ชวนเช็กพฤติกรรมของตนเองว่ามีภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้ามากแค่ไหน หากมีพฤติกรรมเหล่านี้แล้วควรทำอะไร และต้องเตรียมตัวได้อย่างไรบ้าง
โรคซึมเศร้า คือ โรคทางจิตเวชประเภทหนึ่ง ที่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองเซโรโทนิน (Serotonin) ที่มีปริมาณลดลง จนเกิดอาการผิดปกติทางอารมณ์ มีอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ ไม่สม่ำเสมอ ทำให้ส่งผลกระทบในด้านจิตใจของผู้ป่วย โดยสามารถลุกลามไปในด้านพฤติกรรม ความคิด และความรู้สึก ที่ไม่สามารถหาคำพูดออกมาได้ โดยมักจะคิดแต่เรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจในด้านลบ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบไปในวงกว้างต่อการใช้ชีวิต การทำงาน ลุกลามจนไปถึงไม่อยากทำอะไรต่อไปในชีวิต และเป็นสาเหตุหนึ่งในการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเป็นลำดับต้นๆ
สาเหตุที่ทำให้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า อาจเกิดได้หลากหลายกรณี ส่วนใหญ่มักจะมาจากพันธุกรรมในครอบครัวที่มีประวัติผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า, สภาพแวดล้อม, การเลี้ยงดูของพ่อแม่ หรือเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยเก็บตัว ที่มีลักษณะนิสัยที่อ่อนไหวง่าย คิดมาก มองโลกในแง่ลบเสมอ
8 พฤติกรรมเสี่ยงเป็น ‘โรคซึมเศร้า’
- สมาธิลดลง เหม่อลอย
อาการสมาธิลดลง เหม่อลอย สังเกตตนเองได้จากการที่เวลาโฟกัสอะไรสักอย่างหนึ่งจะไม่สามารถทำได้เป็นระยะเวลานาน มักจะมีเรื่องให้คิดตลอดเวลา และตกอยู่ในภวังค์ มีความเหม่อลอยคิดเรื่องอื่นๆ ในหัวอยู่เสมอ
- นอนไม่หลับเป็นประจำ
การนอนหลับยากของผู้ที่มีความเสี่ยง และป่วยซึมเศร้านั้น มักจะชอบคิดอะไรที่ส่งผลลบต่อตนเอง คุณอาจมีภาวะความกดดัน ความเครียดนั้นก่อนเข้านอน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการนอนหลับ และยิ่งหากพักผ่อนไม่เพียงพอก็สามารถส่งผลทางอารมณ์ให้มีอาการรุนแรงยิ่งขึ้น
...
- รู้สึกตนเองไร้ค่า ไร้ประโยชน์ จุดมุ่งหมายชีวิตลดลง
การหมดอาลัยตายอยากในชีวิตเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่งสำหรับโรคซึมเศร้านี้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความทะเยอทะยานสูง มักจะหาอะไรใหม่ๆ ทำได้เสมอ หากหมดไฟ โทษตัวเองบ่อย และไม่มีแรงขับเคลื่อนแล้ว ส่วนใหญ่จะหยุดชะงักไปโดยใช้เวลาไม่นานนัก หากคุณหยุดใช้เวลาในการหาจุดมุ่งหมาย หรือคิดว่าตนเองไร้ประโยชน์เป็นเวลานานคุณอาจจะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงของโรคซึมเศร้าแล้ว
- ชอบกดดันตัวเองมากจนเกินไป
การกดดันเพื่อการแข่งขันกับตนเอง และผู้อื่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณกดดันตัวเองจนเกินความสามารถไป และไม่อาจทำได้แล้ว อาจจะเป็นการสร้างความเครียดสะสมเข้าไปในร่างกายแทน จนทำให้คุณเกิดภาวะเสี่ยงกับโรคซึมเศร้าได้ง่ายๆ เพราะความผิดหวัง ความเครียดเหล่านี้ สามารถกดภาวะทางอารมณ์ และจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดหัว
ผลกระทบข้างเคียงของผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หรือผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า มักจะมีอาการเหล่านี้โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จริงๆ แล้วสาเหตุอาจจะมาจากกร่างกายที่อ่อนแอขึ้น หรือจากภายใต้จิตใจที่สารเคมีในสมองลดลง
- เซื่องซึม และเชื่องช้า
ความเครียดทำให้เราสมาธิเราสั้นลง และนานๆ เข้า อาจจะทำให้เกิดอาการเซื่องซึม และมีความเชื่องช้าลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากคนที่เคยกระปรี้กระเปร่าที่สุดกลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถเฝ้าระวังตนเองได้เป็นอย่างดีด้วยการสังเกตพฤติกรรมตนเอง
- เบื่ออาหาร น้ำหนักเพิ่ม และลดลง
ผลพวงทั้งหมดจากอาการเครียด และซึมเศร้า สามารถทำให้เรารับประทานอาหารได้น้อยลง จนเกิดผลข้างเคียงต่อระบบย่อยอาหารภายในที่ปรับเปลี่ยนกะทันหัน จนเกิดอาการเบื่ออาหาร และมีน้ำหนักเพิ่ม หรือลดลงได้อย่างรวดเร็ว
- คิดถึงเรื่องของการฆ่าตัวตาย
หนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า และส่งผลต่อผู้ที่มีความเสี่ยงได้เช่นกัน เพราะหากมีอารมณ์ มีความเครียด และความเศร้าในจิตใจ ณ เวลานั้นๆ แล้ว บางทีอาจทำให้คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากได้ และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ควรลองเข้าพบจิตแพทย์ดูสักครั้งว่าที่พูดออกไปนั้นมาจากความรู้สึกจริงๆ หรือการประชดกันแน่
วิธีแก้ไข และป้องกันโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าเป็นโรคทางจิต ไม่ใช่การเจ็บป่วยที่สามารถรักษาให้หายเองได้ ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการเสี่ยงที่เป็นโรคซึมเศร้านั้นควรได้เข้ารับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์อย่างจริงจัง เพื่อที่จะได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลา โดยอาจจะต้องรับการทำจิตบำบัดควบคู่ไปด้วย และอีกหนทางหนึ่ง คือ การหาสภาพแวดล้อมดีๆ เพื่อน และครอบครัวที่รู้ใจในการช่วยเหลือ พร้อมรับฟัง และช่วยกันแก้ไข ก็เป็นอีกทางออกหนึ่งที่สามารถเป็นทางออกที่ดีได้
ข้อมูล : โรงพยาบาลรามาธิบดี, Medpark, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช
ภาพ : istock