อิสราเอลเฝ้าระวัง! นับถอยหลังครบรอบ 1 ปี‘ฮามาสโจมตี’

ก่อนถึงวันครบรอบหนึ่งปีในวันจันทร์ (7 ต.ค.) พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงผ่านโทรทัศน์

“เราเพิ่มกำลังเพื่อเตรียมการสำหรับวันนี้หากมีการโจมตีประชาชน”

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล แบบไม่ให้ตั้งตัวในวันที่ 7 ต.ค. 2566 คร่าชีวิตประชาชน 1,205 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับประชาชน 250 คนเป็นตัวประกัน ส่งผลให้อิสราเอลต้องเปิดปฏิบัติการทางทหารในกาซา คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์เกือบ 42,000 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซา ชาวกาซา 2.3 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนแทบทุกคน ทั้งยังเกิดวิกฤติความอดอยากนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอาชญากรสงครามต่อศาลโลกซึ่งอิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหา 

หนึ่งปีผ่านไปสงครามกาซายังไม่จบ อิสราเอลเปลี่ยนไปเน้นทำสงครามทางภาคเหนือกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลัง

ประธานาธิบดีไอแซค เฮอร์ซ็อกของอิสราเอล เรียกอิหร่านเป็น “ภัยคุกคามที่ดำเนินอยู่” หลังรัฐบาลเตหะราน ผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธทั่วตะวันออกกลางยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกเข้าใส่อิสราเอลเมื่อวันอังคาร (1 ต.ค.) เพื่อแก้แค้นที่อิสราเอลสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธหลายคน

เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลคนหนึ่งกล่าวโดยไม่เปิดเผยตัวตนกับเอเอฟพีว่า กองทัพ “กำลังเตรียมการตอบโต้การโจมตีของอิหร่าน”

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ย้ำว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย.อิหร่าน “ยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูก” มายังดินแดนอิสราเอลสองครั้งแล้ว

“อิสราเอลมีหน้าที่และสิทธิในการป้องกันตนเองและตอบโต้การโจมตีเหล่านี้ และนั่นคือสิ่งที่เราจะทำ” นายเนทันยาฮูระบุ

ชุมนุมทั่วโลกเรียกร้องหยุดยิง

เมื่อวันเสาร์ (5 ต.ค.) ประชาชนหลายพันคนออกมาชุมนุมในเมืองใหญ่ทั่วโลก เรียกร้องให้ยุติการนองเลือดในกาซาและความขัดแย้งที่กำลังขยายวงในตะวันออกกลาง

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผู้ประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ราว 40,000 คนเดินขบวนผ่านใจกลางกรุงลอนดอน เช่นเดียวกับในกรุงปารีส โรม มะนิลา เคปทาวน์ และนิวยอร์กซิตี้ รวมถึงที่ใกล้ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ประชาชนต่อต้านการที่สหรัฐสนับสนุนอิสราเอลปฏิบัติการทางทหารในกาซาและเลบานอน

 หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐหลายหน่วยเตือนเมื่อวันศุกร์ (4 ต.ค.) ว่า วันครบรอบการโจมตีของฮามาส อาจจูงใจบุคคลให้ก่อเหตุรุนแรง หลายรัฐรวมทั้งนิวยอร์กยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไว้ก่อน 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ