ทุกครั้ง ที่คุณ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ซีพีออลล์ โทร.มา...ถ้าผมจำเสียงได้ ผมก็เรียก “ท่านก่อ” แล้วก็ทุกครั้ง ก็จะมีเสียงทักเสียงดังๆ...“อย่าเรียกผมว่าท่านได้ไหมพี่”
ผมมารู้เอาทีหลัง พวกลูกน้อง เรียกคำนำหน้าคุณก่อว่า “เฮีย”
วันหนึ่ง คุณก่อคงรำคาญ ถามผม อยากรู้ว่า เอาเรียก “ท่าน” มาจากไหน ผมตอบว่า เอามาจากสภาฯ ฟังนักการเมืองเขาเรียกขานกันว่า “ท่าน” ผมเห็นว่า “ใช่” ก็เอามาใช้บ้าง
เราพอรู้ๆกัน คำเรียก “ฯพณฯท่าน” ย่อมาจากคำเต็มๆ พณะหัวเจ้าท่าน...ครูอาจารย์ กำหนดให้เรียกเป็นคำแทน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ประธานสภาฯ หลายๆสภา
ลดหลั่นมาจากนั้น...เป็นทางการเขาไม่ใช้ แต่เมื่อนักการเมืองตัดคำ “ท่าน” เอามาเรียกกัน...ชาวบ้านอย่างผมก็ฟังได้ แล้วก็ขอมาใช้กับคนที่มีบุญบารมีบางคนบ้าง คนพวกไม่มีหลักเกณฑ์อย่างผม...ก็แค่นั้น
ตอนบวชเณร ผมเคยแวะเวียนรับใช้เจ้าคุณใหญ่ พระธรรมปิฎก (สนิท เขมจารี) สมภารวัดบ้านแหลมสมุทรสงครามแล้ว ท่านยังมีตำแหน่งเถรสมาคม ซึ่งเพิ่งเปลี่ยนมาจากตำแหน่งเดิม สังฆมนตรี
วันหนึ่ง ได้ยินโยมผู้ใหญ่...ท่าทางคงแก่เรียน...พนมมือ เรียกท่าน “ใต้เท้า” แล้วใช้คำแทนตัว “เกล้า” ผมฟังแล้วเห็นว่า “ขลัง” ก็ตามอย่าง ต่อมาท่านเป็นสมเด็จพระธีรญาณมุนี ผมเป็นนักข่าวจะเรียกท่านใต้เท้าก็ขัดเขิน
หลุดปากเรียก “หลวงพ่อ” แล้วก็โล่งใจ เพราะสมเด็จท่านก็ตอบสนองด้วยเมตตาแบบเดิมๆ
การไปพูดจากับพระผู้ใหญ่ ก็คงเป็นปัญหาให้กับคนไกลวัด...ผมเคยถูกข้าราชการหญิงถาม จะเรียกพระท่านยังไง ผมบอก “ท่าน” นั่นแหละใช้ไปเลยไม่ขาดไม่เกิน
...
เรื่องคำเรียกสมัยใหม่...มีกระแสเปลี่ยนไปเรื่อยๆ...ตอนนี้ นิยมเรียก “มาดาม” ...ดูเหมือน “มาดามแป้ง” ที่กำลังเข้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฯจะเป็น “มาดาม” ที่มีราศีเจิดจ้ากว่าเพื่อน
ส่วน” มาดามเดียร์”...กระแสแผ่วๆลงบ้าง หลังพลาดตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
แต่ผมก็ยัง “ให้ใจ” อย่างน้อย “มาดามเดียร์” ก็สามารถใช้พื้นที่สื่อได้มาก เป็นพื้นฐานที่ดี หากจะยังรักเล่นการเมืองต่อไปในภายหน้า
พอพูดถึงคำ “มาดาม” บังเอิญผมเจอคำเรียกโบราณ “อำแดง” ซึ่งไม่ก็ค่อยแน่ใจนักว่า เป็นผู้หญิงระดับไหน
ส.พลายน้อย อธิบายไว้ในสารานุกรมวัฒนธรรมไทย...อำแดง เป็นชื่อที่ใช้เรียกผู้หญิงที่ไม่มีบรรดาศักดิ์ จะอยู่กับสามีหรือเป็นม่าย...ก็ได้
ในสมัย ร. 4 คงเรียกขาน “อำแดง” กันสับสนปนเป...พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงมีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 9 ขึ้น 5 ค่ำ ปีขาล ฉศก จุลศักราช 1216 (30 ก.ค.2397) กำหนดแบบแผนไว้ ดังต่อไปนี้
“ถ้ายังไม่มีผัว เรียกอำแดงไม่ได้ ให้ออกชื่อเปล่าๆเถิด
แลภรรยาขุนนาง ซึ่งเป็นเจ้าพระยาแลพระยาพระหลวง ซึ่งมีตำแหน่งรับนามบัตร ถ้าเป็นพระยาถือน้ำ ให้เรียกท่าน เอาคำว่า “ท่าน” นำชื่อ แล้วว่าภรรยาผู้นั้น
ถ้าภรรยาน้อย ให้ออกชื่อเปล่าๆ แล้วอ้างว่าภรรยาผู้นั้น อย่าให้เรียกว่าอำแดง
แต่ภรรยาของคนที่เป็นหลวงขุนหมื่น ที่ไม่ได้รับชื่อจากในหลวง เป็นเจ้าขุนมูลนายตั้งนั้นให้เรียกอำแดง แต่คนหลวงโขลนสะดึง ช่างเย็บ ช่างย้อม เรียกว่าอำแดงไม่ได้ ออกชื่อเปล่าๆ แล้วสังกัดเถิด
ผมตั้งใจเอาคำประกาศนี้ไปบอก คุณก่อศักดิ์ ซีพีออลล์ว่า รู้ต้นตอของคำเรียก “ท่าน” แล้วครับ ร.4 ท่านให้เรียกเฉพาะภรรยา ท่านเจ้าพระยา พระยา พระหลวง ที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
ส่วนเมียน้อยท่านไม่ให้ใช้ น่าเสียใจจริงๆ.
กิเลน ประลองเชิง
คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม