“ภูมิธรรม” สั่งกองทัพภาค 2 ช่วยน้ำท่วมหนองคาย ส่วน อ.แม่สาย เร่งเคลียร์โคลน บิ๊กคลีนนิ่ง ใช้เฮลิคอปเตอร์ส่งอาหารผู้ประสบภัยบนดอย ย้ำ กทม. ยังปลอดภัย ยกเพื่อไทยชนะเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก สะท้อนคนมั่นใจรัฐบาล
วันที่ 16 กันยายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.หนองคาย ว่า ตั้งแต่ช่วงแรกตนได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 2 เข้าไปเตือนและช่วยประชาชนอพยพข้าวของ โดยทาง ส.ส.หนองคาย แจ้งมาแล้วว่าได้ดำเนินการอย่างดี ทั้งคนและสัตว์เลี้ยงออกมาได้เรียบร้อยก่อนที่น้ำจะเข้า หลังจากน้ำท่วมแล้วตนได้ย้ำกับกองทัพภาคที่ 2 ไปแล้ว
ส่วนกองทัพภาคที่ 3 ที่ดูแล อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้สั่งการให้ทำบิ๊กคลีนนิ่งให้จบก่อน ต้องเร่งเอาโคลนออกจากจุดต่างๆ ออกมาให้ได้ ถ้าปล่อยไว้จนมันแข็งและแห้งจะทำให้การฟื้นฟูลำบากยิ่งขึ้น ส่วนหน่วยซีล ได้ขอกำลังให้ไปที่ จ.หนองคาย เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เรากำลังทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย และวันนี้นายกรัฐมนตรีมีการเรียกประชุมส่วนต่างๆ ในเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการกำหนดบทบาทของแต่ละส่วน ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาจจะตั้งคณะกรรมการอำนวยการน้ำในครั้งนี้เป็นกรณีฉุกเฉิน เพราะอาจจะต้องมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนที่ อ.แม่สาย ยังคงมีปัญหาที่ถ้ำผาจม ซึ่งมีดินโคลนค่อนข้างมาก มีการประสานให้กระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทยเข้าไปช่วยแล้ว ส่วนบนดอยนั้นเราไม่ค่อยได้พูดถึง เนื่องจากเป็นเรื่องของดินถล่ม ทางขาด ไม่สามารถลงมาเอาอาหารได้ จึงประสานกับเฮลิคอปเตอร์ไปส่งอาหารให้ เราพยายามทำให้ทั่วถึงมากที่สุด จากนี้จะมีการวางแผนเพื่อไปดูในส่วนต่างๆ เพราะน้ำบางส่วนเราเห็นแล้วว่า อย่างเช่นพื้นที่ จ.หนองคาย พื้นที่บริเวณตลิ่งค่อนข้างต่ำ น้ำเลยทะลักเข้าเร็ว เราจึงพยายามแก้ไขปัญหา
...
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ที่ อ.แม่สาย มีดินโคลนจำนวนมากจะผลักดันเอาไปไว้ที่จุดไหน นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม มีการหารือกันแล้ว มีการขุดออกไป และจัดหาสถานที่ไว้แล้ว ไม่มีปัญหา ซึ่งดินเหล่านี้มาจากดินถล่ม มันจะสามารถใช้ได้กับเรื่องการเพาะปลูกของเกษตรกร ในส่วนของค่ายทหารเองก็รองรับได้ เมื่อถามต่อไปได้เตรียมรับมือในส่วนของพื้นที่ที่น้ำจะไหลลงมาหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า มีการเตรียมการแล้ว มีการสั่งการแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องผู้สูงอายุที่ห่วงทรัพย์สิน ไม่ยอมออกจากบ้าน โดยจะมีหน่วยทหารและหน่วยซีลเข้าไปช่วยลำเลียงออกมาได้ และยังมีบางส่วนที่เป็นหน่วยลาดตระเวนดูแลทรัพย์สินของประชาชน
ขณะที่ดูเหมือนจะมีพายุเข้ามาอีกนั้น นายภูมิธรรม เผย ทราบว่ามีอีก 2 ลูก แต่ไม่ได้มาถึงประเทศไทย น่าจะไปทางเหนือ ทางเมียนมา ซึ่งคงไม่ได้มีปัญหาอะไรนัก แต่เราเฝ้าดูอยู่ โดยให้ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าไปประจำอยู่หน่วยหน้าเลย เพื่อดูรายละเอียดต่างๆ ดังนั้น คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนในกรุงเทพมหานครโดยรวมคิดว่าน่าจะยังปลอดภัยอยู่ เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนยังพอที่จะระบายลงมาได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เราตั้งศูนย์ประสานงานให้สามารถทำงานบูรณาการกันได้มากขึ้น
“ขอบอกกับประชาชนว่ารัฐบาลห่วงใยกับปัญหาที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการจัดตั้งและจัดหน่วยต่างๆ ลงไปในพื้นที่ ไม่ได้ทอดทิ้ง และหน่วยงานรัฐบาลได้เข้าไปตั้งแต่วันแรกที่เกิดปัญหา ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายเรื่อยๆ หากฝนไม่ได้ตกกระหน่ำเหมือนที่ผ่านมา และพายุไม่ได้เข้า สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น”
ทางด้านผลการเลือกตั้งซ่อม สส.พิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะ ถือเป็นกำลังใจที่ดีให้กับรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องกราบขอบพระคุณชาวพิษณุโลกที่ให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยในการให้เข้ามาทำหน้าที่ร่วมกับรัฐบาล เข้ามาบริหารจัดการเพื่อจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งผู้ที่เสนอตัวก็เป็นผู้ที่มีศักยภาพและประชาชนให้ความไว้วางใจ ถือเป็นกำลังใจให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยและกรรมการบริหารพรรคมีความสบายใจและชื่นชม คิดว่า นายจเด็จ จันทรา ผู้สมัครของพรรคคนนี้คงได้กำลังใจจากประชาชนมา จากนี้ไปนายจเด็จ จะเข้าพื้นที่ได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่องทุกวัน
สำหรับผลที่ออกมาเป็นการสะท้อนอะไรได้บ้าง นายภูมิธรรม บอกว่า เป็นการสะท้อนว่าประชาชนพึงพอใจที่มีนายกรัฐมนตรีที่มีความตั้งใจ และเป็นความหวัง ความเชื่อมั่นต่างๆ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนในเขต 1 จ.พิษณุโลก ให้ความมั่นใจรัฐบาล และเชื่อว่าการเลือก สส. มาสนับสนุนรัฐบาลจะทำให้มีความมั่นคงแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าเป็นการสะท้อนการเมืองภาพใหญ่ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า มันจะค่อยๆ พัฒนาไปตามกระบวนการอยู่แล้ว จากวันนี้ไปนอกจากประชาชนให้กำลังใจแล้ว ประชาชนก็มีความหวัง รอการทำงานของรัฐบาล สำหรับรัฐบาล นายกรัฐมนตรีได้สั่งการแล้วว่าทุกคนต้องทำงานอย่างหนักตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ขณะนี้ปัญหาของเราคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน.
