เพื่อไทยบีบหัวหน้าพรรคร่วม ถกกันให้ชัด ก่อนเสนอกม. ประชามติ

“วิสุทธิ์” แย้มอาจต้องตั้ง กมธ.ร่วม 2 สภา ถก ก.ม. ประชามติ ตัดปัญหาขัดแข้งขัดขากันเอง โยนเข้าวง หัวหน้าพรรคร่วม เพื่อไทยเล่นตามบทแก้ รธน. “อังคณา” จวกวุฒิฯเสียงข้างมากยื้อ พ.ร.บ.ประชามติ สงสัยมีอิสระจริงไหม เปิดโปรแกรม “นายกฯอิ๊งค์” โชว์ตัวนอกเวทีแรก ACD ที่กาตาร์ นิด้าโพลชู “อิ๊งค์” นายกฯอันดับ 1 ขณะที่พรรคประชาชนยังครองใจชาวบ้าน สวนดุสิตโพลชี้ “แพทองธาร” โดดเด่นฝั่งรัฐบาล-“พิธา” เด่นฝ่ายค้าน นายกฯขอบคุณโพลยกขึ้นที่หนึ่ง ปชน.เปิดแคมเปญ “เท้งทั่วไทย” ไม่เสียกำลังใจความนิยมตามหลัง ลั่น 2568 ปีแห่งการซักฟอก-ตรวจสอบ “ขิง” ปลื้ม รทสช.พุ่งขึ้นที่ 4 “แสวง” โอดครวญตกเป็นจำเลยสังคม ภท.ส่อรอดคดียุบพรรครับเงินเทา เผยนายทะเบียนฯยุติเรื่องยุบ พปชร.แล้ว

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีโปรแกรมปรากฏตัวบนเวทีระหว่างประเทศเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง เพื่อเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue:ACD) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2-3 ต.ค.2567 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์

“วิสุทธิ์” เผยอาจต้องตั้ง กมธ.ร่วม

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ วุฒิสภา เสียงข้างมากแก้ไขหลักเกณฑ์การออกเสียงประชามติ ต้องใช้เสียงสองชั้น ต่างจากร่างของสภาผู้แทนราษฎรที่ใช้แค่เสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ เป็นการยื้อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ว่า ไม่ขอวิจารณ์การทำงานของ สว. ขั้นนี้ถือเป็นหน้าที่ของเขา แต่หากที่สุดแล้วที่ประชุมวุฒิสภามีมติอะไรที่ต่างจากร่างที่ สส.เสนอไป ต้องมาตั้งกรรมาธิการร่วมกันของรัฐสภา เพื่อให้ได้กฎหมายที่มีความเห็นร่วมกันของทั้งสองสภาฯ

...

ตัดปัญหาโยนเข้าวง หัวหน้าพรรคร่วม

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า จากนี้การดำเนินการในสภาฯคงต้องให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลคุยกันก่อน ให้เกิดความชัดเจนว่าจะเสนอกฎหมายอะไรอย่างไร ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แล้วเข้าสู่ที่ประชุมวิปรัฐบาลเพื่อเป็นมติ จะได้ไม่มีปัญหาอีก เชื่อว่าทุกอย่างจบได้ด้วยการเจรจา เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย เราไม่ทิ้ง แต่จะให้เป็นไปตามกระบวนการที่จะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในอนาคตดำเนินการ รัฐบาลก็ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนเกี่ยวกับอุทกภัยขณะนี้ รวมถึงการเร่งพัฒนาเศรษฐกิจ วันนี้เงินหมื่นแรกออกไปแล้ว ประชาชนจับจ่ายใช้สอยคึกคัก เมื่อรอบที่สองออกมาจะเกิดการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น จะเกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่เราตั้งเป้าไว้ ทำให้ประชาชนมีความสุข

เพื่อไทยเล่นตามบทเดินหน้าแก้ รธน.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มีทั้งฝ่ายที่อยากให้เร่งแก้ไขเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยยึดโยงกับประชาชนให้มากขึ้น และฝ่ายที่ไม่อยากให้แก้ไขให้เป็นฉบับปราบโกง มีประเด็นจริยธรรมควบคุมนักการเมืองเหมือนที่เป็นอยู่ พรรคเพื่อไทยรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เรามีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ยังคงเดินหน้าเรื่องนี้ต่อเนื่อง จะเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นที่ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและยึดโยงกับประชาชน เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า สามารถเป็นรัฐธรรมนูญที่วางกรอบการทำงานของนักการเมืองเป็นฉบับปราบโกงให้อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันได้ ทั้งหมดนี้ต้องดำเนินการตามกรอบกฎหมายเดิมที่มีอยู่ให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมาอีก ยืนยันเราเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับตามนโยบายที่หาเสียงไว้แน่นอน

“อังคณา” ฉะวุฒิยื้อ พ.ร.บ.ประชามติ

ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม สว.เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เสียงส่วนใหญ่แก้ไขหลักเกณฑ์ที่การออกเสียงประชามติ ต่างไปจากร่างของสภาผู้แทนราษฎรว่า ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก เพราะการใช้เสียงข้างมากสองชั้นแบบนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงที่ทุกคนเห็นร่วมกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จำเป็นต้องแก้ไข รู้สึกแปลกใจที่การพิจารณาในชั้น กมธ. เห็นด้วยกับร่างของฝั่งสภาผู้แทนราษฎรมาตลอด จนมาประชุมครั้งสุดท้ายนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากว่าเกิดอะไรขึ้น สว.มีอิสระจริงหรือไม่ แบบนี้จะทำให้ร่าง พ.ร.บ.ประชามติล่าช้า ไม่ทันการเลือกตั้ง อบจ.ในเดือน ก.พ.2568 เมื่อถามว่ามองอย่างไรหากต้องมีการตั้ง กมธ.ร่วมสองสภา นางอังคณาตอบว่า อยู่ที่ กมธ.ร่วมสองสภาจะทำให้เรื่องนี้ยืดเยื้อหรือเร่งรัด หากโชคดี กมธ.ร่วมพิจารณาแล้วเห็นตามร่างของฝั่งสภาฯ ต้องใช้เวลาอีก 60 วัน พ.ร.บ.ฉบับนี้จึงจะมีผลบังคับใช้ นั่นคือพิจารณาเสร็จและประกาศใช้ภายในต้นเดือน ธ.ค. จึงจะทันทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้ง อบจ.

โปรแกรม “นายกฯอิ๊งค์” โชว์ตัวนอก

วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการนำคณะเดินทางไปร่วมประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 2-3 ต.ค.2567 ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ ตามคำเชิญของเชคตะมีม บิน ฮะมัด อาล ษานี (Shiekh Tamim Bin Hamad Al-Thani) เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารจะขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ วันที่ 3 ต.ค. มีหัวข้อที่จะกล่าว เช่น เศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาทรัพยากรอื่นๆที่เกี่ยวข้องระหว่างประเทศสมาชิก รวมถึงการใช้กีฬาเพื่อการทูตระหว่างประเทศ รวมทั้งวิสัยทัศน์การรับมือกับความท้าทายระดับภูมิภาคและระดับโลก ถือเป็นการเข้าร่วมประชุมในเวทีระหว่างประเทศครั้งแรกของ น.ส.แพทองธาร สื่อมวลชนต่างประเทศให้ความสนใจกับผู้นำไทยคนใหม่ และยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับประเทศสมาชิก ACD ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงโอกาสขยายการค้าการลงทุน และความร่วมมือในระดับรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนแสดงบทบาทผู้นำของไทยในฐานะผู้ริเริ่มจัดตั้งกรอบ ACD ถือเป็นกรอบความร่วมมือที่มีประเทศในภูมิภาคเอเชียเป็นสมาชิกมากที่สุดถึง 35 ประเทศ

ขอบคุณโพลยกขึ้นอันดับหนึ่ง

นายจิรายุกล่าวอีกว่า น.ส.แพทองธารขอบคุณทุกกำลังใจจากประชาชนกับผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567 ของนิด้าโพล พบว่า สนับสนุน น.ส.แพทองธารเป็นอันดับ 1มองว่ามีความเป็นผู้นำและพยายามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน น.ส.แพทองธารระบุว่าผลโพลครั้งนี้เป็นกำลังใจในการทำงานของทุกคนในรัฐบาล และช่วงเวลานี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการพิสูจน์ตัวเอง แม้ผลโพลจะดีขึ้นเป็นเครื่องชี้วัดอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าประชาชนยอมรับการทำงานของนายกฯและนโยบายรัฐบาล แต่รัฐบาลยังต้องมุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย และแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลไกรัฐที่ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อนำพาประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักความยากจน และนำพาประเทศไทยไปสู่ประเทศชั้นนำของโลกให้ได้

“ชนินทร์” แนะ รบ.รู้ทันบาทแข็ง

นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงค่าเงินบาทแข็งขึ้นว่า แม้นายกฯจะให้สัมภาษณ์สื่อพลาดไป ทำให้เข้าใจว่านายกฯไม่รู้เรื่องการแก้ไขปัญหาและการได้ประโยชน์จากการที่ค่าเงินบาทแข็งหรือไม่ ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจ ขอให้รัฐบาลเร่งติดตามการแก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่าว่าจะใช้ประโยชน์นี้ จะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ สินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร โลหะอุตสาหกรรม ปศุสัตว์ มีต้นทุนการนำเข้าลดลง และจะส่งผลดีต่อสินค้าอุปโภคบริโภค มีราคาลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันและปุ๋ยได้จริง เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องทันเหตุการณ์ เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงพลังงาน

ทวง “มีกินมีใช้ฯ” 3 เดือนไม่คืบมีเสียว

นายชนินทร์กล่าวว่า รัฐบาลต้องดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ทั้งการเพิ่มรายรับและลดรายจ่ายค่าครองชีพลง แม้รัฐบาลทำโครงการแจกเงินหนึ่งหมื่นให้กับกลุ่มเปราะบาง ไม่ตรงปกตามที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ แต่ถือเป็นการกระตุ้นหัวใจที่กำลังหยุดเต้นของกลุ่มเปราะบางที่กำลังเดือดร้อน สิ่งสำคัญรัฐบาลต้องเน้นเรื่องลดรายจ่ายด้วย ทำไม่ยากถ้าเข้าใจปัญหาและทันเหตุการณ์ “ขอฝากถึงนายกฯว่าต้องปรับตัวจากภาพลักษณ์รัฐบาลคุณหนูอิ๊งค์ เป็นนายกฯแพทองธาร ต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเอง ฟังแต่คุณพ่อ ปิดหูปิดตาไม่รับฟังคนอื่น เรื่องมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ต้องชัดเจน ถ้า 3 เดือนไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ ปีหน้ารัฐนาวานายกฯคุณหนูอิ๊งค์สั่นคลอนแน่”

อวย รบ.ยอมปรับแจกเงินหมื่น

น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอแสดงความยินดีกับประชาชนที่ได้รับเงินสด 1 หมื่นบาท แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ท้วงติงจากหลายภาคส่วน แต่การที่รัฐบาลยอมรับฟังและเปลี่ยนจากการแจกดิจิทัลวอลเล็ต มาเป็นจ่ายเงินสด 1 หมื่นบาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตรงตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเท่านั้น ภาวะที่ประเทศเผชิญภัยพิบัติธรรมชาติกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง รัฐบาลยังต้องมีแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาวเพื่อให้ประเทศฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง หากเป็นเช่นนี้เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะสามารถสร้างผลงานได้สำเร็จอีกหลายเรื่อง และจะเป็นแบบอย่างของการปรองดองในชาติต่อไป

ปชน.เปิดแคมเปญ “เท้งทั่วไทย”

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่เขตบางแค กทม. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อม สส. และทีมงานพรรค ปชน. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาชุมชนรวมใจริมคลอง หมู่ 3 (เพชรเกษม 62/1) จากนั้นนายณัฐพงษ์ประกาศคิกออฟแคมเปญ “เท้งทั่วไทย” เดินสายพบปะประชาชนทั่วประเทศ ถือโอกาสการลงพื้นที่วันนี้เปิดแคมเปญเป็นวันแรก ขอขอบคุณชาวบางแคที่เคยรับใช้ในฐานะ สส.เขตมาแล้ว ต่อจากนี้จะเดินหน้าทั่วประเทศ รับฟังปัญหา ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่สนว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล

ไม่เสียกำลังใจผลโพลตามหลัง

นายณัฐพงษ์ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความนิยมที่มาเป็นอันดับสาม ตามหลัง น.ส.แพทองธารที่มาอันดับ 1 ว่า เรื่องของผลโพลเป็นเรื่องปกติ เรารับรู้เพื่อนำมาปรับปรุงทำงานให้ดียิ่งขึ้น และเดินหน้าทำงานในพื้นที่ต่อ ไม่ได้มาเป็นอุปสรรคหรือเสียกำลังใจ และบริบททางการเมืองที่ผ่านมามีทั้งขึ้นทั้งลง เชื่อว่าวิธีการเดียวที่จะทำให้คะแนนนิยมมั่นคงยิ่งขึ้น ดีวันดีคืนไปถึงการเลือกตั้งปี 2570 คือทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า ความนิยมมาจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลด้วยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น ตนพร้อมเดินหน้าทำงานต่อ และพิสูจน์การทำงานต่อจากนี้อีก 2 ปีกว่า และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรค ปชน.จะได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นได้ ต้องยืนยันว่าเราคงไม่ได้คาดหวังว่าประชาชนจะมาด้วยกับเรา ถ้าเรายังไม่มีผลงาน ต้องสื่อสารต่อลูกพรรคทุกคนคือการเดินหน้าทำงาน ไม่ทิ้งพื้นที่

2568 ปีแห่งการซักฟอกตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวสัปดาห์หน้าจะมีการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน นายณัฐพงษ์ตอบว่า จะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างแข็งขันเช่นเดิม คือภารกิจในสภา แต่ขอใช้เวลาส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนสำคัญลงพื้นที่พบประชาชนทั้งประเทศ จะพยายามจัดเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน และสัญจรไปในภูมิภาคต่างๆ แต่ไม่ทิ้งการทำหน้าที่ในสภา การอภิปรายงบประมาณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังคงต้องเข้าไปมีส่วนร่วมเหมือนเดิม ทั้งนี้ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนี้มีการรวบรวมข้อมูลไว้หลายด้าน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ยืนยันมีหลายกรณีที่เรารวบรวมเข้ามาแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจยื่นญัตติช่วงต้นปีหน้า ภายในไตรมาสแรก มีหลายเรื่อง และนโยบายต่างๆที่น่าสนใจคือการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แบบไม่ลงมติ มีการหารือภายในพรรค อยู่ระหว่างขอข้อสรุปจากที่ประชุม สส. และมีความเห็นได้ว่าอาจยื่นก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นไปได้

“ขิง” ปลื้มโพล รทสช.พุ่งขึ้นมาที่ 4

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลสำรวจนิด้าโพลระบุว่าคะแนนนิยมของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. และคะแนนนิยมของพรรคอยู่ในลำดับที่ 4 ว่า คะแนนดีขึ้นทั้งหัวหน้าฯและพรรค รทสช. ตั้งแต่หลังเลือกตั้งจาก 3% เป็น 5% เป็น 8% จนกระทั่งวันนี้กลับขึ้นมาเรื่อยๆจนใกล้แตะ 10% ขอบคุณทุกท่านที่เชื่อมั่นนายพีระพันธุ์ เชื่อมั่นพรรค พวกเรายังต้องทำงานหนัก ทั้งงานบริหาร บ้านเมือง และขับเคลื่อนงานการเมือง เป็นกำลังใจให้ทีมงานและผู้สนับสนุนทุกคน

โพลชู “อิ๊งค์” นายกฯเชียร์เพื่อไทย

ขณะที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 3/2567 ระหว่างวันที่ 16-23 ก.ย. พบว่าบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 31.35 ระบุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เพราะมีความเป็นผู้นำ พยายามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 23.50 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 22.90 เป็นนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ พรรคประชาชน เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดและทัศนคติที่ดี อันดับ 4 ร้อยละ 8.65 เป็นนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์ด้านการบริหาร อันดับ 5 ร้อยละ 4.80 คือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยสร้างไทย รองลงมาเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน พรรคประชาธิปัตย์ ฯลฯ ส่วนพรรคการเมืองที่จะสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 34.25 เป็นพรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 27.15 พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 15.10 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 9.95 พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 4.40 พรรคประชาธิปัตย์ รองลงมาเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยสร้างไทย

“แพทองธาร” โดดเด่นฝั่งรัฐบาล

ด้านสวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจ “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน ก.ย.2567” จากกลุ่มตัวอย่าง 2,183 คน ระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. พบว่าตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือผลงานของฝ่ายค้านเฉลี่ย 5.41 คะแนน (เพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค.) ตัวชี้วัดที่ได้ คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาความยากจน เฉลี่ย 4.32 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่นในเดือน ก.ย. คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 51.70 รองลงมาคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 29.94 ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่น คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 38.43 รองลงมา คือนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ร้อยละ 34.10 ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบ คือ เริ่มจ่ายเงิน 1 หมื่นบาทให้กลุ่มเปราะบาง ร้อยละ 61.33 รองลงมาคือลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยร้อยละ 21.4 และตรึงราคาก๊าซหุงต้มต่ออีก 3 เดือน ร้อยละ 17.2 ส่วนผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบ คือ ตรวจสอบงบประมาณปี 2568 ร้อยละ 50.78 ติดตามและตรวจสอบเงิน 1 หมื่นบาท ร้อยละ 26.5 และเสนอแผนแก้น้ำท่วมระยะยาว ร้อยละ 22.6

ครม.ตั้ง ขรก.การเมืองสัปดาห์นี้

อีกเรื่อง นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองว่า ยังไม่ได้รับเรื่องทั้งหมดจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แต่เชื่อว่าจะสามารถนำรายชื่อเสนอ ครม. พิจารณาแต่งตั้งได้เป็นส่วนใหญ่ในการประชุม ครม.วันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามที่ได้เสนอชื่อมา ตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมีแน่นอน แต่ในส่วนรองโฆษกประจำสำนักนายกฯมีเสนอมาบ้างแล้ว แต่บางพรรคกำลังคัดสรรกันอยู่ ยังไม่ผ่านมือนายกฯ การแต่งตั้งต้องได้คนที่จะมาช่วยงานได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อข้าราชการการเมืองที่คาดว่าจะเสนอ ครม. วันที่ 1 ต.ค.อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 5 คน 1.นายชัยเกษม นิติสิริ 2.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 3.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ 4.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร 5.นายจักรพงษ์ แสงมณี ส่วนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ

“แสวง” โอดตกเป็นจำเลยสังคม

ที่ จ.สมุทรสงคราม นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาคำร้องยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จากเหตุรับเงินบริจาคจากห้างหุ้นส่วน จำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยังคงถือครองหุ้นในบริษัทดังกล่าวอยู่ว่า ประเด็นนี้ทำใหถูกด่าฟรีมาปีกว่าๆ เพียงเพราะเป็นคนบุรีรัมย์ จนมีคนไปฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริต กลายเป็นจำเลยของสังคม ทั้งที่ไม่เคยเข้าไปยุ่ง ถ้าถามข้อกฎหมายจริงๆคดีของพรรค ภท.เป็นการร้องว่าผิดหรือไม่ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตเลขาธิการพรรค ภท. ไม่ได้เป็นความผิดหรือเป็นเหตุแห่งการยุบพรรค ไม่เคยไปแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่วันนี้ฟังได้ว่าเขาเสนอเรื่องมาแล้ว ผลจะเป็นอย่างไรต้องรอดู หลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอเรื่องเข้ามาแล้ว จะส่งเรื่องให้กับกรรมการที่ปรึกษาของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่มีนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธาน ให้ความเห็นก่อน ถ้านายทะเบียนเห็นว่าไม่ผิดก็จบเลย แต่ถ้าเห็นว่าผิดก็เสนอต่อ กกต. คาดว่าไม่เกินเดือน ต.ค.ก็จบแล้ว

แย้ม ภท.ส่อรอดคดีรับเงินเทา

นายแสวงกล่าวอีกว่า เรื่องของพรรค ภท.ก็เหมือนกับเรื่องร้องเรียนให้ยุบพรรค พปชร. เนื่องจากรับเงินบริจาคไม่ชอบด้วยกฎหมายจากนายตู้ห่าว (นายทุนจีนสีเทา) กรณีเงินบริจาคของนายตู้ห่าว ไม่มีหน่วยงานไหนวินิจฉัยว่าเงินนั้นได้จากอะไร เราก็ไม่มีอำนาจไปวินิจฉัยตามกฎหมายอื่น กกต.ก็ต้องยุติเรื่องไป พอมาถึงเงินของพรรค ภท. มีบริษัทหนึ่งเอาเงินมาบริจาค เงินนั้นคือเงินหลวงที่บริษัทประมูลงานได้ ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษา ในคดีหนึ่งที่มีบริษัทเข้าไปฮั้วประมูล และผู้มีอำนาจไม่ให้เงินค่างานเข้า ศาลบอกว่าต้องแยกให้ถูก เขาทำงานก็ต้องได้ค่างาน ฮั้วประมูลไม่เกี่ยวกัน นั่นหมายความว่าเงินค่างานเป็นเงินที่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องฮั้วประมูลต้องไปดำเนินคดีอีกคดีหนึ่ง แล้วฮั้วจริงหรือเปล่าก็ยังไม่มีใครรู้ในตอนนี้ หรือมีใครตัดสินอย่างไร

นายทะเบียนฯยุติเรื่องยุบ พปชร.

เมื่อถามถึงกรณีร้องเรียนการยุบพรรค พปชร. จากกรณีเงินของนายตู้ห่าว แสดงว่านายทะเบียนฯมีความเห็นยุติเรื่องแล้วใช่หรือไม่ นายแสวงตอบว่า ยุติไปแล้ว เพราะเงินนั้นเป็นเงินตามกฎหมายอื่น ไม่มีใครมาวินิจฉัยว่าเป็นเงินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เราจะเอามาเป็นเหตุให้ยุบพรรคไม่ได้ เหมือนกับว่าเราพิสูจน์และฟังเขา ไม่มีหน่วยงานไหนมาพิสูจน์และยืนยันได้ว่าเงินที่นายตู้ห่าวเอามาบริจาคนั้นมีที่มาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'อิสราเอล' ปฏิเสธ รถถังโจมตีฐานทัพ UN ในเลบานอน ชี้ 'แค่ขนทหารบาดเจ็บ'

กองกำลังรักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (United Nations Interim Force in Lebanon: UNIFIL) รายง...

เปิดสมรรถนะจีน ‘ไม่ใช่แค่ซ้อมแต่พร้อมรบ’

ร้อยเอกหลี่ซี่ โฆษกกองบัญชาการภาคตะวันออก กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) เผยว่า การซ้อมรบ Joint Sw...

‘สหรัฐ’ เตรียมส่งทหารไป 'อิสราเอล' พร้อมระบบสกัดกั้นขีปนาวุธขั้นสูง

ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน เผยเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่า การส่งทหารไปอิสราเอล พร้อมกับระบบต่อต้าน...

วันเดียวจบ! จีนซ้อมรบเตือนไต้หวันห้ามแบ่งแยกดินแดน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน รัฐบาลปักกิ่งประกาศเมื่อราว 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น 13 ชั่วโมงหลังเริ่มซ้อมรบ...