“อนุทิน” เปิดปากยอมรับชวน “เนวิน” เข้าบ้านจันทร์ฯกินข้าวกับ “ทักษิณ” อ้าง “เบิร์ธเดย์บอย” สุดแฮปปี้ ลั่น “โกรธกันมันจบแล้วครับนาย” ปัดดีลโครงการนายกฯ คนละครึ่ง “โรม” ออกโรงเสี้ยม “ภูมิใจไทย” แกนนำกำดุลอำนาจตัวจริง สะกิดระวังซ้ำรอยประวัติศาสตร์ เตือนอย่าทำลายการเมือง เล่นเก้าอี้ดนตรีไม่คำนึงถึงชาติประชาชน “ปิยบุตร” ตอกย้ำ พท.กลืนเลือดข้ามขั้วเพื่อ “ทักษิณ” สกัดเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย “ไพบูลย์” ขู่ฟ่อ 10 ต.ค. คิกออฟจุดจบ พท. “นายกฯอิ๊งค์” ปัดไม่รู้เรื่อง อยู่คนละบ้านกับพ่อ บินเยือนลาวถกผู้นำอาเซียน ครม.ไฟเขียว 5 กุนซือนายกฯ “จิรายุ” นั่งโฆษก รบ. ย้ายผู้ว่าฯลอตใหญ่ “มท.หนู” คำรามวันนี้มีแต่สาย มท.1 ขณะที่ “เรืองไกร” ยื่นสอยนายกฯตั้ง “เลี้ยบ-เต้น” เป็นที่ปรึกษาอีกกระทอก
แม้พยายามบ่ายเบี่ยง แถมบอกเป็นเรื่องไร้สาระ ในที่สุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยออกมายอมรับหลังการประชุม ครม.ว่าชวนนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้าไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจริง
7 รมต.ลากิจไม่เข้าประชุม ครม.
เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยนายกฯใส่ชุดสีดำ เพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้รถทัศนศึกษา ที่มีพิธีพระ ราชทานเพลิงศพในวันเดียวกัน และแจ้งผู้เข้าประชุมให้ใส่ชุดสีเข้มโทนดำร่วมไว้อาลัยด้วย ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ขอประชุม ครม.ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เนื่องจากต้องอยู่บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้า ขณะเดียวกันมีครม.แจ้งลา 7 คน คือ 1.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม 2.พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ 3.นายพิชัย นริพทะพันธุ์รมว.พาณิชย์ 4.น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 5.นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ 6.น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และ 7.น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
...
“อิ๊งค์”บอกอยู่คนละบ้านไม่ปะ“เนวิน”
ก่อนเข้าประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวถาม น.ส.แพทองธารถึงกรณีกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เข้าไปพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเจอกันจริงหรือไม่ นายกฯตอบว่า “หือ ไม่อยู่ อิ๊งค์อยู่คนละบ้านกับพ่อและวันนั้นไปภารกิจอื่น” ก่อนจะย้อนถามว่า “ใครให้ข่าวคะ” ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า เป็นรายการดังทางทีวี จากนั้นนายกฯเพียงแต่เอ่ยเสียงรับว่า “อ๋อ เหรอ” เมื่อถามอีกว่า นายกฯไม่ได้เจอนายเนวินใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “ไม่ได้เจอค่ะ” เมื่อถามย้ำว่า แล้วมีการเจอกันจริงหรือไม่ นายกฯตอบว่า เดี๋ยวขอถามคุณพ่อก่อน
ก่อนทำท่ายกโทรศัพท์มือถือขึ้นให้ดู
ปัดดึง “ณัฐวุฒิ” เสริมทีมรับมือม็อบ
ต่อมาหลังประชุม ครม.ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแต่งตั้งนายณัฐวุฒิให้มาตอบโต้ม็อบที่จะรวมตัวกันเป็นการเฉพาะหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่เกี่ยวกัน ความจริงนายณัฐวุฒิ เป็น ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ทำงานร่วมกันมา เห็นความสามารถหลายเรื่อง ทั้งการเมือง การบริหารจัดการหลายอย่าง ให้คำปรึกษากันมาตลอด คิดว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ความจริงนอกรอบเราคุยปรึกษากันเรื่อยๆอยู่แล้ว น่าจะทำประโยชน์ช่วยได้เยอะ ส่วนที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมรอบทำเนียบฯได้ให้รองเลขาธิการนายกฯไปคุยตามระเบียบ ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงความชัดเจนกรณีพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ถูกออกหมายจับในคดีตากใบ รวมถึงกรณีการโอนหุ้น บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ ให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา เมื่อต้นเดือนก.ย. โดยนายกฯไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนเดินฝ่าวงผู้สื่อข่าวไปที่รถเพื่อเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทันที
บินเยือน สปป.ลาวถกผู้นำอาเซียน
จากนั้นเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร และคณะ เดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 ระหว่างวันที่ 8-11 ต.ค. โดยหลังร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ได้หารือเต็มคณะกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกฯ สปป.ลาว อาทิ การแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ การค้ามนุษย์ หมอกควันข้ามแดน และการบริหารจัดการแม่น้ำโขง ก่อนร่วมกันเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงความร่วมมือไทย-สปป.ลาวด้านต่างๆ 6 ฉบับ ต่อจากนั้น น.ส.แพทองธารเดินทางไปยังหอคำ เข้าเยี่ยมคารวะประธานประเทศลาว และไปเยี่ยมคารวะประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ที่สภาแห่งชาติลาว ก่อนเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับผู้นำอาเซียน ที่โรงแรมลาวพลาซ่า
“หนู” สารภาพชวน “เนวิน” พบ “ทักษิณ”
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีกระแสข่าวเข้าไปพบนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พร้อมกับนายเนวิน โดยก่อนเข้าร่วมประชุม ครม.ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังสัมภาษณ์นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคมอยู่นั้น นายอนุทินอาศัยจังหวะเดินเลี่ยงกลุ่มผู้สื่อข่าว กล่าวพร้อมหัวเราะเพียงสั้นๆว่า “เจ้านายอยู่” พร้อมชี้ไปที่นายสุริยะ ก่อนเดินขึ้นห้องประชุม ครม.ไป กระทั่งเวลา 12.40 น. หลังประชุม ครม.นายอนุทินถึงลงมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมก็ไปทานข้าวเย็นที่บ้านอดีตนายกฯทักษิณ ผมไป ประจำอยู่แล้ว ก็แค่นั้น” เมื่อถามว่าแสดงว่าไปจริง นายอนุทินตอบว่า “ครับ ผมเป็นคนชวนนายเนวินไปเอง จบนะ ไม่ต้องถามอะไรต่อ เพราะการกินข้าวเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องภายใน เบิร์ธเดย์บ่อย ท่านใจดีให้เสื้อแจ็กเกตนายเนวิน 1 ตัว ผมยังไม่ได้เลย”
การันตีเจ้านายแฮปปี้ไม่ได้โกรธกัน
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายเนวินกับนายทักษิณกลับมาชื่นมื่นแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “มันไม่ได้โกรธอะไรกันเลย เรื่องที่บอกว่า โกรธกันมันจบแล้วครับนาย ใครก็ไม่รู้ไปพูด ผมอยู่มาตั้ง 10 กว่าปีไม่เคยได้ยินคำนี้ ไกลเกินไป กล้าพูดหรือ ถามจริงกับคนที่เป็นเจ้านายเรา มันจบแล้วครับนาย มันไม่มีหรอก ก็พูดมาไม่รู้กี่ทีก็ยังเอาคำนี้ มันไม่มีอะไรหรอก” เมื่อถามว่าบรรยากาศวันที่กินข้าวแฮปปี้กันหมดใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าไม่แฮปปี้ ไม่มั่นใจคงไม่ชวน เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งอะไรหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่เอาไม่คุยเรื่องนี้ เมื่อถามว่ามีคุยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คุยได้อย่างไร คนแก้ไขคือ พวกนั่งอยู่ใน ครม. ต้องคุยกับนายกฯ คุยกับสภาฯ
ยันไม่มีโครงการนายกฯคนละครึ่ง
เมื่อถามว่ามีการจับตาว่า อาจจะมีนายกฯคนละครึ่งกับพรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุทินตอบว่า คนละครึ่งหมดไปตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ แล้ว ตนตั้งใจทำงานรับใช้สนองงานนายกฯแพทองธารให้ดีที่สุด มันมีไม่ได้เลย นี่มันรัฐบาลไม่ใช่การหุ้นกันแล้วแบ่งกันคนละครึ่งเสี้ยวมันไม่ใช่ วันนี้ตนและพรรค ภท.ตั้งใจเต็มที่ทำงานกับรัฐบาลชุดนี้ สร้างประโยชน์ให้ยาวที่สุดให้กับบ้านเมืองและประชาชน เมื่อถามว่าแต่นายเนวินอวยพรให้เป็นนายกฯ นายอนุทินตอบว่า มีคนอวยพรมาเป็น 10 ปี ไม่เห็นจะได้สักทีเลย เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวเปลี่ยนตัวนายกฯ นายอนุทินตอบว่า ไม่มีครับ ยังไงก็ไม่ใช่ตน เมื่อถามว่าแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค.หนีไม่ให้สัมภาษณ์ทำไม นายอนุทินตอบว่า ไม่ได้หนี แกล้ง
“โรม” เสี้ยมประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า บทบาทพรรค ภท.ตอนนี้ชี้นำหลายอย่างของการเมืองฝั่งรัฐบาลจนเริ่มไม่แน่ใจว่า ใครคือพรรคที่เป็นแกนนำ เราบอกได้ว่าตอนนี้พรรค ภท.เป็นพรรคแกนนำตัวจริง เพราะการตัดสินใจหลายๆอย่าง การพลิกไปพลิกมาฝั่งรัฐบาลล้วนถูกชี้นำโดยพรรค ภท.ทั้งสิ้น ในประวัติศาสตร์อาจจะพบว่า นายเนวินกับนายทักษิณ เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข มีความขัดแย้งกันมา วันนี้ต้องกลับมาร่วมกันอีก เขาถึงบอกว่าประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยกันได้ เราไม่รู้ว่าจะซ้ำรอยไหน รอยร่วมทุกข์ร่วมสุข หรือรอยที่มันจบแล้วครับนาย เราก็ไม่ทราบ
ขำกระแสเล่นเก้าอี้ดนตรีคนละครึ่ง
เมื่อถามว่า มีกระแสนายกฯคนละครึ่ง นายรังสิมันต์ตอบพร้อมหัวเราะว่า นายกฯแบ่งคนละครึ่ง แบบนี้มันไม่สมควร เพราะสำคัญที่สุดคือประโยชน์ของประชาชน การผลัดกันลักษณะนี้ แม้อยู่ในฝั่งพรรคร่วมเดียวกัน ไม่มีทางที่การเมืองจะมีเสถียรภาพได้ ถ้าคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ อย่าทำให้ตำแหน่งเก้าอี้นายกฯเป็นเก้าอี้ดนตรี เมื่อถามว่า เป็นการดีลแผนทางการเมืองหรือไม่เพราะล่าสุดนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.ไปยื่นร้องสอบจริยธรรม น.ส.แพทองธาร กรณีแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นที่ปรึกษาฯ จะซ้ำรอยจริยธรรมเหมือนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯหรือไม่ นายรังสิมันต์ตอบว่า ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น ยังไม่เคยเห็นกรณีนายกฯพ้นจากตำแหน่งเพราะตั้งที่ปรึกษา จุดยืนพรรค ปชน. ไม่สนับสนุนการทำนิติสงคราม
“ป๊อก” ซัด พท.สกัดเปลี่ยนผ่าน ปชต.
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า ณ เวลานี้ที่รัฐบาลข้ามขั้วกำเนิดมาปีเศษแล้ว จึงมิใช่แค่ถามว่า ทำไมต้องข้ามขั้ว แต่ต้องเพิ่มเติมว่า “ข้ามขั้วแล้วได้อะไร” เมื่อตัดสินใจตั้งรัฐบาลแบบนี้แล้ว ได้ทำเรื่องเหล่านี้บ้างหรือยัง เช่น นิรโทษกรรม แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ถอยแล้ว แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โยนให้ สว.และประชามติ ไม่ทันมีรัฐธรรมนูญใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ผลักดัน ใช้ระเบียบราชทัณฑ์ นำนักโทษคดี 112 และคดีการเมืองมาคุมขังนอกเรือนจำ ไม่เคยทำเลย ยกเลิกเกณฑ์ทหารภาคบังคับ (เงียบ) ปัญหาข้ามขั้วจึงมิใช่เสียสละกลืนเลือด เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า แต่ข้ามขั้ว กลืนเลือดที่รสชาติหวานละมุน เพื่อให้ตนเองได้เป็นรัฐบาล โดยยอมรับทุกเงื่อนไข ภายใต้แอก และการขี่คอของพรรคร่วมรัฐบาล สว. องค์กรอิสระ และชนชั้นนำ สุดท้าย 4 ปี จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากการได้เป็นรัฐบาล แบ่งเค้กกระทรวง พาคุณทักษิณ กลับประเทศไทย และปกป้องมิให้นายกฯโดนภัยจากคดีความ จนรัฐบาลไม่กล้าคิดทำอะไรเลย นี่เป็นการเต็มใจ สนธิกำลังสร้างพลัง สกัดการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตย โดยมีพรรค พท.เป็นแกนนำ
“ไพบูลย์” ยัน 10 ต.ค.คิกออฟจุดจบ พท.
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.แถลงว่า ตามที่ได้แจ้งว่า วันที่ 10 ต.ค. จะมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่การล่มสลายพรรคแกนนำรัฐบาลจะรู้แน่ และตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าวันที่ 10 ต.ค.รู้แน่นอน ขณะนี้เหลือเวลาอีก 2 วัน น่าจะไม่ถึง 48 ชั่วโมง จะดำเนินการจากจุดเริ่มต้นนำไปสู่จุดจบทำให้แกนนำรัฐบาลพรรคหนึ่ง อาจถึงขั้นล่มสลายได้ เป็นเรื่องใดเกี่ยวกับอะไรที่ไหน จะแจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบในเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ต.ค.
นายกฯตั้ง 5 กุนซือ “จิรายุ” โฆษก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า นอกจาก ครม.เห็นชอบแต่งตั้งนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังแต่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ 5 คน ดังนี้ นายชัยเกษม นิติสิริ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร และนายจักรพงษ์ แสงมณี ตั้งนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ เป็นรองเลขาธิการ นายกฯ ฝ่ายการเมืองของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย นายคุณากร ปรีชาชนะชัย เป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ เป็นเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี 7 ราย ได้แก่ นายชยุต ภุมมะกาญจนะ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ นายศุภชัย ใจสมุทร นายพงศกร อรรณนพพร นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ และนายสิรภพ ดวงสอดศรี
“ฉัตรชัย” ไม่ชวดเลขาฯ สมช.
นายจิรายุกล่าวว่า ครม.เห็นชอบแต่งตั้งนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นเลขาธิการ สมช. นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงแรงงาน 6 ราย ดังนี้ นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน น.ส.บุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นรองปลัดกระทรวง ร.อ.สาโรจน์ คมคาย รองปลัดฯ เป็นอธิบดีกรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจฯ เป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจฯเป็นรองปลัดกระทรวง
มท.โยกผู้ว่าฯบุรีรัมย์นั่งอธิบดี
นายจิรายุกล่าวว่า พร้อมทั้งเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย 25 ราย ดังนี้ นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นรองปลัดกระทรวง นายสันติธร ยิ้มละมัย ผวจ.ลำพูน เป็นรองปลัดกระทรวง นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.อุบลราชธานี นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผวจ.พังงา และนายอดิเทพ กมลเวชช์ ผวจ.พิจิตร เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นอธิบดีกรมการปกครอง นายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.ปทุมธานี เป็นอธิบดี ปภ.นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง ผู้ตรวจฯ เป็นอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ตรวจฯ เป็น ผวจ.กระบี่
ขยับ ผวจ.ยโสธรไปฟื้นฟูเชียงราย
นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.นครศรีธรรมราช เป็น ผวจ.ฉะเชิงเทรา นายชรินทร์ ทองสุข ผวจ.ยโสธร เป็น ผวจ.เชียงราย นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ.ราชบุรี เป็น ผวจ.นนทบุรี นายสมคิด จันทมฤก ผวจ. ประจวบคีรีขันธ์ เป็น ผวจ.ปทุมธานี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ตรวจฯ เป็น ผวจ.ปราจีนบุรี นายทวี เสริม ภักดีกุล ผวจ.นครสวรรค์ เป็น ผวจ.พิษณุโลก นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ตรวจฯ เป็น ผวจ.เพชรบูรณ์ นายชุติเดช มีจันทร์ ผวจ.แพร่ เป็น ผวจ.ลำปาง นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดฯ เป็น ผวจ.สงขลา นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผวจ.พัทลุง เป็น ผวจ.สมุทรสงคราม นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.ระนอง เป็น ผวจ.สมุทรสาคร นายพิริยะ ฉันทดิลก ผวจ.อ่างทอง เป็น ผวจ.สุพรรณบุรี นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ตรวจฯ เป็น ผวจ.สุรินทร์ นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองปลัดฯ เป็น ผวจ.อุดรธานี และว่าที่ พ.ต.อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผวจ.อำนาจเจริญ เป็น ผวจ.อุบลราชธานี
“อนุทิน” ลั่นวันนี้ต้องมีแต่สาย มท.1
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้ง ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นอธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่นว่า เป็นไปตามวงรอบปกติ ปีนี้ ผวจ.ว่าง 30 ตำแหน่ง เพิ่งตั้งได้ 25 ตำแหน่ง เราต้องมีตัวจริงเข้าไปทำงานให้เร็วที่สุด เมื่อถามว่ามีการจับจ้องไปที่ ผวจ.บุรีรัมย์
นายอนุทินย้อนถามว่า บุรีรัมย์เจริญไหม เมื่อถามว่า ครั้งนี้คนของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย หลุดหมด นายอนุทินตอบว่า ไม่มีสายใคร วันนี้ต้องสาย มท.1 ตราบใดที่ มท.1 ยังอยู่ ต้องเป็นสาย มท.1 จะได้ทำงานได้ รับนโยบายได้ ไม่มีสายใคร
พท.ไม่สนปม สส.ล่องหนคดีตากใบ
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การประชุม สส.ประจำสัปดาห์ของพรรค พท.ไม่ได้หารือเรื่องใดเป็นพิเศษ รวมถึงกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส. บัญชีรายชื่อ พรรค พท.อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ถูกออกหมายจับไม่ได้ปรากฏตัวกับศาลในคดีตากใบ ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการศึกษารายละเอียดแก้ไขอายุความคดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.ว่า ให้ไปถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะที่ดูแลงานความมั่นคง ส่วนที่ตนเคยให้สัมภาษณ์ว่า จะมีการศึกษารายละเอียดนั้น ขณะนี้คณะทำงานกำลังทํางานกันอยู่
ปชน.ขยี้ถามสำนึกรับผิดชอบ
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า คดีนี้ พรรค พท.อยากให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ รับจบไปเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องตอบให้ชัด คือตกลงแล้วรัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลยหรือไม่ เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ถามว่าในวันที่เกิดเหตุการณ์เช้าวันที่ 25 ต.ค.2547 นายทักษิณให้สัมภาษณ์เองว่า ตีกอล์ฟอยู่ คุณจะพักตีกอล์ฟมาติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดไม่ได้เลยหรือ มากไปกว่านั้น ถ้าคุณรู้ว่าเมื่อมีการชุมนุม ควบคุมฝูงชนที่ค่อนข้างรุนแรง ปะทะกัน มีคนตาย คุณจะไม่ทำหน้าที่อย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ เป็นคำถามที่คาใจของสังคมว่ารัฐบาลตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ไม่เคยให้ความสำคัญแล้ววันนี้กำลังรู้สึกแบบนั้นอีกกับรัฐบาลพรรค พท.ที่จากเดิม ที่เป็นพ่อวันนี้เป็นลูกสาว ตนถึงคิดว่าถ้าต้องการดับไฟใต้ต้องคลี่คลายปมนี้ และการตอบของรัฐมนตรีอย่างมีวุฒิภาวะที่ดีที่สุดคือ ตอบแบบมีเนื้อหาสาระ ปัญหาคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นบุคคลที่ไม่มีวุฒิภาวะอะไรเลย ที่จะเป็นรองนายกฯ ดูแลความมั่นคง ไม่น่าเชื่อว่า เคยผ่านเหตุการณ์รุนแรงมาก่อนแล้วปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไป
หวั่นรัฐบาลยื้อ ก.ม.นิรโทษกรรม
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมเรียกหัวหน้าพรรคการเมืองพูดคุยหลักการนิรโทษกรรมว่า รายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.การนิรโทษ กรรม ที่มี กมธ.จากทุกพรรคการเมือง พูดถึงแนวทางนิรโทษเป็นบันไดขั้นแรกที่ควรคุยกันในรัฐสภาอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่เข้าใจทำไมเลื่อนระเบียบวาระออกไป ความขัดแย้งทางการเมือง 4-5 ปีที่ผ่านมาเป็นบาดแผลใหญ่ทำให้สังคมขัดแย้งถึงร้าวลึก ตลกมาก 2 สัปดาห์ประธาน กมธ.ขอเลื่อนไปเรื่อยๆไม่สมเหตุผล มองได้เป็นการยื้อ เพราะความกังวลประเด็น มาตรา 112 ต้องนำมาคุยกัน การเห็นชอบกับรายงานดังกล่าว ไม่ได้แปลว่าทุกฝ่ายเห็นชอบการนิรโทษกรรม กังวลมากไปหรือไม่
“เรืองไกร” ยื่นสอยนายกฯตั้ง “เลี้ยบ-เต้น”
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลัง ประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือผ่านไปรษณีย์ อีเอ็มเอสถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ คุณสมบัติการเป็นนายกฯของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง หรือไม่ กรณีแต่งตั้งนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รองนายกฯ เป็นรองประธานคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมช.เกษตรฯ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ เข้าข่ายมีพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง เนื่องจากนายสุรพงษ์ และนายณัฐวุฒิต่างเคยต้องคำพิพากษาศาลฎีกาลงโทษจำคุกมาแล้ว หากพบการทำผิดให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย พร้อมให้ศาลมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
