โลกเดือด! ดันตลาด 'นอนวูฟเวน' โต ไทยยึดเบอร์ 1 ภูมิภาค

สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ชี้อุตสาหกรรมนอนวูฟเวน ในตลาดโลกโตแรงไม่หยุดกว่า 8.7% ต่อปี โดยไทยเป็นผู้นำตลาดนอนวูฟเวนระดับภูมิภาค มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 48% จึงเล็งเห็นโอกาสดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนของภูมิภาค โดยร่วมกับสมาคมการค้าอุตสาหกรรมผ้านอนวูเว่นไทย และ MGT Expo Planning and Management Ltd, Baobab Tree Event Management Co. Ltd. และ Tradelink Co. Ltd. จัดงาน “Asia Nonwovens Technology Expo 2024” หรือ ANTEX Asia 2024 มหกรรมแสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติด้านนอนวูฟเวนในประเทศไทยและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเทคโนโลยี ความร่วมมือระหว่างประเทศ และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ พร้อมชูไฮไลต์นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบรับกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย (THTI) กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยกำลังปรับตัวก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงและมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตัวอย่างที่ชัดเจนในการปรับตัวตามทิศทางนี้ คือ อุตสาหกรรมนอนวูฟเวน (Nonwoven Fabric) ซึ่งจัดเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่น อนาคตไกล  

โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึง 50.33 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 148.87 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2579 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่า 8.7% ต่อปี ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นผู้นำตลาดนอนวูฟเวนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 48% และกำลังการผลิตสูงถึง 162,000 ตันต่อปี

นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สถาบันสิ่งทอฯ เล็งเห็นโอกาสและความพร้อมของประเทศไทยจึงมีนโยบายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงาน Asia Nonwovens Technology Expo หรือ ANTEX Asia 2024 ซึ่งนอกจากจะเป็นมหกรรมแสดงสินค้า เทคโนโลยีและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนที่ครบวงจรในประเทศไทยและใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว 

ยังเป็นเวทีกลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ลูกค้า ผู้สนใจในเทคโนโลยี นวัตกรรม ผู้เชี่ยวชาญ และพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วโลกได้มีโอกาสมาพบกันเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เจรจาธุรกิจ โดยมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ การแสดงจุดยืนของผู้ประกอบการในการร่วมส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนด้วยการพัฒนานวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้วัตถุดิบรีไซเคิล ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายทางชีวภาพได้ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายนิวัติ เลิศนิมิตธรรม นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมผ้านอนวูฟเวนไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมนอนวูฟเวนมีมูลค่ามหาศาลในตลาดโลกและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระแสเรื่องความยั่งยืนที่ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ้านอนวูฟเวนที่ทำจากวัสดุชีวภาพ ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติก และส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนจึงได้รับความนิยมมากขึ้น 

ทั้งนี้ หากส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกของอุตสาหกรรมนอนวูฟเวนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้จะก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล การจัดงาน ANTEX Asia 2024 ในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะแสดงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยให้ปรากฏสู่สายตานานาชาติ

นายเกรซ มาร์ค ผู้ก่อตั้ง บริษัท MGT Expo Planning and Management Ltd. (MGT) หนึ่งในผู้จัดงานกล่าวว่า ภายในงาน ANTEX ASIA 2024 จะมีการจัดแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมล้ำสมัยจากบริษัทชั้นนำระดับโลก ครอบคลุมตั้งแต่วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ เครื่องจักร โซลูชัน ไปจนถึงเทคโนโลยีการผลิต โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือ การมุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน 

โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การใช้พลังงานสะอาด การจัดแสดงเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนาวิชาการ ANTEX Asia Nonwovens Conference 2024 ในหัวข้อ "การดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยวัสดุและผลิตภัณฑ์นอนวูฟเวน" โดยผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์และให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ เช่น แนวโน้มและทิศทางของตลาดนอนวูฟเวนทั่วโลกและในเอเชีย พัฒนาการของการผลิตนอนวูฟเวนในอุตสาหกรรมสุขภาพ และนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน สำหรับงานในครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงสินค้ามากกว่า 100 ราย จาก 10 ประเทศและภูมิภาค และมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานประมาณ 4,000 ราย

ทั้งนี้ สามารถเข้าร่วมงานได้ในวันที่ 13 - 15 พ.ย. 2567 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค (BITEC) กรุงเทพฯ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ