“ตู่” อัดพวกปลุกปั่นใส่ร้าย จี้ “เต้น” แถลงปมเงินบริจาคม็อบเสื้อแดง 42 ล้าน

“ตู่ จตุพร” ท้า “เต้น ณัฐวุฒิ” แถลงปมเงินบริจาค 42 ล้านบาท ม็อบเสื้อแดงปี 52-53 เหตุเป็นคนดูแลรับผิดชอบ อัดพวกใส่ความหยุดพฤติกรรม หากไม่ลบโพสต์ใน 7 วัน เดินหน้าฟ้องทุกราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อครั้งเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มีหน้าที่ดูแลเงินบริจาคม็อบปี 2552-2553 ส่วนประเด็นว่ามีใครอมเงิน 42 ล้านบาทหรือไม่ ควรออกมาอธิบายข้อเท็จจริง ให้พวกติ่งพรรคเพื่อไทยหยุดพฤติกรรมก่อกวนใส่ร้าย

ทั้งนี้ นายจตุพร ยังได้นำคำพูดของหนุ่มโคราชมาขยายความถามถึงเงินบริจาค 42 ล้านบาท ช่วงคนเสื้อแดงชุมนุม หายไปไหน ซึ่งตนเคยบอกให้ไปถาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามอบหน้าที่ให้ใครดูแล โดยตนกับ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. ไม่ได้ดูแลเรื่องเงิน แต่ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังถูกยัดข้อหากล่าวร้ายอยู่ทุกวัน

...

“ผมอยากบอกว่า หลายวันที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ ต้องออกมาชี้แจง เพราะการชุมนุมเมื่อปี 2552 ต่อเนื่องปี 2553 ณัฐวุฒิ รับผิดชอบทางการเงิน โดยผมกับพี่วีระ ยินยอมโดยดุษณี ไม่มีใครไปติดใจอะไร อีกอย่างตลอดการชุมนุมไม่เคยถามว่าใช้จ่ายเรื่องอะไร ไม่ว่าเงินจะมาในรูปแบบใดก็ตาม และหลังการชุมนุมก็ไม่เคยมารายงานว่าใช้จ่ายเรื่องอะไรบ้าง ผมกับพี่วีระ ไม่เคยไปสอบถาม ข้อเท็จจริงมีอยู่เท่านี้”

นายจตุพร ระบุต่อไปว่า ถึงวันนี้พวกติ่งเพื่อไทยไปขุดเรื่องราวเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาร่วม 14 ปี แล้วแต่งเสริมว่าตนเอาเงิน 42 ล้านบาทไป จึงหวังให้ นายณัฐวุฒิ ที่เป็นคนดูแลเงินได้ชี้แจง เพราะตนไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเงินบริจาค ดังนั้น ตนให้เวลา 7 วันลบโพสต์ต่างๆ ที่กล่าวหาตน ถ้าไม่ทำจะฟ้องทุกคน แม้เป็นร้อยเป็นพันคดีก็จะทำ ตนหวังให้คนมีหน้าที่ดูแลเงินได้อธิบาย แต่ไม่อธิบาย ส่วนการชุมนุมปี 2557 เป็นอีกคนดูแลเรื่องเงิน ซึ่งไม่ใช่ตนอีก แต่ถ้าข้อมูลพวกนี้เป็นจริงทำไมบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยจึงไม่พูดตอบโต้ เพราะทุกคนรู้เต็มอก ตนไม่เคยติดใจและยังไม่เคยสอบถามด้วยว่าใช้อะไรไปบ้าง เพราะการชุมนุมมีความตายมากขนาดนั้น จึงไม่มีอารมณ์ไปสนใจอะไรอื่น

พร้อมกล่าวอีกว่า ถึงวันนี้มีการนำเรื่องเงินบริจาค 42 ล้านบาท มาปั่นสนุกสนาน ส่วนอีกคนหนีไปอยู่ลาว แล้วท้าตีท้าต่อยกับตน ดังนั้น ตนให้เวลา 7 วันลบโพสต์ และใครยังปั่นความเท็จเรื่องเงินบริจาคจะถูกฟ้องให้หมด เพราะเรื่องอื่นวิจารณ์ตนได้ แต่เรื่องอมเงินบริจาคเป็นคนเลวที่สุด ก่อนจะย้ำต่อไปว่า นายณัฐวุฒิ มีหน้าที่ดูแลเงินบริจาคต้องออกมาชี้แจง ดังนั้น ต้องไปถามที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งถ้าแกนนำพรรคเพื่อไทยโผล่ออกมาอธิบายด้วยแล้ว ตนจะอธิบายให้หนักกว่านั้น แม้ตนจะขีดเส้นไว้ว่าอะไรควรพูด ไม่ควรพูด

“ผมบอกได้เลยว่า คนมีหน้าที่ดูแลเรื่องเงินบริจาคคือ ณัฐวุฒิ ไม่ใช่ผมและพี่วีระ เหตุที่ระบุชื่อพี่วีระ เพราะวันนั้นสามเกลอแทบจะเบ็ดเสร็จการชุมนุมในทางปฏิบัติ แต่เรื่องผ่านมา 14 ปี พวกหนีคดีมาสร้างเรื่องเท็จปลุกปั่นใส่ร้าย โดยคนมีหน้าที่เรื่องเงินกลับไม่ออกมาอธิบายเลย”

นายจตุพร เผยอีกว่า ถ้ามีข้อเท็จจริงว่าตนอมเงิน เชื่อว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยต้องเรียงหน้าออกมาถล่มตลอดเวลา 14 ปีที่ผ่านมาแล้ว พวกเขารู้กันหมดเรื่องเงินบริจาค ใครมาเบิกก็ไปที่ นายณัฐวุฒิ คนเดียว แต่ผ่านมา 14 ปี มาโยนใส่ตน พร้อมเรียกร้องว่า หากเรื่องราวไม่ได้เป็นตามที่ตนพูด และถ้านายณัฐวุฒิ ไม่ได้รับผิดชอบมีหน้าที่ดูแลเงินบริจาคจากการชุมนุม ต้องออกมาแถลงเรื่องราว ยืนยันว่าตนไม่ได้ใส่ร้ายอะไรใคร หากเห็นว่าไม่ใช่ให้ออกมาเถียง พร้อมเรียกร้องให้ นายณัฐวุฒิ ออกมาแถลง.

(ชมคลิป)

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘เกาหลีเหนือ’ เตรียมปิดกั้นพรมแดน ตัดขาด ‘เกาหลีใต้’ ถาวร

แถลงการจากรัฐบาลเปียงยางระบุว่า เกาหลีเหนือเตรียมปิดถนนและทางรถไฟที่อาจเป็นช่องทางอำนวยความสะดวกในกา...

เป็นบวกต่อพรรคเดโมแครต! ‘อัตราว่างงาน’ ในรัฐสวิงสเตตส่วนใหญ่ลดต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด

ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐที่สำนักข่าว Bloomberg วิเคราะห์พบว่า “อัตราการว่างงาน” ในหลายรัฐสว...

'พ.อ.สรรพชัยย์' ยันแม้ไร้คลื่นปี 68 รายได้มือถือหายแค่ 3,000 ล้านบาท

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เปิ...

ซินแคลร์ เปิดตัว AZURITES OpenXDR นวัตกรรมป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก

ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไร ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็ทวีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้นมากขึ้นเท่าน...