สิ่งแวดล้อม

อัปเดต! กากแคดเมียม สารอันตราย ต้องหาอีก 5,358 ตัน คนปนเปื้อนสาร เสี่ยงมะเร็ง

วันที่ส่ง: 09/04/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ

อัปเดตล่าสุด สถานการณ์การตามหา “กากแคดเมียม” สารอันตราย หลังจากที่เกิดกรณีพบกากแคดเมียมที่ควรจะถูกฝังปิดถาวรในจังหวัดตาก ถูกลักลอบขุดขึ้นมาและมีการเคลื่อนย้ายจำนวนกว่า 15,000 ตัน

นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ทางผู้ประกอบการในจังหวัดตากได้ยื่นขอนำแคดเมียมออกไว้ประมาณ 15,000 ตัน แต่มีปริมาณที่นำออกจริงจากการชั่งน้ำหนักยอดสุทธิอยู่ที่ 13,832 ตัน เวลานี้พบใน 3 แห่ง ประกอบด้วย

บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด หมู่ที่ 2 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 3,040 ตัน
โรงงานย่านคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จำนวน 4,400 ตัน
บริษัท ซิน หงส์ เฉิง อินเตอร์ เทค (2008) จำกัด หมู่ที่ 6 ตำบลบางน้ำจืด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร อีกจำนวน 1,034 ตัน

โดยยังเหลือที่ต้องตามหาต่อไปอีกประมาณ 5,358 ตัน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล โดยเชื่อว่ายังไม่มีการนำออกนอกประเทศ เนื่องจากการขนย้ายวัตถุอันตรายจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศปลายทาง และมีการขออนุญาตหลายขั้นตอน

ด้านสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยผลการตรวจปัสสาวะพนักงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 11 คน จาก 19 คน พบว่า มีสารแคดเมียมในร่างกายเกินมาตรฐานจำนวน 8 ราย โดยทั้งหมดไม่มีอาการผิดปกติ

จึงได้ประสานพนักงานโรงงานทั้ง 11 รายให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสมุทรสาครในวันที่ 8 เมษายน 2567 เพื่อตรวจยืนยันและให้การรักษาตัว

รวมทั้งติดตามพนักงานที่เหลือเพื่อเข้ารับการตรวจ ซึ่งโรงพยาบาลเตรียมความพร้อม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สถานที่ ยา เวชภัณฑ์ และสารแก้พิษ เพื่อรองรับแล้ว

ความอันตรายของกากแคดเมียม สารอันตราย

หากสารแคดเมียมเข้าสู่ร่างกายโดยผ่านทางระบบหายใจและระบบทางเดินอาหาร จะส่งผลให้ตับอักเสบ บางส่วนจะไปสะสมในตับและไต โดยจะใช้เวลาขับออกทางปัสสาวะครึ่งหนึ่งของที่สะสม 20 ปี ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง

หากรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารแคดเมียมจะมีอาการของโรคกระดูกพรุน กระดูกมีการเจริญที่ผิดปกติ รวมถึงโรคอิไต-อิไตด้วย เบื้องต้นในการรักษา ให้ดื่มนมหรือบริโภคไข่ที่ตีแล้ว เพื่อลดการระคายเคืองของทางเดินอาหาร หรืออาจทำให้ถ่ายท้อง เพื่อลดการดูดซึมแคดเมียม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ