“คารม” เตือน นิรโทษกรรมรวมคดี ม.122-ม.110 อาจขัดรัฐธรรมนูญ

“คารม พลพรกลาง” เตือน ถ้านำความผิดตาม ปอ.ม.110 หรือ ม.112 เข้ามารวมใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อาจทำให้การนิรโทษกรรมไม่ประสบความสำเร็จ  และกฎหมายดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญ เหตุไม่เหมือนกับความผิดอาญาทั่วไป

วันที่ 19 ก.ค. 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังมีการจัดทำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่กระทำผิด ระหว่างปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยในการนิรโทษฯ นั้น ไม่นำเอาความผิดเกี่ยวกับชีวิต และความผิดที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงรวมเข้าใน พ.ร.บ.การนิรโทษกรรม ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และมาตรา 112 กรรมการที่ศึกษาเพื่อจัดทำกฎหมายนิรโทษกรรมเห็นว่ามีความอ่อนไหวทางการเมือง มีความเห็นเป็น 3 แนวทาง คือ 1. ไม่ควรนิรโทษกรรม 2. ให้มีการนิรโทษกรรม โดยไม่มีเงื่อนไข 3. ให้มีการนิรโทษกรรม แบบมีมาตรการเงื่อนไข

“ผมขอแสดงความคิดเห็นในฐานะเป็นนักกฎหมาย และเป็นคนที่เคยร่วมชุมนุมกับประชาชนในช่วงปี 2549 ถึงปี 2554 ได้สัมผัสถึงความรู้สึก ความคิดเห็นที่แตกต่างในทางการเมืองของประชาชน ได้เห็นความต้องการของประชาชน ที่มาเรียกร้องว่าเขาต้องการความเป็นอยู่ที่ดี มาด้วยจิตใจบริสุทธิ์ก็มาก มาแบบมีการจัดการก็มี ดังนั้น เมื่อมีการดำเนินคดีกับประชาชนเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเขามาชุมนุมตามสิทธิที่เขาเข้าใจ และต้องการเรียกร้องในฐานะประชาชน ดังนั้น การดำเนินคดีกับประชาชนเหล่านี้จึงไม่ถูกต้อง เขาจึงควรได้รับการนิรโทษกรรม” นายคารม ระบุ

            

นายคารม กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของบุคคลที่กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 หรือมาตรา 112 นั้น ต้องเข้าใจว่าความผิดตามมาตรา 107 ถึงมาตรา 112 นั้น กฎหมายบัญญัติไว้ในหมวด 1 ลักษณะ 1 ภาค 2 ประมวลกฎหมายอาญา เป็นความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อพิจารณาความผิดฐานนี้ ประกอบกับเนื้อความในรัฐธรรมนูญหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ในหลายมาตรา เช่น มาตรา 2 มาตรา 5 และมาตรา 6 จะเห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และ 112 มีลักษณะแตกต่างจากประมวลกฎหมายอาญามาตราอื่น เพราะบัญญัติไว้เชื่อมโยงกับรัฐธรรมนูญอย่างมีนัยสำคัญ เพราะฉะนั้นถ้ามีคนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา มาตรา 110 หรือ 112 แล้ว ต่อมาได้มีการออกกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าว ไม่ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด เพราะการนิรโทษกรรมเท่ากับบุคคลนั้นไม่ได้กระทำผิดเลย ทำให้มีนัยว่า อาจเป็นการส่งเสริมให้กระทำผิด และเมื่อกระทำผิดแล้วก็มาออกกฎหมายภายหลังว่าการกระทำดังกล่าว ไม่ถือเป็นความผิด โดยอ้างว่าที่กระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์ไปนั้น เพราะมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง จึงถือว่าเป็นการส่งเสริมให้มีการละเมิดพระมหากษัตริย์ ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่า พระองค์อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหา หรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ 

...

 

นายคารม กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณามาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญ ที่เขียนไว้ว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยิ่งเป็นการบอกชัดว่าการละเมิดพระมหากษัตริย์นั้น คือการเจตนากัดเซาะ บ่อนทำลายระบบการปกครองของประเทศไปด้วย ดังนั้น การละเมิดพระมหากษัตริย์จึงไม่อาจทำได้ทั้งทางแพ่งและทางอาญา หรือทางใด และไม่ต้องคำนึงถึงมูลเหตุจูงใจในทางการเมือง หรือทางใดๆ ไม่อย่างนั้นทุกคนก็เอามูลเหตุจูงใจในทางการเมืองมาอ้าง เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ การนำเอา ปอ. มาตรา 110 หรือ 112 เข้ามาอยู่ในกฎหมายนิรโทษฯ จึงทำไม่ได้ เพราะความผิดมาตรา 110 และ 112 ไม่เหมือนกับความผิดอาญาทั่วไป จะทำให้กฎหมายนิรโทษกรรมโมฆะ เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 5 ค่อนข้างแน่นอน ซึ่งจะทำให้ส่วนดีของกฎหมาย และเจตนาดีที่จะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่มาชุมนุมตกไปไม่ได้รับประโยชน์ แทนที่จะได้ลดความขัดแย้งลง แต่จะเพิ่มความขัดแย้งเพราะนำมาตรา 110 และ 112 เข้าไปรวมด้วย

“สำหรับบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดตามมาตรา 110 หรือ 112 สิ่งน่าจะเหมาะสมและควรทำคือ การให้เขาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้มีเจตนากระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์ โดยให้เขาได้รับสิทธิการประกันตัว และหากสุดท้ายผลของคดีเป็นอย่างไร บุคคลดังกล่าวยังมีสิทธิในการขอพระราชทานอภัยโทษต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระองค์โดยแท้” นายคารม กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

เปิดสินค้าผิดกฎหมาย โดนปราบปรามหนักใน ‘เทเลแกรม’

เทเลแกรม แชทแอปพลิเคชันที่มีระบบปกป้องตนเองที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลก ขนาดหน่วยสืบราชการลับรัสเซียย...

ลิขสิทธิ์แห่งความสนุก การผสานความคิดสร้างสรรค์ในตลาดบันเทิง

"อุตสาหกรรมบันเทิง" เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทำความเข้าใจแนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำค...

สหรัฐเริ่มเปิดลงคะแนนล่วงหน้าด้วยตนเองแล้ว

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน รัฐส่วนใหญ่เปิดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าด้วยตนเอง เริ่มต้นจากเวอร์จิเนีย มิ...

ใส่เต็มเหนี่ยว "ธัชกร" กดเวลาต่อรอบ 1 นาที 42.967 วินาที "โมโตทรี 2024" ที่อิตาลี

"ธัชกร บัวศรี" นักบิดดาวรุ่งชาวไทย คว้าอันดับ 25 ในการซ้อมรวมที่ มิซาโน ด้วยเวลา 1 นาที 42.967 วินาท...