‘ทงเวย-ฟ็อกซ์ อีเอสเอส’ รุกตลาดไทย รับนโยบายรัฐหนุนติดตั้งโซลาร์ครัวเรือน

นางสาวลี่ เหยียน รองผู้จัดการทั่วไปฝ่ายธุรกิจ PV บริษัท ทงเวย โซลาร์ หรือ TW SOLAR กล่าวว่า “ทงเวย ได้ร่วมกับ บริษัท ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่เพียงรายเดียวในประเทศไทย จัดงาน SHINE ON BANGKOK เพื่อเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์แผงผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์)ใหม่ TNC-G12/G12R ที่มีประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์ที่ดีขึ้น และตอบโจทย์ในด้านของการลดต้นทุน

รวมทั้งยังมีการออกแบบที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งแบบกระจายตัว ช่วยทำให้ติดตั้งได้มากขึ้น ลดต้นทุนในส่วนของขั้นตอนการให้บริการจากผู้รับเหมาตั้งแต่การออกแบบและติดตั้งทั้งในกลุ่มเชิงพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังเป็นการขานรับกับนโยบายของภาครัฐของไทย ที่สนับสนุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในภาคครัวเรือน รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดย่อมและขนาดกลางให้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ในปี 2566 ตลาดโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงขึ้น และคาดว่าภายในปี 2570 จะมีปริมาณการติดตั้งพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 27% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด

สำหรับการจัดจำหน่ายสินค้าทงเวยในตลาดไทย เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาถือว่ามีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก จากการร่วมมือกับ ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย ผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งได้ร่วมกันสำรวจความต้องการตลาด อีกทั้งยังเน้นการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ปรับเปลี่ยนแผนการขาย และการบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละราย

ทั้งนี้ จากข้อมูลของฝ่ายวิเคราะห์ตลาดของทงเวย พบว่า ในปี 2567 ความต้องการแผงโซลาร์เซลล์ทั่วโลกจะเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะเพิ่มสูงถึง 647 กิกะวัตต์ หรือขยายตัว 31.73% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนานโยบายที่เป็นประโยชน์นั้นจะส่งผลให้ความต้องการของตลาดในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ประเทศไทยเองคาดว่า กำลังการติดตั้งสะสมจนถึงปี 2580 จะเพิ่มขึ้นเป็น 8.7 กิ๊กกะวัตต์ จากปี 2565 อยู่ที่ 4.7 กิ๊กกะวัตต์ ซึ่งเป็นการเติบโตมากที่สุดในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่ อัตราค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่เพิ่มขึ้น เช่น การลดภาษี และมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่แข็งแกร่ง เช่น ระยะเวลาคืนทุนสั้นลงจาก 8 ปี เหลือเพียง 5 ปี

จากความต้องการที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นในประเทศไทยดังกล่าว ทงเวยจึงได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ TNC-G12/G12R นอกจากแนวคิดที่จะต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์ ยังคำนึงถึงการลดต้นทุนการขนส่ง และต้นทุน BOS (โครงสร้างต้นทุนของอุปกรณ์ระบบโซลาร์เซลล์) จึงได้นำเสนอในรูปแบบแรงดันไฟฟ้าต่ำ โดยการออกแบบนี้ก็เพื่อเพิ่มความเหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับระบบแบบกระจายตัว ช่วยทำให้ติดตั้งได้มากขึ้นลดต้นทุนของ EPC ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ทงเวย และ ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย ยังได้พันธมิตรสำคัญรายใหญ่ระดับโลก อย่าง Fox ESS (ฟ๊อกซ์ อีเอสเอส) ผู้นำระดับโลกในการพัฒนาอินเวอร์เตอร์ มาร่วมกันผนึกกำลังนำเสนอพลังงานสีเขียวให้กับตลาดประเทศไทยได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น”

ด้าน นายไลเลน หลิว รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายขายทั่วโลก ฟ็อกซ์ อีเอสเอส (FOX ESS) เปิดเผยว่า “การจับมือกับ ทงเวย และ ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Fox ESS ที่เข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวและพลังงานสะอาดในภาคพื้นเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวที่มีความก้าวหน้าและโดดเด่นในด้านพลังงานสะอาดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความต้องการของตลาดที่มีนัยสำคัญ บริษัทฯจึงอาศัยความได้เปรียบนี้วางแผนการทำงานร่วมกับพันธมิตรต้นน้ำและปลายน้ำ สนับสนุนการเติบโตและการเผยแพร่พลังงานสีเขียวที่ยั่งยืน สู่บ้านเรือนหลายพันหลังในประเทศไทย

“Fox ESS เป็นแบรนด์พลังงานสะอาดชั้นนำระดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ในเมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มีสาขาในกว่าสิบประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย การมีอยู่ทั่วโลกที่กว้างขวางทำให้ Fox ESS สามารถนำเสนอบริการพลังงานสีเขียวที่เป็นภาษาท้องถิ่นและครอบคลุมแก่ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลก ด้วยความทุ่มเทอย่างแน่วแน่และความเชี่ยวชาญที่กว้างขวาง Fox ESS ได้รับการยกย่องและการยอมรับจากทั่วโลก จนสามารถขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรระดับยูนิคอร์นในด้านพลังงานใหม่ระดับโลก” นายไลเลน กล่าว

โดยภายในงาน Fox ESS ได้มีการแนะนำผลิตภัณฑ์อินเวอร์เตอร์ Grid-tied PV อินเวอร์เตอร์ไฮบริด แบตเตอรี่สำรองพลังงาน และเครื่องชาร์จ EV ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ผลิตภัณฑ์หลักเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้กลุ่มลูกค้าเข้าใจถึงแนวคิดพลังงานสะอาด แต่ยังชี้ให้เห็นถึงแนวทางพลังงานสีเขียวแบบครบวงจรที่ปลอดภัยเชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดไทย

และอีกหนึ่งในกลุ่มสินค้าที่นำมาบุกตลาดในประเทศไทยคือกลุ่ม “R Series” ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มของ อินเวอร์เตอร์ Grid-tied PV สำหรับกลุ่ม C & I (Commercial and Industrial) หรือกลุ่มลูกค้าในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม มีขนาด 75-125 kW และมีมาตรฐานการกันน้ำและกันผุ่นระดับ IP66 นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงทางเทคโนโลยีเพื่อใช้ร่วมกันกับผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์ชนิด n-type ซึ่งมีกระแสไฟฟ้าสูง และผลลัพธ์ที่ได้คือมีประสิทธิภาพสูงถึง 98.6% ถือว่าสูงที่สุดในรุ่นที่มีในตลาด ซึ่งนับว่าเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...