“วราวุธ” รมว.พม. เร่งชง ครม.นัดแรก หลังรัฐบาลแถลงนโยบาย ขออนุมัติงบกลาง “เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด” หลังถูกเลื่อนจ่าย อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน แจง ติดขัดเพราะช่วงเปลี่ยนผ่าน ครม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน และเฟซบุ๊ก โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ได้แจ้งข้อความประชาสัมพันธ์ ระบุว่า กรมกิจการเด็กและเยาวชน ขอแจ้งเลื่อนการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ในวันที่ 8 กันยายน 2566 ออกไปก่อน หากมีการกำหนดจ่ายเงิน ทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งหลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากแสดงความคิดเห็นถึงความกังวลว่าจะได้รับเงินหรือไม่ รวมถึงระบุความเดือดร้อนที่จะต้องใช้เงินดังกล่าวผ่านช่องทางสื่อต่างๆ
ทางด้าน นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลการเลื่อนเบิกจ่ายเงินดังกล่าว เนื่องจากผู้มีสิทธิ์ที่ได้ลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดมีจำนวนมากเกินกว่าที่ประมาณการไว้ ทำให้งบประมาณปี 2566 ที่ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิ์ในเดือนกันยายน 2566 พม. จำเป็นต้องขออนุมัติงบกลางเพิ่มอีก 998.442 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอกับวงเงินที่จะต้องใช้เบิกจ่ายทั้งหมดในเดือนกันยายน 2566 จำนวนประมาณ 1,462 ล้านบาทเศษ สำหรับการจัดสรรให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิ์ ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้ประมาณ 2.3 ล้านคน ซึ่งงบกลางที่ขอเพิ่มผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2566 แล้ว
...
แต่เนื่องจากเป็ ครม.รักษาการ จำเป็นต้องเสนอเรื่องผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อนเสนอกลับมาที่ ครม. อีกครั้ง จึงจะสามารถเบิกจ่ายได้ ซึ่งเรื่องผ่าน กกต. แล้ว แต่เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ครม.ชุดใหม่ ขณะนี้เรื่องทั้งหมดอยู่ในวาระการพิจารณาของ ครม.แล้ว ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับทราบปัญหาแล้ว และพยายามพิจารณาที่จะเร่งหาทางแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด ต้องกราบขออภัยกลุ่มเป้าหมายผู้มีสิทธิ์ที่ได้ลงทะเบียนที่อาจจะทำให้ได้เงินล่าช้า แต่ยืนยันว่ายังได้แน่นอน และไม่เกินเดือนกันยายนนี้ เพราะเป็นการจัดสรรงบประมาณปี 2566 โดยเดือนต่อไปจะไม่มีปัญหาอีกแน่นอน
ขณะที่ นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว เข้าใจถึงความเดือดร้อนของกลุ่มเป้าหมายที่จะต้องใช้เงินดังกล่าว กำลังเร่งพิจารณาหาทางแก้ปัญหา ซึ่งภายหลังที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจะมีการประชุม ครม. ในวันที่ 13 กันยายน 2566 ตนจะนำเสนอต่อที่ประชุมพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน หลังผ่านความเห็นชอบจะกำชับให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนเร่งเบิกจ่ายทันที.
