"วิธวิทย์ ฟูจิตนิรันดร์" ผู้ก่อตั้งแพนด้า คิง เถ้าแก่น้อยร้อยล้านปั้นธุรกิจด้วยมือตัวเอง

หนึ่งในเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่น่าจับตามอง วิธวิทย์ ฟูจิตนิรันดร์ เจ้าของอาณาจักรแพนด้า คิง ร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวนที่ขึ้นชื่อ สร้างธุรกิจด้วยมือของตัวเองจนประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุเลข 2 นำหน้า

วิธวิทย์ ฟูจิตนิรันดร์ หรือ คุณหยาง ผู้บริหารหนุ่มวัย 31 ปี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่า หลังจบจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาที่บริษัทต่างชาติในเมืองไทยอยู่ปีครึ่ง ที่บ้านอยากให้ไปเรียนต่อปริญญาโท แต่ใจอยากจะหาตัวเองให้เจอก่อน เลยเอาเงินที่จะไปเรียนมาเปิดร้านอาหาร ชื่อ แพนด้า คิง ในปี 2558 ด้วยอายุ 23 ปี ที่มองเห็นโอกาสว่าไม่มีร้านอาหารจีนขึ้นห้างเท่าไหร่ ร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ต้องไปกินตามซอยแคบๆที่มักมีปัญหาเรื่องที่จอดรถและสุขอนามัย เลยคิดทำแบรนด์อาหารจีนในห้างชั้นนำ ปัจจุบันมี 3 สาขา ที่สามย่าน เซ็นทรัล พระราม 2 ชั้น 3 และที่อารีย์ ซอยตึก พหลโยธินเพลส

“ที่บ้านผมทำโรงฟอกหนังและอสังหาริมทรัพย์ แต่ผมรู้สึกไม่ใช่ทางของเรา ด้วยความเป็นนักกิน เลยอยากทำธุรกิจอาหาร ผมเป็นคนกล้าทำ เป็นคนบ้า ไม่มีความรู้ด้านอาหาร แต่ด้วยความเป็นนักคิดและกล้าที่จะลอง กิจการช่วงแรกเติบโตจนมีสาขาถึง 7 แห่ง แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้เราสะดุด อาหารจีนมีข้อเสียนิดหน่อย มันมีความต่างเยอะระหว่างการทานที่ร้านกับทานที่บ้าน ผมเลยคิดว่าเราพึ่งกับแพนด้า คิง อย่างเดียวคงไม่ได้ เลยมานั่งคิดกับทีมว่ามีแบรนด์ไหนที่สามารถดีลิเวอรีได้ แล้วเป็นธุรกิจที่เป็น mass ตอนนั้นเราคิดธุรกิจที่ต้องตอบโจทย์ 3 อย่าง คือเป็นโปรดักส์ที่ไม่มีเจ้าตลาด สองไม่ได้เป็นธุรกิจที่ขึ้นลงตามกระแส แต่เป็นอาหารที่คนไทยทานอยู่แล้ว สุดท้ายต้องเป็นธุรกิจที่เป็น mass ไปได้ทั่วประเทศ เลยมาจบที่ “ข้าวต้ม” จึงได้ทำร้านแบรนด์ใหม่ ‘หยาง ข้าวต้มกุ๊ย’ ซึ่งปัจุบันมี 7 สาขาแล้วครับ”

...

ในการทำงาน นักธุรกิจไฟแรงคนนี้บอกว่า ทำธุรกิจอาหาร เราขายทั้งโปรดักส์และเซอร์วิส ดังนั้นอาหารต้องอร่อยถูกปากคนและการบริการต้องดี การทำงานนอกจากเราจะหาลูกค้าใหม่แล้ว เราต้องรักษาลูกค้าเก่าของเราให้เหนียวแน่นด้วย ทุกร้านของเราจะมีกล่องรับฟังความคิดเห็น ซึ่งตนจะนำความคิดเห็นของลูกค้ามาปรับตลอด “เรามีการ
คุยกับทีมว่าลูกค้าคอมเมนต์มาแบบนี้ จริงไหม ผมไม่เชื่อปากเดียว เพราะอาหารเป็นเรื่อง subjective อร่อยคุณแต่ไม่อร่อยฉัน เพราะฉะนั้น เวลาคุยเราต้องคุยเป็นองค์รวม ผมใส่ใจในเรื่องนี้มาก เรื่องคุณภาพและการบริการ การทำธุรกิจร้านอาหาร สูตรที่ผมคิดคือ 3-6 เดือนแรก จะเป็นฮันนีมูนพีเรียด ลูกค้าเห็นอยากลองของใหม่อยู่แล้ว ร้านอาหารจะอยู่ได้หรือไม่ ดูที่ 3 ปี ถ้า 3 ปีอยู่ได้ แสดงว่าโปรดักส์เราใช่ ผมจะไม่ฝืนตลาด ถ้าโปรดักส์ใช่ ผมจะทำ เจ๊งก็ให้มันเจ๊งสาขาเดียว 3 ล้านบาทอย่าให้เจ๊งเป็นหน้ากระดาน”

ส่วนความสำเร็จในวันนี้ คุณหยาง บอกว่า “เราต้องลงมือทำ ถ้าเราไม่ทำเราไม่รู้หรอกว่าจะดีหรือไม่ดีอย่างไร ผมเกือบล้มเพราะโควิด เป็นช่วงที่ผมต้องจ่ายพนักงาน 3.7 ล้านบาทต่อเดือน ผมมีรายได้วันละหมื่นกว่าบาท เลยต้องมากระจายความเสี่ยง ทำร้านข้าวต้ม ต้องปรับตัว ทำธุรกิจอาหารมีความท้าทายที่เราต้องเรียนรู้อะไรใหม่เรื่อยๆครับ”...แง่คิดในการทำงานของนักธุรกิจหนุ่มขาลุยคนนี้.

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...