เพื่อไทยดับกระแสนายกฯสํารอง “เศรษฐา” ยํ้าอีก ตั้ง “พิชิต” สุจริต

“เศรษฐา” ลั่นน้อมรับคำตัดสิน คดีตั้ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ มั่นใจทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและบริสุทธิ์ เมินคนโฟกัสกระแสนายกฯสำรอง ยันไม่เคยคุยปรับ พปชร.พ้นพรรคร่วมฯ ไม่ต้องเคลียร์ “ธรรมนัส” แค่มองตาก็รู้ใจกันดี คนเพื่อไทยเชื่อนายกฯรอด “อนุสรณ์” อวยมีแต่นายกฯตัวจริงอยู่ยาว 8 ปี “ครูมานิตย์” เหน็บมีแต่คนนอกเกม- กองเชียร์คิดเรื่องผู้นำสำรอง “โหรวันชัย” ฟันธง “อนุทิน” ไม่ได้เป็นนายกฯ ภท.มี 70 เสียงเป็นแกนนำรัฐบาลไม่ได้ เว้นแต่เสี่ยหนูย้ายเข้า พท. “ก้าวไกล” เตรียมใช้ “ถิ่นกาขาว” เป็นบ้านชั่วคราว ส่ง “ศิริกัญญา” นำทัพ 10 กก.บห.ลุ้นระทึกถูกเชือด “ปดิพัทธ์” ติดบ่วงด้วย “วิสุทธิ์” ชี้ศาลไม่ให้ “ทักษิณ” บินไปดูไบเป็นเรื่องปกติตามเงื่อนไขประกันตัว “วรชัย” วอนอย่าอคติใส่ร้ายนายใหญ่ สู้คดี ม.112 ยังอีกนานจะคิดหนีทำไม

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พ.ท.) แสดงความมั่นใจ และไม่กังวลใจต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย คดี 40 สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค. โดยยืนยันการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย จึงไม่มีการเตรียมการเรื่องนายกฯสำรอง

...

“เศรษฐา” เข้าทำเนียบฯ ประชุม 2 คณะ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยเวลา 10.30 น. เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจที่ห้องโดม ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเป็นประธานการประชุมหารือการป้องกันความปลอดภัยบนท้องถนน ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า มี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

น้อมรับคำตัดสินมั่นใจสุจริตบริสุทธิ์

ก่อนการประชุมนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงคดีที่ 40 สว. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ในส่วนของคดีนี้ได้เซ็นลงนามและส่งคำแถลงปิดคดีไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ก.ค.แล้ว เป็นการปิดสำนวนเรียบร้อย เมื่อถามย้ำว่า วันนี้ยังมีความมั่นใจอยู่ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ไม่อยากไปก้าวล่วงที่จะบอกว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจ แต่ส่วนตัวมั่นใจว่าทำทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและบริสุทธิ์ เมื่อถามถึงกระแสข่าวการเตรียมหานายกฯสำรอง นายเศรษฐายิ้มพร้อมกล่าวว่า แล้วแต่จะคิดกันไป แต่วันนี้ทำงานเต็มที่และยังเป็นนายกฯอยู่ ส่วนวันที่ 14 ส.ค.ศาลตัดสินออกมาอย่างไรก็น้อมรับ เชื่อว่ากระบวนการการเมืองมีขั้นตอนให้เดินหน้าตามเรื่อง แต่วันนี้ตราบใดที่ยังเป็นนายกฯอยู่ยังทำงานเต็มที่

ยันไม่เคยคุยปรับ พปชร.ออก

เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล ยังให้กำลังใจในการทำงานอย่างเต็มที่ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คุยกันดี แต่ว่าไม่ได้เจอ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่หลายวันแล้ว งานก็ไม่ได้เจอกันเลย ต้องเข้าใจว่าท่านป่วย ขอให้ท่านหายดี แต่เมื่อคืนวันที่ 31 ก.ค.ได้เจอกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พูดคุยกันดี เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะปรับพรรค พปชร.ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า ตนยังไม่เคยคุยเรื่องนี้ วันนี้เรามาโฟกัสที่ปัญหาบ้านเมืองดีกว่า อย่างวันนี้จะเดินทางไปดูปัญหาน้ำท่วม เมื่อถามถึงกรณีที่มีสมาชิกพรรคพปชร.ออกมาแซะนายกฯ ทำให้นายกฯหวั่นไหวต่อการทำงานหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ไม่เลยครับ เป็นเรื่องภายในของพรรค พปชร.เขา ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน และอย่างที่บอกว่าคำว่าแซะ มันมีนัยเยอะแยะไปหมด ส่วนตัวโฟกัสที่เนื้อหาสาระมากกว่า แต่ถ้าท่านเข้ามาแนะนำในเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นพรรคเดียวกันหรือพรรคฝ่ายค้านยินดี และยินดีรับฟังและรับไปแก้ไขปฏิบัติ แต่ถ้าเป็นอะไร อย่างที่สื่อบอกว่าเป็นการแซะหรือเป็นเรื่องไม่มีเหตุและผล ผมก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา”

ไม่ต้องเคลียร์ “ธรรมนัส” รู้ใจกันดี

เมื่อถามต่อว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้มาเคลียร์กับนายกฯในประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ไม่ครับ เพราะ ร.อ.ธรรมนัส รู้จักผมดีอยู่แล้วว่าผมเป็นคนอย่างไร ผมว่าเราไม่มาเสียเวลาคุยเรื่องพวกนี้ มาคุยเรื่องปลาหมอคางดำ คุยเรื่องน้ำท่วม คุยเรื่องกรมชลประทาน ที่จะต้องเข้าไปดูแลดีกว่า ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากกว่า และเชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัสรู้ใจผมดี และผมก็รู้ใจท่านดีว่าเรื่องอะไรสำคัญ เรามายืนตรงนี้เพื่ออะไร เรามายืนเพื่อประชาชน แต่ก็อย่างที่บอกว่าเผื่อมีการแนะนำที่เป็นประโยชน์ พร้อมรับฟังและเมื่อรับฟังแล้วเป็นเรื่องที่ดี ก็จะไปติดต่อพูดคุยกับตัวแทนพรรคต่อไป”

จ่อบินกัมพูชาลุยแก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญหลายเรื่อง เช่น ปัญหาน้ำท่วมจะเดินทางไปดูการ บริหารจัดการน้ำที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำเขตดินแดง รวมถึงปัญหาสแกมเมอร์ทั้งหลายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นเรื่องซับซ้อน เป็นเรื่องเทคโนโลยีที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และยังมีเรื่องของเพื่อนบ้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มาได้แจ้งไปว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการรวบรวมคนจากทุกภาคส่วนเข้ามา ถือเป็นเรื่องดี พยายามตั้งให้เร็วที่สุด เพื่อจะทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการครบทุกภาคส่วน ต้องการขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วนจริงๆ ไม่เช่นนั้นจะแก้ไขลำบาก อย่างที่สื่อมวลชนเสนอข่าวกันไป โดนหลอกกันไปเสียหายตั้งเท่าไหร่ พวกคอลเซ็นเตอร์ทั้งหลาย ถือเป็นเรื่องสำคัญ การดำเนินการกลุ่มสแกมเมอร์คืบหน้าอยู่ 2 อย่าง มีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา เข้าใจว่าปลายสัปดาห์หน้าหรือภายในสัปดาห์นี้ ฝ่ายไทยจะไปกัมพูชาพูดคุยกัน และประมาณเดือน ก.ย. ตนอาจเดินทางไปคุยเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง

ส.ค.เชิญสหรัฐฯ ขึ้นเหนือล้างยาเสพติด

นายเศรษฐากล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ได้พูดคุยถึงปัญหายาเสพติดกับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเด็ก (Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐ อเมริกาประจําประเทศไทย เข้าใจว่าหน่วยงานดูแลด้านยาเสพติดของสหรัฐฯ ได้ประสานงานกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ของเราอยู่แล้ว แต่อาจยังไม่ได้ลงไปในพื้นที่มากนัก ฉะนั้นถ้ามีโอกาสลงพื้นที่ภาคเหนืออีกครั้งหนึ่ง คาดว่าปลายเดือน ส.ค.จะเชิญเขาไปด้วย เพราะไม่ใช่แค่ยาบ้าอย่างเดียวที่เพิ่มขึ้นมา แต่เฮโรอีนเพิ่มขึ้นมา 4 เท่าตัวด้วย มีปลายทางอยู่ที่ออสเตรเลียและสหรัฐฯ เมื่อถามว่ายาเสพติดจะมีมาตรการอะไรเด็ดขาดที่จะทำให้หมดไปได้โดยเร็ว นายกฯกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ทำกันอยู่เรามี 25 จังหวัดหลัก โฟกัสที่จังหวัดน่านและร้อยเอ็ด ต้องให้เป็นจังหวัดสีขาวให้ได้ภายในสิ้นเดือน ก.ย. จุดหลักเลยคือการเอกซเรย์ทุกคน ตรวจปัสสาวะและจับเข้ากระบวนการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ยังไม่ได้รายงานการตรวจปัสสาวะของกลุ่มอาชีวะ แต่ถ้าเจอต้องเข้าสู่ระบบ ในวันประชุมคณะรัฐมนตรี ได้คุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ว่ากระทรวงมหาดไทยต้องช่วยกันเยอะขึ้น เพราะ 25 จังหวัดนี้บางจังหวัดทำได้ดีเกินคาด แต่บางจังหวัดยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ได้กำชับให้นายอนุทินสั่งการจังหวัดต่างๆ รมว.มหาดไทยรับปากจะกำชับเรื่องนี้

ลงใต้นัดหารือนายกฯมาเลเซีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มีกำหนดการลงพื้นที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และด่านรันเตาปันยัง ประเทศมาเลเซีย ร่วมกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ในวันที่ 3 ส.ค. มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ร่วมคณะ โดยจุดแรกนายกฯและคณะจะไปที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก พบกับนายกฯมาเลเซีย เพื่อหารือข้อราชการร่วมกัน พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการยกระดับสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 ที่สะพานสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง จากนั้นนายเศรษฐาและนายอันวาร์จะไปที่ด่านรันเตาปันยัง ประเทศมาเลเซียถ่ายภาพร่วมกันและเดินทางไปที่ Pasir Mas District and Land Office หารือข้อราชการร่วมกัน จากนั้นนายกฯมาเลเซียเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ก่อนนายเศรษฐาและคณะเดินทางกลับ กทม.

พท.มั่นใจรอดไม่คิดนายกฯสำรอง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวนายกฯสำรองรองรับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยนัดวินิจฉัย คดีที่อดีต 40 สว. ยื่นตีความความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในวันที่ 14 ส.ค.ว่า ใครจะคิดจะหวังเรื่องนายกฯสำรองว่าไป แต่ สส.พรรค พท.เชื่อมั่นและมั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายเศรษฐา การแต่งตั้งรัฐมนตรีนายกฯได้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว การแต่งตั้งเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ดำเนินการตามคำแนะนำของทุกภาคส่วน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและข้อกฎหมายครบถ้วนทุกประการ ในพรรค พท.ไม่เคยคิด ไม่เคยคุยกันในเรื่องนายกฯสำรองนี้เลย มั่นใจว่าจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ จึงไม่มีการพูดคุยหรือเตรียมการอะไรไว้ทั้งสิ้น

อวยมีแต่นายกฯตัวจริงจะอยู่ยาว 8 ปี

“เชื่อมั่นว่านายเศรษฐาจะได้ไปต่อและมีโอกาสเป็นนายกฯได้ถึง 2 สมัย 8 ปี หากสามารถผลักดันนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชนได้สำเร็จ และร่าง พ.ร.บ.งบฯรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพิ่งผ่านสภาฯ “แอปทางรัฐ” เริ่มลงทะเบียนวันแรกฉลุย ทุกคนต่างดีใจว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตใกล้เป็นจริงพายุหมุนทางเศรษฐกิจกำลังจะเกิดขึ้น นายกฯสำรองไม่มี มีแต่นายกฯตัวจริงที่ทุ่มเททำงานหนักเพื่อประเทศชาติและประชาชน เชื่อมั่นว่านายกฯเศรษฐาจะได้ไปต่ออย่างแน่นอน” นายอนุสรณ์กล่าว

ยก “เศรษฐา” เหมาะสุดพา ปท.พ้นวิกฤติ

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยนัดวินิจฉัย คดีที่อดีต 40 สว. ยื่นตีความ ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วันที่ 14 ส.ค. สส.พรรคเพื่อไทยมีความกังวลเรื่องนี้หรือไม่ว่า สส.เพื่อไทยไม่มีความกังวลใดๆในเรื่องนี้เลย เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายกฯ และเท่าที่สัมผัสการทำงานของนายกฯ ท่านมีแผนงานที่จะทำให้ประเทศอีกเยอะ สีหน้าแววตาในการทำงานมีแต่ความมุ่งมั่นจึงชัดเจนว่าท่านเองไม่ได้กังวลใจเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และนายเศรษฐาถือเป็นนายกฯที่มุ่งมั่นทำงาน ไม่มีวาระซ้อนเร้นคิดโกงบ้านโกงเมือง เมื่อท่านมีความตั้งใจทำงานเช่นนี้ก็คงไม่ต้องกลัว อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยวันนี้ถ้าจะให้ผ่านวิกฤติได้ ตนมองว่านายเศรษฐาเหมาะสมที่สุดในการทำเรื่องนี้ เพราะท่านเข้ามาทำงาน ไม่ได้เข้ามาเล่นการเมือง ไม่มีวิถีทางการเมืองเลยมุ่งมั่นทำงานอย่างเดียว

ซัดนายกฯสำรองมีแต่คนนอกเกมที่คิด

เมื่อถามถึงการตั้งประเด็นนายกฯสำรอง นายครูมานิตย์กล่าวว่า เป็นเพียงเรื่องที่คนนั้นคนนี้พูดขึ้นมาแล้วนำไปวิเคราะห์ต่างๆนานา คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นบรรดาแคนดิเดตนายกฯในการเลือกตั้ง ไม่เห็นมีใครออกมาแสดงท่าที หรือคิดจะมาแทนที่นายเศรษฐา เพราะรู้ดีว่านายเศรษฐาบริสุทธิ์ ทำทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอน อีกทั้งตัวเลขทางการเมืองชัดเจน พรรค พท.มี สส.มากกว่าพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสองมาก ตัวเลขมันไกล จึงเป็นไปไม่ได้เขาจึงไม่คิด และทุกพรรคที่มาเข้าร่วมรัฐบาลมีที่ยืนของตัวเอง มีงานที่ต้องรับผิดชอบทำงานร่วมกันได้ดี ยิ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. เป็นแคนดิเดตนายกฯด้วย ยิ่งไม่ได้คิดอะไรประเด็นนี้ เพราะท่านคิดแต่ทำพรรคให้แข็งแรง พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้คนในประเทศ คนในเกมไม่มีใครคิดเรื่องนี้ ในที่ประชุมสภาฯ สส.ไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ เสียงที่ออกมาคงมาจากคนรอบข้าง บรรดากองเชียร์นำเสนอ เชียร์คนของตัวเองเท่านั้น

ศาลไม่ให้ “ทักษิณ” บินนอกตามเงื่อนไข

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางออกนอกประเทศว่า มองว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่ศาลอนุญาตให้ประกันตัวในคดี 112 มีข้อแม้ว่าไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ คงไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องที่ศาลท่านได้บอกไว้แล้ว เป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไร ไม่มีใครตื่นเต้น ในสภาฯในพรรคไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องนี้ มีแต่คนที่กำลังดีใจกดไลค์ให้เรา ที่เงินดิจิทัลกำลังจะออกไปสู่ประชาชน สส.แฮปปี้มาก มีแต่คนให้ความสนใจจำนวนมาก ตรงนี้เป็นบวกกับพรรคมาก เลยไม่ค่อยได้สนใจเรื่องของอดีตนายกฯทักษิณ และคงไม่ใช่เรื่องศาลไม่เชื่อถือ แต่เป็นเพราะเมื่อครั้งศาลให้ประกันตัว ได้เขียนเงื่อนไขไว้แล้ว ไม่มีอะไร พวกเราไม่ได้ตื่นเต้นอะไร คนในพรรคเพื่อไทยยังมีกำลังใจเต็มเปี่ยม ฮึกเหิมด้วยพลังใจที่แน่วแน่ไม่มีปัญหา ไม่กลัวพรรคไหน ไม่มีพรรคไหนจะมาเปลี่ยนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หรือเปลี่ยนรัฐบาลได้ เงินกำลังจะออกไป ประชาชนกำลังจะมีความสุข มั่นใจว่านายเศรษฐารอดแน่นอน

“วรชัย” ขออย่าอคติตั้งแง่นายใหญ่

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาของรองนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณียื่นศาลขอไปพบแพทย์ และนัดหมายบุคคลสำคัญเพื่อคุยอีกหลายเรื่อง ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ว่า วันนี้ประเทศไทยในสายตานักลงทุนต่างชาติ เขามองว่ามีปัญหาไม่จบสิ้นเสียที โดยเฉพาะในเดือน ส.ค.มีคดีทางการเมืองสำคัญ ทั้งการตีความความเป็นนายกฯของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ คดียุบพรรคก้าวไกล รวมไปถึงคดีตามความผิดอาญามาตรา 112 ของนายทักษิณที่กำลังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ทำให้ความเชื่อมั่นประเทศลดลงเรื่อยๆ วันและเวลามีค่ามาก นายทักษิณจะปล่อยลมหายใจทิ้งไปวันๆได้อย่างไร ประเทศประสบปัญหาความเชื่อมั่นเช่นนี้ ทำให้เศรษฐกิจวิกฤติลงทุกวัน

คดี 112 อีกนานใส่ร้ายจะคิดหนีทำไม

นายวรชัยกล่าวว่า การเดินทางไปต่างประเทศ เรื่องการรักษาตัว ไม่ว่าอาการป่วยปอดอักเสบเรื้อรัง ระบบหายใจและหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ต้องการการรักษาที่ต่อเนื่องด้วยแพทย์เฉพาะทางที่ผู้ป่วยไว้วางใจ การรักษาด้วยแพทย์ที่ผู้ป่วยเชื่อมั่นเป็นสิทธิตามสิทธิ์ของสหประชาชาติ ส่วนจะไปพบบุคคลสำคัญ คนเหล่านั้นเป็นเพื่อนนักธุรกิจของนายทักษิณ ถือเป็นประโยชน์กับประเทศ จะช่วยรัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ วันนี้สถานการณ์ของประเทศต้องแก้วิกฤติเร่งด่วน ใครมีศักยภาพอะไรต้องใช้ให้เต็มที่ ควรเปิดโอกาสให้นายทักษิณได้ใช้ศักยภาพและประสบการณ์ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศ ที่สำคัญที่สุดความจงรักภักดีของนายทักษิณที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ มีการพูดชัดเจนว่านายทักษิณมีความจงรักภักดีให้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ คนที่บอกว่าทักษิณคิดหนี พูดไม่คิดใส่ร้ายป้ายสีไร้เหตุผล คดีมาตรา 112 อีกนานกว่าจะตัดสินแล้วจะหนีทำไม อยากให้มองที่ประโยชน์ของประเทศที่จะได้รับจากนายทักษิณดีกว่ามาจ้องใส่ร้ายทำลายกัน

“ไหม” นำทัพถิ่นกาขาวบ้านชั่วคราวก.ก.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถึงการเตรียมพร้อมรับมือคดียุบพรรค ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ขาด ในวันที่ 7 ส.ค. ว่า ขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า หากผลคดีออกมาในทางลบเกิดการยุบพรรคขึ้นมาจริงๆ พรรคก้าวไกลได้เตรียมการเอาไว้แล้ว โดยจะย้ายองคาพยพไปอยู่พรรคการเมือง แกนนำได้ไปเตรียมการพูดคุยเจรจาเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว นั่นคือพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล จากนั้นค่อยหารือกันอีกครั้งว่าจะใช้ชื่อเดิมหรือเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีการเคาะชื่อพรรคใหม่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้รับฉันทามติจากทั้งในพรรคและผู้มีอำนาจบารมีนอกพรรคว่า จะเป็น น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ก.ก. ส่วนแนวโน้มกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะเป็น 44 สส.เก่าเป็นหลัก

แกนนำรู้ทันหนอนคาบข่าวบอกคู่แข่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ รอบที่แล้ว มี “งูเห่าสีส้ม” ย้ายซบพรรคขั้วตรงข้ามจำนวนมาก แต่รอบนี้แกนนำพรรค ก.ก.คนหนึ่ง เปิดเผยว่า ในรอบนี้ที่น่าจับตามากกว่างูเห่าคือ “หนอน” โดยลักษณะของ “หนอน” แตกต่างจากสส.งูเห่า ตรงที่ว่าหนอนจะคอยคาบข่าวไปบอกพรรคคู่แข่ง โดยไม่ย้ายพรรคไปไหน เนื่องจากรู้ดีว่าย้ายไปจะสอบตก จึงฝังตัวอยู่ในพรรคต่อไป แต่จะคอยทำหน้าที่คาบข่าวความเคลื่อนไหวของพรรคไปบอกพรรคคู่แข่ง

เผยชื่อ กก.บห.เสี่ยงถูกตัดสิทธิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อกรรมการบริหารพรรค ก.ก. ขณะที่ถูกดำเนินคดีและจะถูกตัดสิทธิ ทางการเมือง หากผลทางคดียุบพรรคออกมาเป็นลบ ประกอบด้วย 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 2.นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค 3.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค 4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตรตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค 5.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคเหนือ 6.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคใต้ 7.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคกลาง 8.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคตะวันออก 9.นายอภิชาติ ศิริสุนทร กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10.นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหารพรรคสัดส่วนปีกแรงงาน

“นครินทร์” เซ็นประกาศพื้นที่ควบคุม

วันเดียวกัน นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ลงนามประกาศศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องอาณาบริเวณพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรค การเมืองขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค 10 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ในวันที่ 7 ส.ค. เวลา 00.01 น. ถึงเวลา 23.59 น. และกรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 14 ส.ค. เวลา 00.01 น. ถึงเวลา 23.59 น. โดยกำหนดบุคคลให้เฉพาะผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบฉันทะ ผู้ที่ศาล รัฐธรรมนูญอนุญาต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น อยู่ในห้องพิจารณาคดี เพื่อรับฟังการอ่านคำวินิจฉัย และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจัดให้มีช่องทางการรับฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและสื่อมวลชน

“โหรวันชัย” ชี้ “อนุทิน” ไม่ได้เป็นนายกฯ

นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. กล่าวถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 14 ส.ค.ว่า ตามกระดานการเมืองไทย มีแค่พรรค พท.กับพรรค ก.ก.เท่านั้นที่จะได้เป็นนายกฯ แต่การวิเคราะห์ว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีโอกาสได้เป็นนายกฯแทน พรรค ภท.มี 70 เสียง ไม่สามารถทำให้นายอนุทินเป็นนายกฯได้ รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีสิทธิได้รับตำแหน่ง เพราะพรรค พปชร.มี สส.เพียง 40 คน นำพรรค ภท. พรรค พปชร. พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมกันจะมี สส. 140 คนเท่านั้น มองว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่มีทางยอมให้นายอนุทินเป็นนายกฯ เพราะนายกฯมีอำนาจยุบสภา ปรับ ครม. ปรับพรรคร่วมรัฐบาล แต่หากนายอนุทินเข้าสังกัดพรรค พท.อาจเป็น ไปได้ที่จะได้เป็นนายกฯ เมื่อถามว่าหากนายอนุทิน ไม่ใช่นายกฯคนต่อไป แล้วใครจะมาแทนกรณีนายเศรษฐาถูกถอดถอน นายวันชัยตอบว่า ต้องเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะมีปัจจัยต้องพิจารณาคือ รอทำผลงานให้พร้อม รวมถึงปรับ ครม.และปรับพรรคร่วมรัฐบาลก่อน

“ปานปรีย์” ไขก๊อกรวย 267 ล้านบาท

วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตรัฐมนตรี รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน กรณีพ้นจากตำแหน่ง วันที่ 27 เม.ย.2567 ได้แก่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ มีทรัพย์สิน 267,167,538 ล้านบาท เป็นของนายปานปรีย์ 37,972,522 บาท ทรัพย์สินนางปวีณา พหิทธานุกร คู่สมรส 229,195,015 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากธนาคาร เงินลงทุนของนางปวีณา 8.8 ล้านบาท ที่ดินของนางปวีณา 150,234,000 บาท 7 แปลง บ้าน 4 หลังมูลค่า 28 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ ของนายปานปรีย์และนางปวีณารวมมูลค่า 43.3 ล้านบาท อาทิ พระพุทธรูปนาคปรก สมัยนครวัด 5 ล้านบาท พระพุทธรูปแก้วมรกตเศียรทองคำ 2 ล้านบาท พระพุทธรูปต่างๆอีกร่วม 20 องค์ มูลค่า 25,000 -500,000 บาท ส่วนนายกฤษณา จีนะวิจารณะ อดีต รมช.คลัง มีทรัพย์สิน 81,135,639 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน 60.7 ล้านบาท เงินฝากธนาคาร 13.5 ล้านบาท ที่ดิน 2 ล้านบาท

กมธ.นิรโทษฯชงสภาสิ้นเดือน ส.ค.

เมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ แถลงสรุปผลการดำเนินงานของ กมธ.ว่า ที่ประชุม กมธ.ได้ข้อสรุปจากการประชุมนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ก.ค. และได้ส่งรายงานสรุปจำนวน 3 ฉบับ ที่ประกอบด้วย 1.รายงานผลการศึกษา 9 ประเด็น และ 6 ข้อสังเกตของ กมธ.ชุดใหญ่ 2.ภาคผนวกและ 3.รายงานของคณะอนุ กมธ. ศึกษาและจำแนกการกระทำฯ ที่มีนายยุทธพร อิสรชัย เป็นประธานอนุฯ กมธ. ไปให้สภาฯตรวจสอบความเรียบร้อยแล้ว จากนี้จะส่งไปพิมพ์รูปเล่ม ใช้เวลาราว 2 สัปดาห์และยื่นต่อประธานสภาฯ เพื่อบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระให้เร็วที่สุดต่อไป คาดว่าช่วงสิ้นเดือน ส.ค.จะเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯได้

ลูกพ่อขุนขยับต้านยุบพรรคส้ม

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ลานพ่อขุน ม.รามคำแหง (มร.) หัวหมาก น.ส.กัญญารัตน์ บุญรีบส่ง ประธานสภานักศึกษา มร. เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตยและพรรคศรัทธาธรรม มร.ร่วมกันอ่านแถลงการณ์เรื่อง “ยุบพรรคการเมืองคือการสลายเจตจำนงประชาชน” ตอนหนึ่งว่า ประเทศประชาธิปไตยต้องส่งเสริมสนับสนุนให้พรรคการเมืองเข้มแข็งแต่กลับออกแบบประเทศผ่านรัฐธรรมนูญให้อำนาจคณะบุคคคล องค์กรอิสระ เข้ามาบั่นทอนเจตจำนงประชาชนผ่านการยุบพรรค เช่น ยุบพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลในไม่กี่วันข้างหน้า โดยใช้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นกลไก ทั้งๆที่ไม่มีความยึดโยงใดๆกับประชาชน การที่พรรคการเมืองจะดำรงอยู่ได้หรือไม่ประชาชนจะเป็นผู้ลงฉันทามติผ่านการเลือกตั้งเอง จากนั้นมีนักศึกษาสวมชุดมาสคอตไดโนเสาร์ถือค้อนใช้เท้าเหยียบบนตัวนักศึกษา 4 คน ที่นอนถือกระดาษข้อความว่า 14 ล้านเสียงของประชาชนและโปรยกระดาษคล้ายบัตรเลือกตั้งกระจายลงบนพื้น

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่