“พิพัฒน์” รมว.แรงงาน ยัน เดินหน้าประชุมขึ้นค่าแรง 400 บาท ศุกร์นี้ เมินนายจ้างเทซ้ำ ไม่หวั่นหากถูกฟ้องร้องภายหลัง ชี้ มีมาตรการเยียวยา ยืนยัน 1 ต.ค.นี้ ได้แน่นอน
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 18 กันยายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นค่าจ้าง 400 บาท ทั่วประเทศ ครั้งที่ 2 ในวันที่ 20 กันยายน 2567 ฝ่ายนายจ้าง ทั้ง 5 เสียง จาก 15 เสียง จะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่หลังก่อนหน้านี้อ้างติดภารกิจ ว่า ขณะนี้ได้ทำจดหมายเชิญแล้ว อยู่ที่ตัวแทนฝ่ายนายจ้างจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคล ตนไม่สามารถก้าวก่ายได้ แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้คณะกรรมการฝ่ายนายจ้างเข้ามาหารือกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด เพราะตามนโยบายตนก็หาแนวทางที่ดีที่สุด และให้มีผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึงพูดคุยกับกระทรวงการคลัง เพื่อหาแนวทางในการเยียวยาแก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากวันที่ 20 กันยายนนี้ 5 เสียงฝ่ายนายจ้าง ไม่เข้าร่วมประชุม คณะกรรมการไตรภาคีที่เหลือจะเดินหน้าพิจารณาเดินหน้าประกาศขึ้นค่าแรง 400 บาท ให้ทันวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ใช่หรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า หากนายจ้างไม่เข้าร่วมการประชุมครั้งที่ 2 เราก็จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และดำเนินการประชุม โดยจะอ้างอิงเสียงการโหวต 2 ใน 3 ซึ่งหากฝ่ายลูกจ้างและฝ่ายข้าราชการเข้าครบก็สามารถทำการโหวตได้
...
เมื่อถามต่อไป ยืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 จะได้ค่าแรง 400 บาท นายพิพัฒน์ ระบุว่า “ยืนยันครับ ชัดเจนครับ” ก่อนกล่าวต่อไปว่า เพราะเมื่อประกาศไปแล้วก็พยายามทำให้สำเร็จ ซึ่งตนเชื่อว่าฝ่ายลูกจ้างก็รอ และยอมรับว่ากระทบต่อนายจ้างพอสมควร เพราะตนก็มาจากภาคธุรกิจ ซึ่งบริษัทในเครือของเราก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน เนื่องจากมีลูกจ้างประมาณ 30,000 คน ได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 คน แต่ก็ยอมรับผลกระทบตรงนั้น แต่ก็ต้องดูว่ากระทรวงการคลัง จะเยียวยาผู้ประกอบการได้อย่างไร ยืนยันว่าขณะนี้มีมาตรการเยียวยาแล้ว โดยจะประกาศพร้อมกันในวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งมาตรการเยียวยาที่ปรับตามประกาศ พ.ศ. 2555 เพื่อมาใช้ในปัจจุบัน
ส่วนคำถามว่ากังวลหรือไม่หากประกาศขึ้นค่าแรง 400 บาทในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ อาจจะถูกนายจ้างและผู้ประกอบการร้องเรียนฟ้องร้องภายหลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร ตนยินดีรับสิ่งที่พวกเรากระทำ และถือว่าตนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งหากจะมีการฟ้องร้องหรือไปร้องเรียนศาลปกครอง เราก็พร้อมน้อมรับ และยืนยันว่าไม่หนักใจในเรื่องนี้.
