“ธรรมนัส” เยือนถิ่นพะเยา พร้อมลุยแผนยุทธศาสตร์แก้ทุกปัญหาให้เกษตรกร

“ธรรมนัส” เยือนถิ่น กว๊านพะเยาคึกคัก สักการะพ่อขุนงำเมือง ลั่น หลังแถลงนโยบายรัฐบาล ลุยแผนยุทธศาสตร์แก้ทุกปัญหาเกษตรกรทั้งประเทศ รวมถึงหนี้เกษตรกร

วันที่ 9 กันยายน 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาประชุมแนวทางการพัฒนาและบริหารจัดการกว๊านพะเยา ที่ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา เทศบาลเมืองพะเยา หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และประชาชน เข้าร่วมการประชุมมอบนโยบาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมา จ.พะเยา ของ ร.อ.ธรรมนัส เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเจ้าหน้าที่กรมการปกครองและประชาชนมารอต้อนรับ พร้อมมอบดอกกุหลาบและร่วมถ่ายภาพ ขณะเดียวกัน นางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยาของ ร.อ.ธรรมนัส, นายอัครา พรหมเผ่า นายก อบจ.พะเยา น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และนายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาร่วมงานด้วย ในงานยังมีการนำมังคุด 5 ตัน ที่รับซื้อจากเกษตรกรชาวนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยเหลือปัญหาราคามังคุดตกตํ่ามาแจกให้กับประชาชนด้วย

...

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส สักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา จะกล่าวต้อนรับตามลำดับ ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกหลังเป็น รมว.เกษตรฯ สิ่งที่ตนพูดมาโดยตลอด หากจะเลือก สส. เข้ามาเป็นผู้แทนอย่างเดียว ก็ขอว่าอย่างไม่ต้องเลือกตน แต่ต้องเลือกตนเข้าเป็นผู้บริหารของบ้านของเมือง 

“จะเห็นว่าเส้นทางการเป็นเจ้ากระทรวงของผมครั้งนี้ นับเป็นกระทรวงเกรดเอลำดับ 2 รองจากกระทรวงมหาดไทย ผมเป็นลูกชาวนา ลูกหลานคนพะเยา ท่านภาคภูมิใจหรือไม่ ถามว่าผมดีใจหรือไม่ ผมดีใจแทนคนพะเยา ไม่ใช่ดีใจเพราะผมได้เป็น”

ร.อ.ธรรมนัส ระบุต่อไปว่า วันนี้ตนนำครอบครัวเกษตร ซึ่งเป็นคณะผู้บริหารและข้าราชการในสังกัด เปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกันมาพบปะพี่น้องพะเยา ซึ่งตนไม่ได้มาสั่งหน่วยราชการเพราะยังสั่งการไม่ได้ เนื่องจากรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะทำอะไรบ้าง จะหาเงินจากไหนมาบริหารราชการแผ่นดินในช่วงในวาระ 4 ปี ซึ่งเมื่อแถลงนโยบายเสร็จ ตนจะแถลงและมอบนโยบายกระทรวงเกษตรฯ และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เพราะเกษตรกรมีปัญหาสะสมมานาน การบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าผู้บริหารไม่สามารถดำเนินสั่งการก็จะเรื้อรัง นายกรัฐมนตรีต้องการทำสงครามกับความยากจนของพี่น้องประชาชน จะแก้หนี้ภาคการเกษตร

รมว.เกษตรฯ ยังกล่าวกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ใครไม่มาพะเยาไม่เป็นไร ไม่รักคนพะเยาไม่เป็นไร ฝากไว้ด้วยว่าเมืองพะเยาต้องการพัฒนา ในช่วงที่ผ่านมาแม้เราจะเป็นรัฐมนตรีช่วย หรือเพียงแค่ สส.ที่พูดในสภาฯ พูดแล้วพูดอีกว่าน้ำในกว๊านพะเยาแห้ง ได้รับรายงานจากอธิบดี ตนก็รีบสั่งการทันทีให้เอาเรือมาขุดก็ดี โครงการอะไรต่างๆ ก็ดี โดยที่เราไม่มีอำนาจอะไรเลย แต่ท่านก็กรุณา หลังจากวันที่ 12 กันยายนไปแล้ว ตนขอฝากอธิบดีทุกกรม กรุณารักคนพะเยาให้เยอะๆ ช่วยแก้ปัญหาคนพะเยา ไม่ได้หมายความว่าไม่ดูแลจังหวัดอื่น เพราะจังหวัดอื่นก็ให้ความสนใจเช่นเดียวกัน 

“ต่อไปนี้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของกว๊านพะเยาอย่างเป็นรูปธรรม ผู้ใหญ่บ้านที่ขี้ฟ้องจะสมปรารถนาหรือไม่ ไม่ต้องบ่นแล้ว ขอความกรุณานักร้องทั้งหลายใน จ.พะเยา ไม่ต้องฟ้องร้องกัน ให้ออกมาพูดคุยกันก่อน ถ้าพูดกันไม่ได้ให้บอกตน ทำให้เมืองพะเยาเป็นเมืองน่าอยู่ได้หรือไม่ เราได้สลายขั้วทางการเมืองแล้ว ต่อไปนี้คนพะเยาไม่ใช่คนของใคร เราอยู่กับพวกเราอย่างนี้นะ มันจะได้สบายใจ วันนี้ผมยังพูดลึกไปถึงนโยบายภาครัฐที่ตนได้เตรียมไว้ไม่ได้ เพราะหมิ่นเหม่ข้อกฎหมาย ไม่สามารถสั่งการได้ มาวันนี้ผมยังไม่ใช่ผู้บริหารที่สมบูรณ์แบบ รอสภาก่อน ทั้งสภาสูงและสภาล่าง ว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรบ้างในกรอบเวลา 4 ปี”

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส เชิญ สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นบนเวที พร้อมกล่าวขอบคุณประชาชนในพื้นที่ที่ให้การสนับสนุน สส.พะเยา ทั้ง 3 เขต ซึ่งได้แก่ ร.อ.ธรรมนัส นายอนุรัตน์ และนายจีรเดช ต่อมา ตัวแทนหน่วยงานท้องถิ่น สมาคมกํานันผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนชุมชนต่างๆ กลุ่มชาติพันธุ์ ภาคเอกชน มอบช่อดอกไม้ กระเช้าของขวัญ และของที่ระลึก เพื่อแสดงความยินดีกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งโอกาสนี้ นายอัครา นายก อบจ.พะเยา น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้ร่วมมอบช่อดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีด้วย

ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส จะให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งแรกที่จะทำให้กับ จ.พะเยา คือการสะสางเรื่องที่ยังค้างไว้สมัยดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ และช่วงที่เป็น สส.พะเยา คือ เรื่องการแก้ปัญหาแหล่งน้ำ ที่ดินทำกิน ตลอดจนราคาพืชผลการเกษตร ที่ทุกภาคส่วนจะต้องมาสานต่อ ทั้งนี้ได้ทำรูปแบบของพะเยาโมเดลไว้แล้ว คงไม่เป็นเรื่องยาก สามารถสานต่อได้ทันที

ส่วนการเป็นเจ้ากระทรวงเกษตรฯ ถ้าถามว่าเป็นตำแหน่งที่ต้องทำอะไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เป็นตำแหน่งที่มีภาระเหนือกระทรวงอื่นๆ เพราะเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับชีวิตส่วนใหญ่ของคนไทยทั้งแผ่นดิน ไม่ใช่เฉพาะเมืองพะเยา และสิ่งที่ยืนยันมาโดยตลอด เจตนารมณ์ในการมาสู่เวทีการเมืองเพราะต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนพะเยาที่ด้อยโอกาสมานาน จ.พะเยา มีเพียง 9 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ได้หารือกับทุกภาคส่วนว่าอาจจะต้องขยายจังหวัดพะเยาให้มีจำนวนอำเภอมากกว่านี้ ในบางอำเภอที่อยู่ในจังหวัดที่ไกลจากส่วนราชการ อาจจะต้องตีกรอบขยายเนื้อที่เขตการปกครองให้ใหญ่ขึ้น อาจจะต้องมีการจัดผังเมืองใหม่ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผังเมืองรอบกว๊านพะเยาในฝั่งที่ติดดอยหลวง ให้ผังเมืองเปลี่ยนสี เพื่อรองรับกับการพัฒนาความเป็นอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องหาเวลามา จ.พะเยา ทุกเดือน และหาเวลานั่งเสวนากับภาคประชาชน ทั้งเรื่องการค้าอุตสาหกรรม รวมถึงเสวนากับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนพะเยาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาชีวิตของคนพะเยาทุกภาคส่วนต่อไป

สำหรับภาพรวมปัญหาของพี่น้องชาวเกษตรกรทั้งประเทศมีหลายเรื่อง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยในช่วงที่ผ่านมามีโอกาสเดินทางไปตรวจราชการกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งท่านได้ให้นโยบายมาหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ภาคการเกษตร หนี้ครัวเรือน ปัญหาพี่น้องชาวประมง ปัญหาพี่น้องเกษตรกรในทุกภาคส่วน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงหลักในการหากรอบแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว ทางกระทรวงเกษตรฯ ก็จะทำเป็นรูปแบบตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป.