"ณพน เจนธรรมนุกูล" ผู้บริหารรุ่นใหม่แห่งสัมมากรกับความท้าทายในการนำพาองค์กรสู่มิติใหม่

เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ ณพน เจนธรรมนุกูล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่ง บริษัทสัมมากร จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซึ่ง ได้ผลักดันองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการปรับโครงสร้างองค์กร ผนวกการเสริมทัพด้วยคนเจนฯใหม่ เพื่อนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ

ณพน เจนธรรมนุกูล หรือ ปอย ทายาทสัจจา เจนธรรมนุกูล ประธานกรรมการ บมจ.อาร์พีซีจี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เล่าเส้นทางการทำงานเริ่มจากเมื่อจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ จุฬาฯ ได้เข้าทำงานในส่วน Investment Banking ในบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ก่อนไปเรียนต่อปริญญาโทด้าน MBA ที่ Duke University ประเทศสหรัฐฯ เมื่อเรียนจบจึงกลับมาช่วยงานธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันของครอบครัว เมื่อครอบครัวเข้ามาซื้อหุ้นของ “สัมมากร” จากนั้น ในปี 2558 ได้เข้ามาร่วมงานกับ “สัมมากร” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความน่าเชื่อถือมากว่าครึ่งศตวรรษ

คุณปอย-ณพน เล่าต่อว่า การทำงานที่สัมมากร ตนเริ่มจากเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล จากนั้นมารับผิดชอบทางด้านพัฒนาธุรกิจ ก่อนจะขยับเข้ามาดูแลรับผิดชอบงานด้านฝ่ายขายเต็มตัว ทำงานที่สัมมากรเป็นเวลา 8 ปี ก่อนก้าวสู่ตำแหน่งในปัจจุบัน ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ มีหน้าที่ดูแลโปรเจกต์ และโครงการบ้านใหม่ๆ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง ภายใต้คอนเซปต์ “บ้านที่หลับสบาย” สะท้อนถึงคาแรกเตอร์ของบ้านสัมมากรได้เป็นอย่างดี ทั้งบ้านที่ปลอดภัยไร้กังวล มีโครงการสร้างแข็งแรงและออกแบบมาให้ยืดหยุ่นตามการใช้งานที่เปลี่ยนไปของเทรนด์โลกยุคใหม่ ซึ่งบริษัทมีแบรนด์บ้าน 7 แบรนด์ในเครือที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการบ้านของคนทุกกลุ่ม

...

“สัมมากร เป็นผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยที่มีเรื่องราวความสำเร็จ รวมทั้งความน่าเชื่อถือมายาวนานตลอด 54 ปี และยังคงดำเนิน ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของบ้านสัมมากร คือความตั้งใจออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติของผู้อยู่อาศัย ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด มีความยืนหยุ่นในพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่ ทำให้ตัวตนของคนในบ้านสะท้อนออกมาผ่านที่อยู่อาศัย เหมือนสัมมากรเป็นกระดาษ และลูกค้าเป็นผู้วาดสิ่งที่ต้องการได้ตามใจ”

สำหรับมุมมองในการทำงานของผู้บริหารรุ่นใหม่คนนี้ ได้บอกว่า ตนเชื่อและให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาศักยภาพของคนมาเป็นอันดับแรก คนต้องมีความยืดหยุ่น ต้องออกจาก Comfort zone เดิมๆ พร้อมรับการ เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะทุกสิ่งในโลกต่อจากนี้จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแน่นอน องค์กรที่มีบุคลากรที่พร้อมในการปรับตัวจะเป็นองค์กรที่ก้าวไปข้างหน้า และผ่าฟันอุปสรรคสู่ความสำเร็จได้ นอกจากนี้ยังปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นแนวราบ ซึ่งมีข้อดีคือ พนักงานในองค์กรทุกคนสามารถแลก เปลี่ยนไอเดีย และพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารได้โดยตรง ทำให้สิ่งต่างๆได้รับการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยดำเนินการภายใต้หลักธรรมาภิบาลส่วนเป้าหมายในอนาคต ผู้บริหารไฟแรงคนนี้ บอกว่า “ผมจะทำให้สัมมากรเป็นองค์กรร้อยปีที่มีความยั่งยืน และเป็น 1 ใน 5 ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ได้ แต่ก่อนจะถึงวันนั้นผมต้องผ่านความท้าทายซึ่งเป็นบททดสอบที่สำคัญ คือ การเปลี่ยนภาพลักษณ์สัมมากรใหม่”...ความมุ่งมั่นของผู้บริหารคนนี้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...