“ภูมิธรรม” คุย “อนุทิน” แล้วเรื่องกัญชา-เตรียมร้านค้าพร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว

“รองนายกฯภูมิธรรม” บอก ประสานร้านค้าเตรียมลงทะเบียนรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตไว้พร้อมแล้ว แจง ไม่ได้ยกเลิกโครงการไร่ละพัน ชี้คนที่ค้านปุ๋ยคนละครึ่งเพราะไม่เข้าใจถ่องแท้  เผย คุย “อนุทิน” แล้ว เข้าใจปมกัญชา เชื่อไม่เป็นปัญหา ขอความกรุณาอย่าคิดไปไกล 


วันที่ 19 ก.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาเพิ่มสินค้าที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กระทรวงพาณิชย์พิจารณาถึงไหนแล้วว่า ตามที่ได้คุยในคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตเมื่อสัปดาห์ก่อน กระทรวงพาณิชย์พร้อมดึงร้านค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หลังประกาศนโยบายวันที่ 24 ก.ค. ก็จะดำเนินการทันที การลงทะเบียนร้านค้าเราพร้อมอยู่แล้ว ทั้งร้านค้าของกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือของสมาคมผู้ค้าปลีกต่างๆ รวมถึงร้านค้าในหน่วยงานท้องถิ่นของกระทรวงมหาดไทย ได้ประสานกระบวนการไว้หมดแล้ว เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีการพูดถึงเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์จะนับเป็นสินค้าต้องห้ามหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าอย่าไปเอาเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์มาเกี่ยวกับการค้าขาย เป็นเรื่องไกลเกิน เราชัดเจนว่าจะทำเรื่องสินค้าและการค้าขายให้ประชาชนกินดีอยู่มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนอย่างอื่นจะมีอะไรเพิ่มมาอีกค่อยพิจารณาทีหลังขออย่าหยิบมาเป็นประเด็น 

นายภูมิธรรม ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.ชาติไทยพัฒนา ออกมาระบุเกษตรกรเรียกร้องขอนำค่าชดเชยไร่ละ 1 พันบาท กลับมา และเอาปุ๋ยคนละครึ่งคืนไป ว่า เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น เรื่องของการชดเชยไร่ละ 1 พันบาทยังมีอยู่ ไม่มีอะไรมาแทนอะไรได้ เพราะไร่ละ 1 พันบาท 20 ไร่  2 หมื่นบาทนั้น เป็นมาตรการที่รัฐบาลเอาไว้ใช้แทรกแซงหรือช่วยเหลือเกษตรกรตอนที่ราคาข้าวตก ตราบใดที่เกษตรกรขาดทุนโครงการนี้ยังสามารถกลับมาใช้ได้ และถ้าเกษตรกรเสียหายมากกว่านี้การช่วยเหลืออาจจะเพิ่มมากขึ้นก็ได้ ยืนยันว่าโครงการนี้ยังไม่ได้ยกเลิก ส่วนเรื่องปุ๋ยคนละครึ่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ยื่นเรื่องมาที่ตนในฐานะที่กำกับดูแล ซึ่งคิดกันมานานแล้วว่าทำอย่างไรถึงจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะข้าวเราพยายามทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง การให้ปุ๋ยคนละครึ่งถือเป็นการลดต้นทุนการผลิต สำหรับเกษตรกรที่ไม่มีเงิน ได้ขอให้ ธ.ก.ส. พิจารณาออกเงินกู้ให้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่จะมาช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร และหากกระทำแบบนี้แล้วราคาพืชผลยังไม่ดีอีก เราก็ต้องนำโครงการไร่ละ 1 พันบาทมาพิจารณา ฉะนั้น มันไม่ใช่ว่าเอาอะไรมาแทนอะไร อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเสียงทักท้วงยังมีอยู่ แต่เสียงที่สนับสนุนยังมีพอสมควร 

...

“จริง ๆ มีเสียงทักท้วงอยู่ว่ามันไม่ทันแล้ว ความจริงเรื่องการใช้ปุ๋ยสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี เพราะมีทั้งข้าวนาปี นาปรัง เราพยายามเริ่ม พยายามที่จะให้ทันก่อนฤดูการผลิต แต่บังเอิญว่ายังติดขัด ความไม่เข้าใจในเรื่องนี้ มี สส.หลายคน หลายพรรค ที่ไม่เข้าใจและไม่ยอม ไม่สะดวกใจที่จะให้ทำ ส่วนใหญ่เป็นเพราะฟังจากเกษตรกรมา แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการช่วยกันชี้แจงให้เกษตรกรเข้าใจ เพราะไม่เข้าใจเรื่องนี้อย่างถ่องแท้ ฉะนั้น เชื่อว่าเรื่องนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ไม่น่ามีปัญหา เพราะโครงการนี้ทำตั้งแต่ตอนนี้ถึง พ.ค.68 ที่บอกว่าไม่ทันแล้วนั้นคงไม่น่าจะใช่ ยังใช้ได้อยู่ มีหลายคนเสนอให้ไปใช้กับพืชผักผลไม้ด้วยซ้ำไป แต่เราคิดว่าทำโปรเจกต์นี้ก่อน อยากฝากชาวนาและเกษตรกรต่าง ๆ ให้ทราบว่าไม่ต้องกังวลใจเรื่องเงินชดเชยไร่ละ 1 พันบาท เพราะเรื่องนี้อยู่ที่ปัญหาและวิกฤติที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลพร้อมช่วยเหลืออยู่แล้ว ซึ่งปุ๋ยคนละครึ่งเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลจะนำมาช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เท่านั้นเอง”นายภูมิธรรม กล่าว


นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าจะโหวตค้านเรื่องการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (บอร์ด ป.ป.ส.) ว่า เรื่องกัญชาอยู่ที่ ป.ป.ส. คงต้องปล่อยให้ ป.ป.ส.ทำหน้าที่ ส่วนนายอนุทินนั้น ตนได้ยกหูคุยกันบ่อย คุยกันตลอดในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลคิดว่าไม่มีปัญหา นายอนุทินสามารถแสดงความเห็นได้ แต่เรื่องเหล่านี้เราพยายามใช้เหตุใช้ผลให้มากที่สุด เอาตามความเป็นจริง เอาความรู้สึกของชาวบ้านว่ามีเหตุผลหรือไม่อย่างไร รวมถึงส่วนอื่น ๆ เราต่างก็ยอมรับว่าเราพยายามใช้เหตุผลมากกว่าเป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง และเรื่องนี้คุยกันมาต่อเนื่องตลอด ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาอะไร ถ้าถามตนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สื่อก็ไปถามกลับ มันก็จะกลายเป็นประเด็น ยืนยันว่าตนได้คุยกับนายอนุทินแล้ว เรื่องนี้เราเข้าใจและเห็นใจในหลายส่วน และเราทราบว่ามันมีปัญหาหลายอย่าง จะเป็นหน้าที่ร่วมกันที่จะช่วยกันหาทางออกให้ 

เมื่อถามว่า ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมองว่าพรรคร่วมควรมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ต้องพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิด ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่ต้องไปบอกว่าเราจะเอาอย่างนี้ เราอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน ร่วมมือกัน รับผิดชอบร่วมกันในการแก้ปัญหา ฉะนั้น ทุกอย่างที่มีปัญหาหรือมีประเด็นเกิดขึ้นเราจะต้องพูดคุยกันอยู่แล้ว เพราะพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องอะไรของส่วนไหนมันไม่ได้เป็นประเด็นส่วนใดส่วนหนึ่งแล้ว มันเป็นเรื่องของรัฐบาลร่วมกัน และพิจารณาร่วมกัน ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ตนก็คุยกับนายอนุทิน ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามย้ำว่า ทั้งเรื่องกัญชาและเรื่องปุ๋ยคนละครึ่ง จะไม่สร้างความแตกแยกในรัฐบาลใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “ก็บอกว่ามันไม่มีปัญหา แล้วมันจะไปกระทบความสัมพันธ์ได้อย่างไร ไม่มีกระทบหรอกครับ ทุกอย่างร่วมกันแล้ว และกำลังใช้เหตุผลในกระบวนการ ท่านจะมาบอกว่ามันกระทบกระเทือนได้อย่างไร ไม่ต้องไปคิดเรื่องที่ไกลเกิน เพราะถ้าคิดไกลเกิน บางทีมันก็ไม่เข้าใจ กลายเป็นว่าคนนั้นพูด คนนี้พูด มันก็จะกลายเป็นปัญหา ขอความกรุณาครับ”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...