สถาบันดันหุ้นไทยท้ายปี จับตา พ.ย. MSCI กลับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย

            นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึง บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยช่วง 3 เดือนสุดท้าย ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากเเม็ดเงินลงทุนในประเทศและต่างประเทศเข้ามามีผลต่อดัชนีและมูลค่าการซื้อขาย โดยเฉพาะเม็ดเงินสถาบันในประเทศทั้งกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่ยังทยอยลงทุน และกองทุนเพื่อลดหย่อยภาษี  ThaiESG ลงทุนช่วงปลายปี  ซึ่งกลไกดังกล่าวทำให้สัดส่วน    ผู้ลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น 9% จาก 8% และอดีตที่  10 % จึงมีแนวทางเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันมากขึ้นจากการหารือกับสมาคมบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) เพื่อเพิ่มกองทุน ThaiESG รูปแบบใหม่

          “ปัจจัยที่มีผลกระทบรุนแรงในช่วงนี้ยังไม่ชัดเจน ซึ่งแรงหนุนหุ้นไทยมาจากสถาบันในประเทศที่ยังทยอยลงทุนและคาดว่ามีโอกาสที่วอลลุ่มการซื้อขายสิ้นปี  67 จะกลับมาเฉลี่ยใกล้เคียงอดีตที่ 5-6 หมื่นล้านบาทต่อวัน ” 

      

      นายศรพล ตุลยเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร และโครงสร้างกลยุทธ์ ตลท. กล่าวว่า  ปัจจัยมีผลต่อการลงทุนและหนุนตลาดหุ้นไทยอยู่ที่การรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งกลุ่มธนาคารจะรายงานกลุ่มแรกช่วงกลางเดือนต.ค. ซึ่งภาพรวมทั้งปียังคาดการณ์ว่าเติบโตมากกว่าจีดีพี 1.5-2% ภายใต้ GDP ที่ 2.6-2.%  แต่ทั้งนี้ยังต้องจับตาผลกระทบจากค่าเงิน ราคาน้ำมัน และน้ำท่วมภาคใต้หากสามารถฟื้นฟูได้ทันช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุน 

    ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามคือผลการเลือกตั้งสหรัฐ  ปัญหาในตะวันออกกลางมีผลต่อราคาน้ำมันโดยตรง ซึ่งจะมีผลในบางกลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่มีผลต่อเม็ดเงินลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงค์โดยมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนช่วงส.ค ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เดือนก.ย.ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยสูงสุดในรอบ 22 เดือนที่ 28,904 ล้านบาท แต่ยังขายสุทธิตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน 9.1 หมื่นล้านบาท  

       “ตลาดหุ้นไทยจุดเปลี่ยนช่วงที่ผ่านมาทำให้มีแรงหนุนจนจนเดือน ก.ย. เป็นตลาดที่เติบโตมากที่สุดอันดับ3 ในตลาดเอเชียรองจากตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน ซึ่งเชื่อว่าดัชนีขนาดใหญ่มีการปรับการลงทุน อย่างดัชนี MSCI กลับมาเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นไทยเดือนพ.ย. จากเดิมลดหนักหนักหุ้นไทยจากตลาดหุ้นอินเดีย-จีน และหุ้นไทยปรับตัวลงกระทบราคาหุ้นมีสภาพคล่องน้อยลง”

      สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนก.ย.2567 SET Index ปิดที่ 1,448.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.6% จากสิ้นเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2564 ทำให้เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น รับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2566 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร

       

       มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai ปรับมาอยู่ที่ 62,503 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า และปรับเพิ่มขึ้น 35.8% จากเดือนที่แล้ว ให้ 9 เดือนแรกของปี 2567 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 46,481 ล้านบาท 

        โดยมีบริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน SET 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) และใน mai 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) และ บมจ. พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรียลส์ (PMC) มีForward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 อยู่ที่ระดับ 15.8 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.0 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.5 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 15.6 เท่า  

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

โอบามา ลุยหาเสียงช่วยแฮร์ริส เลือกตั้งสหรัฐ สูสี แม้เข้าช่วงโค้งสุดท้าย

อดีตประธานาธิบดี บารัก โอบามา เชิญชวนให้ชาวอเมริกันลง คะแนนเสียงให้กับรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส...

TikTok เลิกจ้างพนักงานหลายร้อยคน หลังใช้ AI ทำงานกรองเนื้อหาแทน ‘มนุษย์’

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) บริษัทแม่ของ TikTok ประกาศว่ากำลังเลิกจ้างพนักงาน...

‘เฮดจ์ฟันด์ชั้นนำ’ หันมาช้อนหุ้นจีน ชี้ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “กองทุนเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำของจีน” หันมาซื้อหุ้นเทคโนโลยีจีนที่จดทะเบียนในฮ...

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนยินดีไทยนั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษชนยูเอ็น

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ออกแถลงการณ์ในวันที่ 11 ต.ค. ความว่า ตามที่ประเทศไทยได้รับการเลือ...