113 ปี “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” ทำไมพลังศรัทธาจึงไม่มีวันสิ้นสุด

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆที่พ่อค้าชาวจีน 12 คน ร่วมกันระดมทุนจัดตั้งคณะเก็บศพไร้ญาติ ภายใต้ชื่อ “คณะเก็บศพไต้ฮงกง” เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของ “องค์ไต้ฮงกง” พร้อมจัดซื้อที่ดินริมถนนพลับพลาไชย สร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง เป็นที่ประดิษฐานองค์จำลองไต้ฮงกงเป็นการถาวร จนถึงวันนี้ “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” อยู่เคียงข้างสังคมไทยมายาวนานกว่า 113 ปีแล้ว ภายใต้การนำของประธานกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ดร.วิเชียร เตชะไพบูลย์” องค์กรด้านสาธารณกุศลแห่งนี้ยังคงเดินหน้าอุทิศตนช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่หยุดยั้ง โดยไม่เลือกเพศ, วัย, เชื้อชาติ และศาสนา สมกับเป็นเสาหลักที่พึ่งพิงได้ของสังคมไทย!!

“ความรู้สึกที่ว่า เมื่อมีผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ที่ยังไม่เดือดร้อนนักก็จะต้องช่วยเขา เป็นความรู้สึกที่เหมาะและเป็นความรู้สึกที่ดีที่เป็นนิมิตดีสำหรับบ้านเมือง เพราะว่าแสดงให้เห็นความสามัคคีของประชาชนทั่วราชอาณาจักร การช่วยเหลือที่จะให้ได้ประโยชน์ถาวรจริงๆนั้นเป็นงานที่ลำบาก ต้องพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบและกระทำเป็นขั้นๆ ขั้นต้นต้องรีบบรรเทาทุกข์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าก่อน ต่อไปก็ต้องช่วยผู้ประสบภัยให้มีที่อยู่ มีงาน มีอาชีพดังเดิม เมื่อกู้ฐานะได้แล้ว ก็ต้องช่วยให้รู้จักวางแผนให้ทำอาชีพการงานได้ดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้น ให้มีรายได้อันเพียงพอที่จะช่วยตนเอง และสามารถยกฐานะความเป็นอยู่ให้มั่นคงยิ่งขึ้น ถ้าเราช่วยเหลือกันอย่างนี้ นอกจากจะได้ช่วยผู้ประสบภัยแล้ว ยังจะช่วยให้เกิดความมั่นคงแก่ประเทศ และช่วยคุ้มภัยให้แก่ประเทศได้อีกหลายประการ”...

...

พระราชดำรัสดังกล่าวของ “พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ที่พระราชทานแก่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสืออนุสรณ์ ครบรอบ 60 ปี เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2513 สะท้อนได้ดีถึงบทบาทหน้าที่อันสำคัญของ “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” ที่มีต่อสังคมไทยมาอย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัย

อะไรคือพันธกิจสำคัญของป่อเต็กตึ๊งในปัจจุบัน

ป่อเต็กตึ๊งยังคงทำหน้าที่เป็น “ผู้ให้” ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราอยู่กับสังคมไทยในทุกบริบทของชีวิต ที่ผ่านมากว่า 113 ปี ที่เรามุ่งมั่นบำบัดทุกข์และกอบกู้ภัยเพื่อสังคม หากลองมองย้อนไปแค่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิได้เพิ่มบทบาทและพัฒนาศักยภาพในกิจกรรมด้านต่างๆเป็นอย่างมาก เช่น ด้านบรรเทาสาธารณภัย เราได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และมีการจัดระบบงานสังคมสงเคราะห์ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ทั้งเด็ก, คนชรา และคนพิการ ขณะเดียวกันก็ยังคงดำเนินกิจกรรมหลักๆที่ทำมาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี เช่น การมอบของขวัญวันเด็ก, การมอบทุนการศึกษาในทุกระดับชั้น เพื่อส่งเสริมให้เติบโตเป็นคนดีต่อไปในอนาคต, การแจกทานในงานบุญประเพณีทิ้งกระจาด ซึ่งปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 สิงหาคม ถึง 12 กันยายน, การแจกผ้าห่มกันหนาวในถิ่นทุรกันดาร และงานสังคมสงเคราะห์อื่นๆ เช่น เราได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก้ปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม, มอบรถเข็นให้ผู้พิการ, มอบรถจักรยานสองล้อแก่โรงเรียนในชนบทเพื่อให้นักเรียนไว้ใช้ในการเดินทางไปโรงเรียน และจัดเลี้ยงอาหารให้คนชรา อีกทั้งยังนำหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชนออกไปบริการแก่ผู้ยากไร้ ทั้งในกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และท้องถิ่นที่ห่างไกล ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมากกว่า 13 ล้านคน คิดเป็นจำนวนเงินที่ใช้ในการช่วยเหลือกว่า 2,600 ล้านบาท

...

วิกฤติโควิดที่ผ่านมา ป่อเต็กตึ๊งเข้าไปมีบทบาทอย่างไร

 นอกจากการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว มูลนิธิได้มอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวม 256 รายการ มูลค่า 110 ล้านบาท ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องช่วยหายใจและควบคุมความดัน, เครื่องตรวจติดตามการเต้นของหัวใจ, เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยปรับระดับและเอกซเรย์ผ่านได้, เตียงผ่าตัด 360 องศา, ตู้อบเด็กแรกเกิด, เครื่องตรวจอวัยวะภายในด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง และรถเอกซเรย์ตรวจสุขภาพนอกสถานที่ ให้โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพฯ 11 แห่ง และโรงพยาบาลในต่างจังหวัดท้องถิ่นห่างไกล 22 จังหวัด 26 แห่ง รวมทั่วประเทศ 37 แห่ง เรายังจัดตั้งกองทุน “ธารน้ำใจสู้ภัยโควิด-19” มอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลนรวม 17 จังหวัด 20 โรงพยาบาล เป็นเงินกว่า 22 ล้านบาท

ภายใต้ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ป่อเต็กตึ๊งต้องปรับตัวเยอะไหม

 ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรากำลังเข้าสู่โลกยุคดิจิทัลเต็มตัว ป่อเต็กตึ๊งไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาการดำเนินงานให้ทันสมัยและมีศักยภาพมากขึ้น โดยเราได้พัฒนาแอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง 1418 เพื่อความสะดวกรวดเร็วและชัดเจนถูกต้องในการแจ้งเหตุ จะได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิต

...

ทุกวิกฤติต้องมีป่อเต็กตึ๊ง ทำยังไงจึงครองใจคนไทยทุกยุค ทุกสมัย

ภายใต้พันธกิจช่วยชีวิต, รักษาชีวิต และสร้างชีวิต ป่อเต็กตึ๊งช่วยเหลือผู้ยากไร้ทุกชนชั้น โดยไม่เลือกเพศ, วัย, เชื้อชาติ และศาสนา เราช่วยเหลือคนตั้งแต่เกิดแก่เจ็บตาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆอย่างจับงู ไปจนถึงเรื่องวิกฤติของชีวิต ป่อเต็กตึ๊งพร้อมช่วยหมด การดำเนินงานสาธารณกุศลของป่อเต็กตึ๊งสามารถดำเนินมาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพตลอดเวลากว่า 113 ปี ก็ล้วนมาจากการสนับสนุนของผู้มีกุศลจิตทุกคน ที่มีจิตศรัทธาร่วมกันช่วยเหลือ ทำให้มูลนิธิของเราสามารถยืนหยัดช่วยเหลือสังคมมาได้ยาวนานเกินกว่าศตวรรษ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านบริจาค สามารถร่วมช่วยชีวิต, รักษาชีวิต และสร้างชีวิตได้จริงๆนับล้านชีวิต

...

จนถึงวันนี้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเติบโตแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน

ปัจจุบันมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นองค์กรสาธารณกุศลเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เราเพิ่งสร้างสวนสาธารณะ โดยได้รับพระราชทานชื่อว่า “สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง” บนที่ดินของมูลนิธิ เนื้อที่ 3 ไร่ ที่ถนนเจริญราษฎร์ เขตสาทร เพื่อเป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนทั่วไปใช้เป็นที่พักผ่อนออกกำลังกาย และเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 110 ปี ของการก่อตั้งมูลนิธิ คณะกรรมการยังมีมติให้จัดสร้าง “ศาลเจ้าไต้ฮงกง (สาทร)” ขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่ง บนพื้นที่ติดกับสวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ มีขนาดเนื้อที่ 4 ไร่เศษ

เนื่องจากศาลเจ้าไต้ฮงกง ปัจจุบันเป็นที่เช่า มีเนื้อที่เพียง 297 ตารางวาเท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการจัดกิจกรรมทางศาสนาในเทศกาลต่างๆ ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธาต่อองค์ไต้ฮงกงจำนวนมากมาร่วมงาน สำหรับหน่วยงานในเครือ เช่น “โรงพยาบาลหัวเฉียว” ก็มีการพัฒนารุดหน้า โดยสามารถทำการสงเคราะห์คนไข้ได้อย่างกว้างขวาง มีบริการทุกสาขาการแพทย์ ด้วยการรับรองคุณภาพ HA ส่วน “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” สามารถช่วยขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชนไทย ผลิตบัณฑิตเป็นคนดีมีคุณธรรมออกมารับใช้สังคมได้มากกว่า 19,000 คน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ “คลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว” ก็ได้พัฒนารูปแบบการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นแพทย์ทางเลือกในการดูแลสุขภาพพี่น้องประชาชน ด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนแบบครบวงจร เราได้ขยายสาขาไปยังส่วนภูมิภาค 2 แห่ง คือ จังหวัดชลบุรี และจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้เข้าถึงการแพทย์แผนจีน ล่าสุดทางคลินิกได้เปิด “หัวเฉียวศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรจีนแบบครบวงจร” ที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้สมุนไพรจีนแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในศูนย์ประกอบด้วยอาคารพิพิธภัณฑ์เก็บตัวอย่างยาสมุนไพรจีนกว่า 300 ชนิด เพื่อให้ผู้สนใจเรียนรู้ได้ศึกษาค้นคว้า และอาคารคลังเก็บยาสมุนไพรจีนเพื่อสำรองยาสมุนไพรกว่า 400 ชนิด

สำหรับใช้ในการรักษาพยาบาลประชาชนทั่วไป มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและหน่วยงานในเครือจะยังคงเดินหน้าร่วมกันทำหน้าที่สานต่อและช่วยเหลือผู้ยากไร้ทุกชนชั้น โดยไม่เลือกเพศ, วัย, เชื้อชาติ และศาสนา สานต่อปณิธานขององค์ไต้ฮงกง ซึ่งถือเป็นแบบอย่างงานสังคมสงเคราะห์ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งยึดถือปฏิบัติสืบทอดมาตลอดถึงเวลาหรือยังที่คนไทยจะร่วมกันแบ่งปันเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ด้วยพลังศรัทธายิ่งใหญ่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด.

ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...