“ศิริกัญญา” อัด นโยบายรัฐบาลว่างเปล่า ซัดไม่ใช่ “เศรษฐา” ที่เปลี่ยน เพื่อไทยก็เปลี่ยน (คลิป)

“ศิริกัญญา ตันสกุล” จัดหนัก นโยบายรัฐบาลขาดเป้าหมาย ขาดรายละเอียด เลี่ยงใส่นโยบายที่หาเสียงไว้ ถามกลัวทำไม่ได้ หรือเป็นเพราะรัฐบาลผสมข้ามขั้ว อัดไม่ใช่ “เศรษฐา” ที่เปลี่ยน พรรคเพื่อไทยก็เปลี่ยน ชี้การบริหารประเทศไม่ใช่การพนัน ที่จะเทหมดหน้าตัก

วันที่ 11 กันยายน 2566 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

โดยภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงนโยบายเสร็จสิ้น ต่อมาเมื่อเวลา 10.32 น. นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายซักถาม ซึ่งได้อ่านกลอนเกี่ยวกับเพื่อนสมาชิกรัฐสภา โดยขอให้มีคุณความดี มีจิตสำนึก เน้นส่วนรวมเป็นหลัก การเมืองต้องโปร่งใส ซึ่งถือเป็นหน้าที่สมาชิกรัฐสภา 

ต่อมา เมื่อเวลา 10.35 น. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเนื้อหาการแถลงนโยบายของ นายเศรษฐา ว่าในการแถลงนโยบาย ขาดความชัดเจน ไม่มีตัวชี้วัด มีแต่คำกว้างๆ หากพรรคการเมืองไหน ไม่ยอมดำเนินนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ถือว่าทรยศต่อความไว้วางใจต่อประชาชนหรือไม่

พร้อมเปรียบเทียบการแถลงนโยบายของ 3 รัฐบาล คือรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลของ นายเศรษฐา โดย นางสาวศิริกัญญา ขอให้คะแนน พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่า และขอให้คะแนนเต็มรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์  ที่สอดคล้องบริบทที่มุ่งหน้า AEC ตรงที่ให้สัญญาไว้ก่อนเลือกตั้ง ส่วนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีกรอบให้ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในศตวรรษที่ 21 แต่ของ นายเศรษฐา กลับไม่มีเป้าหมาย เพราะไม่มีรายละเอียด ไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลา เช่น เรื่องแก้ปัญหาปากท้อง ก็ไม่ได้บอกว่าจะเสร็จใน 90 วัน หรือ 1 ปี และนโยบายที่เคยประกาศไว้ในการหาเสียงกลับหายไปในการแถลงนโยบายวันนี้ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 

...

“นอกจากจะเป็นคำแถลงที่ขาดทั้งเป้าหมาย ขาดทั้งรายละเอียด หลีกเลี่ยงนโยบายที่ใส่ไว้ในการหาเสียงแล้ว ยังเป็นคำแถลงที่ขาดความทะเยอทะยาน ที่จะพาสังคมให้ก้าวหน้า ขาดความทะเยอทะยานที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างใดให้เกิดขึ้นกับประเทศนี้ เสมือนว่าหลับตาข้างหนึ่ง แล้วก้าวข้ามความขัดแย้ง ว่าไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งความขัดแย้งทางการเมือง หรือปัญหาความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็ไม่ได้มีการพูดถึง ไม่มีการพูดถึงลดความเลื่อมล้ำ เสมือนว่าปัญหานี้มันหมดไปจากประเทศแล้ว ไม่กล้าแตะเรื่องยากๆ ที่จะแก้ปัญหาที่ต้นตอ ดิฉันคิดว่าตอนหาเสียง ท่านกล้ามากกว่านี้มากค่ะ” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่เป็นแบบนี้ เพราะ 2 เหตุผล คือ กลัวการผูกมัด กลัวว่าจะทำหน้าที่ไม่ได้ที่เคยสัญญา จึงมองว่าหากนโยบายไหนคิดว่าทำไม่ได้ ไม่ควรจะไปหลอกประชาชนในช่วงเลือกตั้ง และอีก 1 เหตุผล คือ เป็นรัฐบาลผสมข้ามขั้ว จึงเขียนนโยบายที่ลอยและกว้างเอาไว้ว่าถูกต้องของแต่ละพรรค อีกทั้งยังกลัวอำนาจเก่า จึงไม่กล้าทำเรื่องยากๆ ที่ปะทะกับใครเลย พร้อมถามเรื่องภัยแล้ง เอลนีโญ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอีกต่อไปแล้วใช่หรือไม่

“ไม่ใช่แค่ ท่านเศรษฐา ที่เปลี่ยน พรรคเพื่อไทยก็เปลี่ยน ในคำแถลงของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้มาก อยู่ในนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ข้อที่ 1 ว่าจะกระจายรายได้ที่เป็นธรรมให้กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ และให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ที่ยืนยันว่า 2 เรื่องนี้ไปด้วยกันได้ ไม่ต้องรอเค้กโตก่อนแล้วค่อยแบ่ง คำถามคืออุดมการณ์และจุดยืนของพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนไปแล้ว หรือยังคงเดิมกันแน่ หรือท่านเห็นว่าไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไป หรือบริบทเปลี่ยนไปแล้ว ก็ขอให้ชี้แจงกับประชาชนด้วย” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลยังไม่ระบุแหล่งที่มาของรายได้ เช่น เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องเอาเงินสดมากองไว้ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ว่า 1 บาทดิจิทัล กับ 1 บาทในโลกจริง มีมูลค่าเท่ากัน ส่วนงบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท มีงบ 2 ทาง คืองบประมาณแผ่นดิน ซึ่งสุ่มเสี่ยงงบประมาณไม่พอ และเงินนอกงบประมาณ  เช่น กู้แบงก์รัฐ ยืมกองทุนหมุนเวียน หรือขายกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งเสี่ยงเงินผันผวน อีกทั้งไม่เห็นด้วยจะเอาเงินกองทุนประกันสังคม หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการมาใช้ ที่ไม่ใช่เงินรัฐ

พร้อมเตือน 5 ความเสี่ยง 5 ข้อที่รัฐบาล เศรษฐา ต้องระวัง คือ 1. การกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่อาจป่วยเฉพาะส่วนและเรื้อรัง 2. เรื่องกระจายรายได้ ที่ควรมีการปฏิรูปการจัดงบประมาณและภาษีไปด้วย 3. เศรษฐกิจผูกขาด 4. เรื่องวิธีคิดนโยบาย ที่โยกกระเป๋าซ้ายขวา และ 5. โลกเปลี่ยนไทยควรเปลี่ยน ที่บริบทแตกต่างจากทศวรรษ 2540

“การบริหารประเทศไม่ใช่การพนัน ที่จะเทหมดบ่อหน้าตัก แล้วไปหวังน้ำบ่อหน้าไม่ได้ น่าจะถึงเวลาที่ท่านจะต้องตั้งใจฟังเสียงที่ท่านไม่ได้อยากได้ยิน ที่ท่านบอกว่าประเสริฐที่สุด ตลอด 2 วันนี้ ข้อดีของการแถลงนโยบายกว้างๆ คือท่านยังมีโอกาสทำอะไรได้มากกว่านั้น โดยที่ไม่ถือว่าเป็นการผิดคำสัญญา หากพลาดโอกาสนี้ ยังมีโอกาสอีกครั้งในการแถลงนโยบายที่จะมาถึง ดิฉันเฝ้ารอในโอกาสหน้าแล้ว” นางสาวศิริกัญญา กล่าว.