“วิโรจน์” สรุปอภิปรายเป็นคนสุดท้าย นโยบายภาพรวมยังหลวม ไม่เห็นรายละเอียดเมื่อเทียบกับการแถลงนโยบายรัฐบาลที่ผ่านๆ มา “เศรษฐา” ขอบคุณทุกข้อเสนอ ยอมรับมือใหม่ รัฐบาลเพิ่งเริ่ม พร้อมชวนติดตามการทำงาน
เมื่อเวลา 23.54 น. วันที่ 12 กันยายน 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายสรุปเป็นคนสุดท้ายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการแถลงนโยบายรัฐบาล ว่า สิ่งที่สมาชิกเอามาอภิปรายอยู่บนความเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน เพราะส่วนใหญ่ก็นำมาจากที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ฝ่ายค้านไม่ได้ทำเพื่อความสะใจ แต่เพื่อหาความจริงใจที่เคยพูดกับประชาชนเอาไว้ ไม่ได้ด้อยค่า และโตๆ กันแล้ว
ภาพรวมของนโยบายรัฐบาลนั้นกว้าง ไม่มีการแยกหมวดหมู่ ไม่กล้ารับปากให้คำมั่นกับประชาชน ส่อว่าการแบ่งยังไม่ลงตัว และนายกรัฐมนตรีอาจเป็นเพียงนักแสดงนำชาย จะมีอำนาจการตัดสินใจจริงหรือไม่ นโยบายมีเพียง 14 หน้า และหวังว่าการสื่อสารของรัฐบาลจะเป็นเอกภาพมากกว่านี้ เพราะหลายนโยบายยังมีการพูดสวนกันเองของพรรคเพื่อไทย แล้วข้าราชการจะทำงานได้อย่างไร ซึ่งการสื่อสารไม่ตรงกันจะมีปัญหาในการขับเคลื่อนอย่างมาก
ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดคือ ประชาชนไม่เห็นการกล้ารับปากให้คำมั่น แตกต่างจากรัฐบาลประชาธิปไตยที่ผ่านมา ฟังแล้วไม่สบายใจจากการฟังคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี พร้อมเปรียบเทียบกับรัฐบาล นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เคยมีการซ่อนตัวเลขเหมือนเช่นรัฐบาลนี้ นโยบายหลายอย่างก็ยังไม่รู้จะดำเนินการต่ออย่างไร ผู้สูงอายุ 11 ล้านคน ต้องพิสูจน์ความจนหรือไม่ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดที่ถูกเลื่อน ขอให้รักษาสัญญาที่จะจ่ายในวันที่ 18 กันยายนนี้ จะมีการสร้างเงื่อนไขตัดสวัสดิการอะไรอีกหรือไม่ ปีหน้ารายได้เกษตรกรจะเพิ่มกี่เปอร์เซ็นต์ ขอคำตอบนายกรัฐมนตรีให้ชัด
...
ขณะที่ นโยบายพลังงาน ค่าไฟฟ้าในระดับที่เหมาะสม เข้าใจว่าพรุ่งนี้การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะปรับลดลง แต่จะแก้ปัญหาต้นตอค่าไฟฟ้าแพงอย่างไร ไม่มีถ้อยแถลงที่สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ประชาชนคงไม่พ้นต้องยอมให้นายทุนรีดค่าไฟแพงๆ เรื่องทุนผูกขาดผ่านมา 12 ปี กลุ่มทุนใหญ่มากขึ้น ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น อีกทั้งนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่ชี้แจงว่าไม่ได้กีดกันทุนใหญ่ จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่จะทำลายร้านชำคนตัวเล็กทั้งประเทศ พร้อมทวงงบประมาณที่ค้างจ่าย อปท. ซึ่งส่วนกลางดูดมากว่า 2 ปีแล้ว
นอกจากนี้ ผู้มีอิทธิพลก็ผันตัวเป็นสปอนเซอร์จ่ายส่วนซื้อขายตำแหน่ง สยายปีกให้ข้าราชการมาเป็นสมุน ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ที่น่าผิดหวังคือไม่มีความชัดเจนในการจัดการปัญหาเหล่านี้เลย การปฏิรูปกองทัพ ที่ใช้คำว่ากับการพัฒนาร่วมกัน กองทัพจะมาช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งรัฐบาลอาจจะลืมกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ของกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าพวกเราอยู่กับความจริง เงินสวัสดิการกู้ซื้อบ้านของทหารผู้น้อยที่ต้องจ่ายเงินทอนปัจจุบันก็ยังมี เราไม่ได้อยู่กับความเพ้อฝัน รัฐบาลจึงต้องเร่งปฏิรูปกองทัพ
นายวิโรจน์ ทิ้งท้ายว่า จากรัฐบาลที่เคยคิดใหญ่ทำเป็น เป็นรัฐบาลที่คิดน้อยไม่กล้าทำ หรือรอผู้มีอำนาจตัวจริงตัดสินใจ หรือถูกพรรคร่วมรัฐบาลบีบคอ การแถลงนโยบายมุมกว้าง คลุมเครือ เป็นสัญญาณที่บอกประชาชนต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง นายกรัฐมนตรีต้องเป็นนายกฯ ของคนไทยทุกคน ต้องเกรงใจประชาชน ทะเยอทยาน กล้าตัดสินใจในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ประชาชนจะได้กล้าฝากอนาคตไว้
นายกฯ พร้อมรับฟังทุกคำติชม ชวนติดตามการทำงานรัฐบาลเศรษฐา
ต่อมาเวลา 00.24 น. วันที่ 13 กันยายน 2566 นายเศรษฐา กล่าวปิดท้ายว่า ขอบคุณทุกความเห็น ข้อแนะนำ คำติชม คำดูถูก ที่ฟังมาตลอด 2 วัน ประเทศไทยประสบปัญหายาวนาน รัฐบาลยุคของตนเพิ่งเริ่ม เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ยอมรับว่าเป็นมือใหม่ เข้าใจถึงความเป็นห่วงเป็นใย เข้าใจความปรารถนาดี ขอให้เข้าใจเช่นกันว่านายกรัฐมนตรีมีความปรารถนาดี มีความทะเยอทะยาน และพร้อมรับฟังทุกคำติชมจากทุกท่าน ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล
“ทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ล้วนได้รับแบกความหวัง ทำหน้าที่เพื่อขับเคลื่อนประเทศ เพราะฉะนั้นอะไรที่ดีต่อพี่น้องประชาชนขอให้ร่วมกันเสนอมา ตลอด 2 วันของการอภิปราย นายกรัฐมนตรีได้รับฟังมาโดยตลอด ซึ่งหลายอย่างน้อมรับว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน เป็นประโยชน์ต่อการทำนโยบายในอนาคตหลายอย่าง รัฐบาลพร้อมที่จะรับไปพิจารณา”
ทั้งนี้ ขอชี้แจงวาระการประชุม 2 วันที่ผ่านมา เป็นการแถลงนโยบาย ซึ่งเป็นการกล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจว่าจะทำ และคาดหวังผลลัพธ์ของการบริหารประเทศภายใต้รัฐบาลนี้ นโยบายทั้งหมดถูกรวบรวมร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ที่ได้รับการหาเสียงตลอดช่วงเวลาก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทุกพรรคมีความตั้งใจ มีความจริงใจที่จะร่วมบริหารให้ประเทศผ่านวิกฤติทางการเมือง แก้ปัญหาเร่งด่วนที่มีอยู่มากมาย เพื่อนำประเทศเดินไปข้างหน้า รัฐบาลจะจัดทำรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน มีที่มาของงบประมาณ ตัวชี้วัด ไทม์ไลน์ บรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการของแต่ละกระทรวง พร้อมผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน รวมทั้งในประเด็นของงบประมาณรัฐบาลให้ความชัดเจนเกี่ยวกับการบริหารงบประมาณอย่างระมัดระวัง ไม่ให้กระทบต่อสัดส่วนหนี้สาธารณะโดยไม่ให้มีเหตุอันควร
วันนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคนเพิ่งเข้ามารับหน้าที่ใหม่ บางท่านก็คุ้นเคยหน้าตากัน พร้อมที่จะสั่งการได้ ขอเรียนว่าต้องขอเวลา พร้อมจะนำเสนอแผนอย่างแน่นอน ขอให้ 4 ปีต่อจากนี้ไปเป็น 4 ปีที่ทุกท่านทำงานในหน้าที่ตนเองอย่างเต็มที่ คุ้มกับเงินภาษีและความไว้วางใจของประชาชนที่ได้มอบให้ เป้าหมายความสำเร็จของนโยบายจะถูกพิสูจน์ได้โดยอัตราการเจริญเติบโตของประเทศ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ทั้งเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ความมั่นคง การศึกษา สิทธิเสรีภาพ การบังคับใช้กฎหมาย และอีกหลากหลายประการ
“ขอเชิญชวนให้ทุกท่านในรัฐสภาแห่งนี้ ร่วมกับประชาชนทุกคน ติดตามการทำงานของรัฐบาลเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ที่ได้มอบความไว้วางใจให้กับทุกท่านในที่แห่งนี้”
จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นลงแล้ว ซึ่งนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ท้วงขึ้นว่านายกรัฐมนตรียังไม่ตอบคำถาม โดยประธานชี้แจงว่าเป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรี จากนั้นกล่าวขอบคุณความร่วมมือที่ทำให้เสร็จสิ้นด้วยดี และสั่งปิดประชุม ในเวลา 00.31 น. วันที่ 13 กันยายน 2566