรตซ์
- เรดาร์ S-band เหมาะใช้สำหรับตรวจวัดฝนที่ตกหนักไปจนถึงหนักมาก หรือตรวจจับพายุหมุนกำลังรุนแรง รัศมีหวังผล 300 กิโลเมตร มีความถี่ 3,000 เมกะเฮิรตซ์
...
วิธีดูเรดาร์ฝน เช็กสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน
เรดาร์ฝน หรือเรดาร์ตรวจสภาพอากาศจะแสดงผลเป็นเฉดสี เพื่อแทนความรุนแรงของระดับฝน โดยค่าความเข้มของฝนมีหน่วยเป็น Decibel (dBZ) และแบ่งระดับสีตามค่าความเข้มไว้ดังนี้
- สีชมพู ระดับความเข้ม 56.5-66.5 dBZ หมายถึง ฝนตกหนักมาก มีลูกเห็บตก ความแรงฝนมากกว่า 100 มม./ชม.
- สีส้มไปจนถึงสีแดง ระดับความเข้ม 49.0-54.0 dBZ หมายถึง ฝนตกหนักถึงหนักมาก ความแรงฝน 50-100 มม./ชม.
- สีเหลืองเข้มไปจนถึงสีส้มอ่อน ระดับความเข้ม 41.5-46.5 dBZ หมายถึง ฝนตกปานกลาง ความแรงฝน 12-50 มม./ชม.
- สีเหลืองเข้มไปจนถึงสีส้มอ่อน ระดับความเข้ม 29.0-39.0 dBZ หมายถึง ฝนตกเล็กน้อย ฝนพรำ ความแรงฝน 3-12 มม./ชม.
- สีเขียว ระดับความเข้ม 21.5-26.5 dBZ หมายถึง ฝนตกหยิมๆ ฝนโปรย ไม่สามารถวัดความแรงฝนได้
- สีน้ำเงินเข้มไปจนถึงสีเขียว ระดับความเข้ม 6.5-19.0 dBZ หมายถึง ฟ้าสลัว ไม่มีฝนตก
แนะนำ 5 แอปพลิเคชันเรดาร์ฝน พยากรณ์อากาศ
1. Rainviewer
Rainviewer แอปพลิเคชันเช็กเรดาร์ฝนวันนี้ สามารถเช็กสภาพอากาศได้ทั้งรายชั่วโมงและรายวัน มาพร้อมกราฟฝนสามารถเช็กได้นาทีต่อนาที มีเรดาร์ดูความรุนแรงของฝนและเส้นทางของพายุ ตั้งแต่ 48 ชั่วโมงก่อนหน้า ไปจนถึงการคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อวางแผนการเดินทาง 90 นาที นอกจากนี้ยังสามารถเปิดแจ้งเตือนสภาพอากาศล่วงหน้าได้อีกด้วย
ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
2. Windy.com
แอปพลิเคชันเรดาร์ฝนสามารถใช้งานได้ทั่วโลก มาพร้อมจุดเด่นอย่างการเช็กเรดาร์ฝน ลม ทิศทางกลุ่มเมฆ หิมะ อุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณฝนสะสม และอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำ สามารถเช็กกล้องเว็บแคมเพื่อเช็กสถานการณ์ฝน รวมไปถึงเช็กสภาพอากาศบริเวณสนามบิน แน่นอนว่าสามารถเปิดแจ้งเตือนสภาพอากาศได้อีกด้วย
ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
3. NOAA Weather Radar
NOAA Weather Radar แอปพลิเคชันเช็กเรดาร์ฝนประเทศไทยและทั่วโลก ผ่านภาพดาวเทียมรวมไปถึงเรดาร์แบบเรียลไทม์ โดยใช้ข้อมูลจาก The National Oceanic and Atmospheric Administration ภายใต้การความควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถเช็กได้ทั้งอุณหภูมิ ช่วงเวลาฝนตก ความหนาแน่น และอื่นๆ โดยทางแอปพลิเคชันมีฟีเจอร์พิเศษสำหรับสมาชิกที่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย
ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
...
4. Thai Weather
Thai Weather แอปพลิเคชันเช็กเรดาร์ฝนจากกรมอุตุนิยมวิทยา สามารถเช็กข้อมูลได้อย่างเรียลไทม์ มาพร้อมฟีเจอร์รายงานสภาพอากาศได้อย่างแม่นยำ แผนที่เตือนภัย ประกาศ เรดาร์ฝน แผ่นดินไหว ทางเดินพายุ รวมไปถึงการอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนเดินทางอีกด้วย
ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
5. Zoom Earth
อีกหนึ่งแอปพลิเคชันเช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ผ่านดาวเทียมคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังสามารถเลือกแสดงเรดาร์ เช็กอุณหภูมิ ความชื้น ปริมาณฝน ทิศทางลม นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ข้อมูลภาพถ่ายให้กับเพื่อนร่วมทาง เพื่อวางแผนก่อนออกจากบ้านได้อีกด้วย
ดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
...
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย นอกจากจะเช็กเรดาร์ฝนก่อนออกจากบ้านแล้ว แนะนำให้พกร่ม เสื้อกันฝน รวมถึงเผื่อเวลาในการเดินทาง เนื่องจากหากสภาพอากาศเลวร้ายหรือมีฝนตก อาจส่งผลกระทบให้การจราจรติดขัดได้
อ้างอิงข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
