'สะดุดแต่ไม่ถอย' เร่งเครื่องต่อสู่ความยั่งยืน

ฝนที่ตกต่อเนื่องอย่างไม่ลืมหูลืมตาจนเกิดน้ำท่วมและดินถล่มที่ภาคเหนือของไทยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ย้ำเตือนถึงความรุนแรงของสภาพอากาศสุดขั้ว (Extreme Weather) ที่ก่อความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน  ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านชี้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากภาวะโลกเดือดนั่นเอง เห็นได้จากความถี่ของสภาพอากาศสุดขั้วที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากในอดีต

ท่ามกลางความเสี่ยงว่าเราจะเจอพายุมาทิ้งระเบิดฝน (Rain Bomb) อีกเมื่อไหร่ องค์กรต่างๆ ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยก็กำลังเดินหน้าลดโลกร้อนผ่านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  แน่นอนว่าองค์กรต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนกระบวนการให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์วัดประเมินต่างๆ ด้าน ESG  ซึ่งการลงทุนเหล่านี้เริ่มกระทบผลการดำเนินงานโดยรวมขององค์กร

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่นานมานี้ เราได้ยินข่าวว่าหลายบริษัทลดความเข้มข้นของคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้สู่การเป็นธุรกิจสีเขียว ขณะที่นักลงทุนบางกลุ่มหันกลับไปหากองทุนหวังกำไรทั่วไปแทนกองทุนรักษ์โลก

หนึ่งในตัวอย่างล่าสุดขององค์กรที่มีการปรับหรือเลื่อนการเปลี่ยนผ่าน คือจากที่บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค Unilever เคยมุ่งลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงให้ได้ร้อยละ 50 ภายใน ค.ศ. 2025  ปีนี้ Unilever ประกาศใหม่ว่าจะลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงให้ได้ร้อยละ 40 ภายใน ค.ศ. 2028

อีกตัวอย่างคือบริษัทพลังงานและปิโตรเคมี Shell ปรับเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันโดยลูกค้าภายในปี 2030 จากที่เดิมเป็นตัวเลขชัดเจนคือร้อยละ 20 ปรับใหม่เป็นช่วงระหว่างร้อยละ 15-20  และค่ายรถยุโรปอย่าง Volvo เพิ่งประกาศเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้ว่าจะไม่เป็นบริษัทผลิตรถไฟฟ้า (EV) ล้วนภายใน ค.ศ. 2030 อย่างที่ตั้งเป้าไว้ตอนแรก แต่ผลิตเป็น EV ผสมกับรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) แทน

อาจจะด้วยความซับซ้อนเชิงทฤษฎีหรือความยากเชิงปฏิบัติ จึงทำให้องค์กรเหล่านี้ตัดสินใจปรับปณิธานให้สะท้อนศักยภาพจริงขององค์กรว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมาย ESG ในระดับใด เพราะหากเป้าหมายที่เคยตั้งไว้เกินขีดความสามารถ องค์กรต้องทบทวนว่ามีทรัพยากรหรือองค์ความรู้เพียงพอสำหรับบรรลุเป้าหมายดังกล่าวหรือไม่ แล้วปรับเป้าหมายให้สมเหตุสมผลขึ้นก่อนเดินหน้าต่อไป

ใช่ครับ ต้องเดินหน้าต่อ เพราะสิ่งเหล่านี้มิใช่เพียงเส้นชัยที่แข่งครั้งเดียวจบ แต่เป็นมาตรฐานที่ควรยืดถือเป็นปกติ (Business as Usual: BAU) เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทุกคนท่ามกลางอุณหภูมิโลกที่เร่งขึ้นแบบไม่รอเรา  จากข้อมูลในรายงาน Sustainable Development Goals Report 2024 ชี้ว่าความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมาย SDG 17 ข้อภายใน ค.ศ. 2030 น่ากังวล เพราะขณะนี้ แม้เป้าหมายที่ 13 แก้ปัญหาโลกร้อน มีเป้าหมายย่อยที่คืบหน้าพอสมควร แต่ก็มีเป้าหมายย่อยที่ถดถอยแย่กว่าใน ค.ศ. 2015 เช่นกันเนื่องจากวิกฤตโลกหลายด้านที่ยืดเยื้อในหลายปีที่ผ่านมา

หันมามองประเทศไทย มีข้อเสนอที่น่าสนใจจากการวิเคราะห์ของ ผศ.ชล บุนนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Move) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่กล่าวถึงยุทธศาสตร์ประเทศไทยในเรื่องนี้ว่าควรมุ่งเน้นไปที่ 6 เรื่อง อาทิ การรับมือกับภัยพิบัติอย่างน้ำท่วมที่รุนแรงขึ้นจนกระทบระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเปลี่ยนผ่านระบบพลังงาน อุตสาหกรรม หรือการท่องเที่ยว ให้มีความเป็นธรรมและยั่งยืนมากขึ้น เป็นต้น

เส้นทางสู่อนาคตสีเขียวอาจมีความท้าทายที่เราต้องก้าวข้าม  แม้จะสะดุดบ้างแต่เราต้องไม่ย่อท้อ มีแต่ต้องมุ่งหน้าบูรณาการ ESG ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพของเศรษฐกิจและสังคมอย่างรอบด้านครับ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

โอบามา ลุยหาเสียงช่วยแฮร์ริส เลือกตั้งสหรัฐ สูสี แม้เข้าช่วงโค้งสุดท้าย

อดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา เชิญชวนให้ชาวอเมริกันลง คะแนนเสียงให้กับรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส...

TikTok เลิกจ้างพนักงานหลายร้อยคน หลังใช้ AI ทำงานกรองเนื้อหาแทน ‘มนุษย์’

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) บริษัทแม่ของ TikTok ประกาศว่ากำลังเลิกจ้างพนักงาน...

‘เฮดจ์ฟันด์ชั้นนำ’ หันมาช้อนหุ้นจีน ชี้ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “กองทุนเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำของจีน” หันมาซื้อหุ้นเทคโนโลยีจีนที่จดทะเบียนในฮ...

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนยินดีไทยนั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษชนยูเอ็น

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ออกแถลงการณ์ในวันที่ 11 ต.ค. ความว่า ตามที่ประเทศไทยได้รับการเลือ...