ประวัติ แมวโคราช จากแมวไทยพื้นเมืองสู่ซอฟต์พาวเวอร์ยุคใหม่

แมวโคราช แมวไทยพื้นเมืองของจังหวัดนครราชสีมา ได้กลายเป็นไอคอนสำคัญที่ต่อยอดสู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ให้คนทั่วโลกได้รู้จักในวันนี้ ผ่านสินค้าต่างๆ ตั้งแต่กางเกงแมวโคราช ไปจนถึงอาร์ตทอยปลุกเสกให้สายมูได้สะสม

ประวัติแมวไทยโคราช

แมวไทยโคราช หรือแมวสีสวาด มีต้นกำเนิดที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในนามว่าโคราช มีลักษณะเด่นคือเป็นแมวขนสั้น เป็นมัน เส้นละเอียดและเรียงชิดติดกับผิวหนัง มีขนสีเดียวคือสีสวาด ซึ่งมีลักษณะเทาอมเขียว หรือบางคนอาจจะมองว่าเป็นสีเงินอมฟ้า ส่วนจมูก ริมฝีปาก และอุ้งเท้าของแมวโคราชมีสีน้ำเงินอมเทาหรือสีม่วง

แมวโคราชมีหน้าตาคล้ายกับแมวสายพันธุ์รัสเซียบลู (Russian Blue) แต่แมวโคราชมีขนชั้นเดียวและรูปร่างกลมมากกว่า และตามีสีเขียวอ่อนมากกว่าสีฟ้าเข้ม ส่วนหัวจะเป็นทรงหัวใจและมีใบหูใหญ่ ตาโต ดูตื่นตัว ส่วนลำตัวก็แข็งแรง มีกล้ามเนื้อ และไม่ได้ตัวยาวเหมือนแมววิเชียรมาศ (Siamese cat) หรือป้อมเหมือนแมวบริติชช็อตแฮร์ (British Shorthair)

ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือรัชกาลที่ 2 โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นแมวใกล้สูญพันธุ์และควรค่าแก่การอนุรักษ์ และจัดว่าเป็น 1 ในแมวไทยมงคล 17 ชนิด ที่เชื่อกันว่าหากบ้านหลังไหนเลี้ยงแมวโคราชไว้ เจ้าของจะมีแต่ผู้หลักผู้ใหญ่คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน นอกจากนี้ตามธรรมเนียมไทยโบราณ มักนิยมให้แมวโคราชเป็นคู่แก่เจ้าสาว เพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

...

ในช่วงศตวรรษที่ 19 ได้มีผู้นำแมวโคราชเข้าร่วมในงานบริติชแคตโชว์ (British cat show) โดยเรียกว่า “แมวสยามสีน้ำเงิน” (Blue Siamese cat) ส่วนในสหรัฐอเมริกา พบแมวโคราชครั้งแรกในช่วงทศวรรษ 1950 และเข้ามาในเกรทบริเตนในปี 1972 ซึ่งเป็นแมวไม่กี่สายพันธุ์ที่มีเพียงสีเดียว ซึ่งก็คือสีเทาเข้มแบบสีสวาด

สำหรับอุปนิสัยของแมวโคราช จะไม่ใช่แมวช่างพูด แต่มีความอ่อนหวาน ฉลาด และขี้เล่น เหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยงและชอบดูแลเอาใจใส่ทาส

จากแมวไทยมงคลสู่ซอฟต์พาวเวอร์ที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่

ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและความเป็นแมวไทยมงคลของแมวโคราช ทาง YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา จึงได้นำมาเป็นไอเดียซอฟต์พาวเวอร์ใน “กางเกงแมวโคราช” ซึ่งมาจากการประกวดการออกแบบลายโคราช โมโนแกรม จนเกิดกระแสความต้องการของคน ทำให้สามารถต่อยอดไปอย่างหลากหลายสินค้า รวมถึงการเป็นแฟชั่นไอเทมในเกมออนไลน์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Free Fire ที่สามารถเข้าถึงผู้เล่นได้มากกว่า 568 ล้านคน จากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก

ล่าสุดได้ต่อยอดแมวโคราช สู่การเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในรูปแบบของเล่นอาร์ตทอยกล่องสุ่มสำหรับสายมูให้คนได้สะสมถึง 5 ภาคของไทย ภายใต้ชื่อ “เจ้าเมื่อย” เพื่อให้เป็นแมวกวักที่เป็นแมวมงคลของไทยเหมือนกับแมวกวักของญี่ปุ่น

จิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ ประธาน YEC หอการค้า จ.นครราชสีมา เผยกับรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เกี่ยวกับการออกแบบ “เจ้าเมื่อย” ว่าเขาเป็นคนออกแบบแนวคิดนี้ขึ้นมาเองทั้งหมด ที่มาของชื่อ “เจ้าเมื่อย” คือกวักพรจนเมื่อยทำหน้าเบื่อกันไปข้างหนึ่ง และเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวไทยทั้ง 5 ภาคของไทย ผ่านแมวไทยมงคล 5 สายพันธุ์ ได้แก่

1. ภาคอีสาน เป็น “แมวโคราช” บนหัวใช้เป็นดอกสาธร ฐานเป็นย่าโม ช่วยเรื่องโชคลาภ ขอให้โชคดี ถูกรางวัลที่ 1
2. ภาคเหนือ เป็น “แมวขาวมณี” บนหัวเป็นปีกวิเศษ ฐานเป็นรูปหัวใจ ต้องหามาประกบกันให้เป็นคู่ ช่วยเรื่องความรัก คนรักคนหลง
3. ภาคกลาง เป็น “แมววิเชียรมาศ” บนหัวใช้เป็นดอกบัวหลวง ฐานออกแบบมาจากวัดอรุณราชวราราม ช่วยเรื่องผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชู เมตตามหานิยม
4. ภาคตะวันออก เป็น “แมวศุภลักษณ์” บนหัวใช้เป็นดอกทานตะวัน ฐานออกแบบเป็นสมอเรือ ช่วยเรื่องหน้าที่การงาน การเจรจาค้าขาย
5. ภาคใต้ เป็น “แมวโกนจา” บนหัวใช้เป็นปลาหมึกมาจากทะเล ฐานออกแบบเป็นปลากระเบนราหู ช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป

วิธีการมูขอพรคือหยิบขนมแมวออก จากนั้นให้ร้องเหมียวๆ จนกว่าแมวจะออกมา ถ้าไม่มีแมวให้ขอกับแมวจรได้ ร้องเหมียวกี่ครั้งแล้วแมวออกมานั่นคือเลขให้โชค แล้วให้ขอพรกับแมวบริวารของเจ้าเมื่อย ซึ่งหมายถึงแมวที่เรียกออกมานั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการต่อยอดที่ถูกใจสายมูและนักสะสมอาร์ตทอยกล่องสุ่ม และยังโดนใจเหล่าทาสแมวอีกด้วย

...

ข้อมูลอ้างอิง : Purina