เพื่อไทย ทวงคืนประชาธิปไตยกินได้ ยัน รัฐประหารต้องไม่เกิดขึ้นอีก ย้ำเดินหน้าแก้ รธน.

18 ปี รัฐประหาร 49 “ก่อแก้ว พิกุลทอง” ชี้ ถึงเวลาคืนประชาธิปไตยกินได้ ยันเพื่อไทยเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ด้าน “ดนุพร” ลั่น รัฐประหารต้องไม่เกิดขึ้นอีก ระบุ รัฐบาลภราดรภาพ เดินหน้าร่วมมือกันทำงาน

วันที่ 19 กันยายน 2567 นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เมื่อ 18 ปีที่แล้ว คณะรัฐประหารได้ทำการยึดอำนาจรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ภายใต้อำนาจเผด็จการ สิ่งที่เราสูญเสียไปคือ “โอกาสของประเทศ” พี่น้องประชาชนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การรัฐประหารคืออาชญากรรมร้ายแรงต่อมวลมนุษยชาติ เป็นอาชญากรรมต่อระบอบประชาธิปไตย ผลักประเทศให้เดินถอยหลังไปเกือบ 2 ทศวรรษ เราปฏิเสธการรัฐประหาร และรัฐประหารต้องไม่เกิดขึ้นอีก

ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน คนไทยอยู่กับรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เปรียบเสมือนผลไม้พิษที่กัดกร่อนประชาธิปไตย ด้วยความมุ่งมั่นแน่วแน่ของพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันในทางออกและทำลายผลไม้พิษนี้ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลกำลังเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง

ในวันนี้ รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เรามุ่งมั่นทวงคืน “โอกาส” ให้กลับมาสู่คนไทยทุกคน ในช่วงที่ประชาธิปไตยไทยกำลังเบ่งบาน รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย กำลังเดินหน้าทำงานร่วมกันกับทุกฝ่าย อุทิศเวลาทุกวินาทีทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อพี่น้องประชาชน ดังที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเอาไว้ และยังคงเดินหน้าต่อไปในหลักการข้างต้น ด้วย “ภราดรภาพ” คือ “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน” (Solidarity) กับทุกฝ่าย แม้เห็นแตกต่างแต่เราสามารถหาจุดร่วมได้ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่สร้างความขัดแย้งขึ้นใหม่ นี่คือเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย เพราะประเทศไทยต้องไปต่อ

...

พรรคเพื่อไทยในฐานะสถาบันการเมือง ในฐานะแกนนำรัฐบาลของพี่น้องประชาชน เราจะบริหารราชการแผ่นดินอย่างดีที่สุด เราจะร่วมมือกันกับคนไทยผู้รักประชาธิปไตย ไม่ให้การรัฐประหารเกิดขึ้นในประเทศไทยอีก

ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความเนื่องในวันครบรอบ 18 ปี ของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยระบุว่า การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล ผมเป็นวิศวกรจากครอบครัวยากจน ที่มุ่งหวังสร้างฐานะด้วยการประกอบธุรกิจส่วนตัว แต่ผิดหวังกับรัฐบาลทุกยุค

จนกระทั่งปี 2544 ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้เห็นประเทศไทยฟื้นจากวิกฤติต้มยำกุ้ง เดินหน้าไปสู่การพัฒนาในหลายด้าน เช่น ปฏิรูประบบราชการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจขนานใหญ่ เกิดความหวัง ความสุข และความภาคภูมิใจแก่คนทั่วประเทศ รวมทั้งการชื่นชมและยอมรับจากนานาชาติ

รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ที่มาจากประชาชน สร้างรัฐบาลที่เข้มแข็ง และมีเอกภาพ ทำให้การบริหารประเทศและการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด ก่อให้เกิดเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ครั้งแรก

การรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. 2549 เป็นการรัฐประหารที่ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อโค่นล้มและหยุดยั้งกระแสนิยม ดร.ทักษิณ ชินวัตร

การรัฐประหารครั้งนั้น ไม่เพียงทำลาย ดร.ทักษิณ พรรคไทยรักไทย เท่านั้น แต่ยังทำลายเศรษฐกิจและความหวังของคนไทยทั้งประเทศ ผมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร จุดยืนที่นำมาสู่การเข้าร่วมกับพี่และเพื่อนที่นำโดย คุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ร่วมกับคุณจักรภพ คุณจตุพร และคุณณัฐวุฒิ ด้วยการตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อว่า PTV เพื่อสื่อสารต่อสาธารณะ ในการต่อต้านการยึดอำนาจ และสนับสนุนประชาธิปไตย

ที่ต่อมา ไปตั้งเวทีปราศรัยต่อต้านการยึดอำนาจ ณ ท้องสนามหลวง และได้หลอมรวมกลุ่มต่าง ๆ ที่มีจุดยืนเดียวกัน กลายเป็น “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)” มีประชาชนที่รักประชาธิปไตยเป็นแนวร่วมหลายล้านคน ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

จนถึงวันนี้ ผ่านไปแล้ว 18 ปี บนถนนสายที่ผมตัดสินใจเดินมาเพียงชั่วข้ามคืน จากเดิมที่ทำธุรกิจส่วนตัว สู่ประชาชนที่เคลื่อนไหวบนท้องถนน ร่วมกับคนทุกเพศทุกวัย ต้านการรัฐประหาร และหาหนทางนำประชาธิปไตยกลับสู่สังคมไทย เส้นทางการต่อสู้ เพื่อทำให้ประชาธิปไตยทำให้โดนคดีมากมาย ติดคุกหลายรอบ สูญเสียเวลาและโอกาส แต่ยังโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่

การรัฐประหาร 2549 โดย คมช. เปลี่ยนแปลงการเมืองไทยและประชาชนไทย ไปแบบที่ไม่สามารถเรียกคืนทุกอย่างให้กลับคืนมาได้ การรัฐประหารซ้ำในปี 2557 โดย คสช. เป็นการซ้ำเติมปัญหาของประเทศอย่างหนักหน่วง

หลังการรัฐประหาร 2549 และ 2557 คมช. และ คสช. มีการจัดทำรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และ ปี 2560 ที่ปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน มีความพยายามซุกซ่อนอำนาจของคณะรัฐประหารเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ ลดทอนสิทธิเสรีภาพและอำนาจของประชาชน เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศและการพัฒนาประชาธิปไตยของสังคมไทย ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดี ทำให้เกิดการไม่ยอมรับ และก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีนโยบายสำคัญ 1 ในนั้นคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เป็นประชาธิปไตยตามหลักสากล ที่มาจากประชาชน เป็นของประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้ผลักดันหลายเรื่องผ่านรัฐสภา เพื่อปูทาง นำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

และเชื่อมั่นว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารประเทศของท่านนายกฯ แพทองธาร ซึ่งมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างประชาธิปไตยอย่างยิ่ง จะเดินหน้าไปสู่การมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน คืน “ประชาธิปไตยที่กินได้” ให้คนไทยอีกครั้ง

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...