เพื่อไทย-ว่าที่สว. ฉะ ไร้มารยาท “ลากตั้ง” อยู่ยาว ไล่ส่งยุติบทบาทหยุดดิ้นรน

เพื่อไทย-ว่าที่ สว.ชุดใหม่ แท็กทีมถล่ม สว.ชุดปัจจุบัน ไล่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ “อนุสรณ์” เหน็บต้องหัดทำใจยอมรับความจริงให้ได้ “นันทนา” สอนมารยาท หมดวาระแล้ว ต้องหยุดดิ้นรนไปต่อ แซะกระบวนการคัดเลือก สว.วิปริตที่สุดในโลก ใช้วิธี “โหด เหี้ยม หักหลัง ฮั้ว” ขณะที่ “ปริญญา เทวานฤมิตรกุล” กระทุ้ง กกต.ประกาศรับรอง 200 สว.ป้ายแดง ดักคอชุดเก่ายื้ออยู่ยาว หวังเลือก 2 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อดีต ผู้สมัคร สว.อีสานตบเท้าขึ้น สภ.ขอนแก่น แจ้งจับ 7 กกต.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ละเว้นไม่ตรวจสอบ สส.ขอนแก่น จุ้นกระบวนการเลือก สว. ตัวจี๊ดเสื้อแดงแจกยาขมนายกฯ หยุดตะบี้ตะบันลงพื้นที่ หันมาอยู่ทำเนียบฯ ใส่ใจติดตามการบ้านข้าราชการที่สั่งการไว้

สส.เพื่อไทย และว่าที่ สว.ชุดใหม่ ยกโขยงรุมถล่ม สว.ชุดปัจจุบันที่เตรียมนัดประชุมวุฒิสภา วันที่ 8 ก.ค. เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาเลือก สว. โดยเรียกร้องให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อรักษามารยาท ภายหลังกระบวนการเลือก สว.เสร็จสิ้นแล้ว

พท.ไล่ สว.ชุดเก่าหยุดทำหน้าที่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ค. นายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีวุฒิสภาเตรียมนัดประชุมพิจารณาญัตตินายสมชาย แสวงการ สว. ที่เสนอให้วุฒิสภาตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาถึงการเลือกกันเองของ สว.ชุดใหม่ ในวันที่ 8 ก.ค.ว่า มองว่า สว.ชุดเก่าควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว ตอนนี้เป็นรักษาการจะขยันมากเกินไปหรือไม่ แม้ในกรอบกฎหมายสามารถทำได้ แต่ความเป็นจริงเรื่องนี้ควรให้ กกต.ว่าไป เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของ กกต. มีกฎหมายรองรับถ้าทำอะไรผิดพลาดก็ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว การตรวจสอบเรื่องนี้ สภาผู้แทนราษฎรสามารถตรวจสอบได้เป็นเรื่องที่ควรให้ กกต.ดำเนินการดีที่สุด แล้วมาดูผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร

...

แซะ 250 สว.เดิมต้องทำใจให้ได้

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ สว.ชุดใหม่ผ่านกระบวนการคัดเลือกมาแล้ว จะชอบหรือไม่ชอบเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ต้องยอมรับคือ ผลพวงจากกติกาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ สว.ชุดเก่า 250 คน ถ่ายรูปหมู่อำลาตำแหน่งไปแล้ว บอกว่าพร้อมส่งไม้ให้ สว.ชุดใหม่ ถึงแม้ กกต.จะเจอโรคเลื่อนเล่นงาน ยังไม่มีกำหนดประกาศรับรอง สว.ชุดใหม่ เพราะมีเรื่องร้องเรียนมากถึง 614 เรื่อง แต่เชื่อว่า กกต.จะเร่งประกาศรับรองผลการเลือก สว. ให้มี สว.ชุดใหม่มาทำหน้าที่ ถ้าได้ สว.ชุดใหม่ 200 คน มาทำหน้าที่ได้เร็วประเทศและประชาชนจะได้ประโยชน์ แต่ สว.ชุดเดิม 250 คน มีคนทำใจได้ ทำใจไม่ได้ก็ต้องพยายามทำใจ ได้เวลาลาโรงแล้วปล่อยให้ กกต.รับรอง 200 สว.ชุดใหม่ เพื่อกลไกการทำงานของสว.จะได้ขับเคลื่อนเดินหน้า

“วันชัย” ระอาหน้าตา สว.ใหม่

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ สว.โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า คงเป็นที่ยอมรับกันว่า การเลือก สว.แบบนี้ไม่เวิร์ก กระบวนการเปิดช่องให้มีการฮั้ว บล็อก จัดตั้ง ได้คนมาเป็น สว.อย่างที่เห็นด้านได้ อายอด ทำให้วุฒิสภามีราคาต่ำคนเป็น สว.ไม่ค่อยมีค่ามีราคาสักเท่าไร เพราะถูกกลบด้วยวิธีการที่ได้มา คนจึงด้อยค่า สว.จากการเลือกแบบนี้น่าจะเป็นการเลือกครั้งสุดท้ายใครๆก็เห็นเป็นประจักษ์ว่าใช้ไม่ได้ ยังจะมี สว.กันอยู่หรือไม่ ถ้าใช้การเลือกตั้งทั้งหมดจะได้ สว.สีต่างๆ ทั้งบ้านเล็กบ้านใหญ่ญาติพี่น้องจะติดสอยห้อยตามเข้ามาเป็นสภาสีเหมือนรถไฟสายต่างๆ ครั้นจะให้แต่งตั้งทั้งหมดก็ถูกก่นด่าสารพัด มีอยู่สองทางเท่านั้นคือ จะมีหรือไม่มี สว. ถ้าเห็นว่า ไม่จำเป็นไม่มีประโยชน์ มีสภาเดียวก็ได้ก็ว่ากันไป หรือจำเป็นต้องมีสภากลั่นกรองตรวจสอบก็ต้องมี สว.ต่อไป

ยุแก้ รธน.มี สว.เลือกตั้ง-แต่งตั้ง

นายวันชัยระบุว่า มีความเห็นว่า สส.มี 2 แบบคือ แบบเลือกตั้งจากเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ผสมผสานให้เกิดความพอดีทั้งผู้มีความรู้ความสามารถ ถ้าจะมี สว.ต่อไปควรเป็นไปในลักษณะนั้นคือ เลือกตั้ง 100 คน แล้วสรรหาจากสาขาอาชีพ 100 คน เพิ่มคณะกรรมการสรรหาเข้ามา 12-15 คน จากองค์กรอิสระและสภาวิชาชีพ สภาการสื่อ สภาคณาจารย์ แบบรัฐธรรมนูญ ปี 2550 แต่ให้มีกรรมการสรรหาหลากหลายโปร่งใสขึ้น จะได้ สว.แบบเลือกตั้ง และจากผู้มีความรู้ความสามารถสาขาอาชีพต่างๆ ผสมผสานกัน ทำให้ สว.ดูดีมีราคา ได้คนมาทำหน้าที่กลั่นกรองและตรวจสอบเป็นอย่างดี ไหนๆจะแก้รัฐธรรมนูญกันแล้ว แก้เรื่องเลือก สว.เสียด้วย จะมีบทเฉพาะกาลให้เลิก สว.ชุดนี้ แล้วมี สว.ชุดใหม่ตามรัฐธรรมนูญที่แก้ไขก็ว่ากันไป จะทำให้ได้ สว.ตามความต้องการประชาชนเป็นคนมีความรู้ความสามารถ ทำให้วุฒิสภามีราคามีน้ำหนัก ได้เป็น สว.อย่างภาคภูมิใจ สิ้นสุดกันที สว.สายสีน้ำเงิน สีส้ม สีแดง สภาฮั้ว สภาจัดตั้ง

“นันทนา” สอนมารยาท สว.ชุดเก่า

นางนันทนา นันทวโรภาส ว่าที่ สว. กลุ่ม 18 สายสื่อมวลชน กล่าวถึงกรณี กกต.ยังไม่ประกาศผลรับรองการเลือก สว.ว่า แม้จะมีผู้ร้องคัดค้านกระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่จำนวนมาก แต่เป็นเรื่องปกติในกระบวนการเลือก การร้องคัดค้านไม่ได้หมายความว่าต้องล้มกระดานเป็นโมฆะ ขอให้ กกต.พิจารณารับรองผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกไปก่อน ใครต้องสงสัยทุจริตหรือมีคุณสมบัติไม่ตรงกลุ่มอาชีพ ให้แขวนไว้ก่อน หรือสอยทีหลัง สว.ชุดเก่ารักษาการมาพอสมควรแล้ว ควรเปิดโอกาสให้ สว.ชุดใหม่มาทำหน้าที่แทน ส่วนที่ สว.ชุดเก่ายังคงนัดประชุมวุฒิสภา วันที่ 8 ก.ค.อย่างต่อเนื่องนั้น น่าจะเปิดให้เป็นเวลา สว.ชุดใหม่มาทำหน้าที่แทน โดยมารยาทเมื่อการเลือกสิ้นสุดลงเท่ากับว่า สว.ชุดเก่าหมดวาระ ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ส่วนความกังวลการเลือก สว.ชุดใหม่อาจเป็นโมฆะนั้น การร้องคัดค้านกระบวนการไม่ชอบมาพากลไม่ได้แปลว่าการเลือก สว.จะเป็นโมฆะ แม้กติกาจะวิปริตเพียงใด แต่เมื่อกระบวนการสิ้นสุดลงควรยอมรับประกาศการรับรอง สว. 200 คนโดยเร็ว ไม่ใช่ไปล้มกระดาน ตามกฎหมายระบุ หลังเลือก สว.เสร็จสิ้น กกต.สามารถประกาศรับรองได้หลัง 5 วัน วันนี้เกินเวลามานานแล้ว กกต.ควรทำหน้าที่ตัวเองอย่านิ่งเฉย ไม่เช่นนั้นอาจถูกคนไปร้องเพิ่มว่า เหตุใดยังไม่ประกาศรับรองเสียที

จับไต๋ สว.ใหม่จับกลุ่มต่อรองเก้าอี้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ กกต.ยังไม่สามารถประกาศรับรอง สว.ชุดใหม่ได้ว่า กกต.เกรงอาจได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม เพราะการจัดเลือก สว. เห็นปัญหาหลายจุด ตั้งแต่การแบ่งกลุ่มถึงกระบวนการเลือกกันเองและเลือกไขว้ ที่ฮั้วกัน การประกาศรับรองผลเร็วเกินไป อาจเหมือน กกต.ไม่ทำงานแก้ปัญหา การประวิงเวลาไปเล็กน้อยอาจเป็นภาพดีว่า กกต.ให้ความใส่ใจ เชื่อว่าการประกาศรับรองจะเกิดขึ้นไม่เกินสัปดาห์หน้าแน่นอน ส่วนที่ว่าที่ สว.นัดรวมกลุ่มกันไม่ใช่เรื่องแปลก การทำงานต้องทำเป็นกลุ่มคณะ สิ่งที่อยากให้สังคมช่วยจับตาคือการพบปะดังกล่าวเป็นการรวบรวมเสียง สว.ให้ได้ชัยชนะขั้นต้นในการเลือกประธานวุฒิสภาหรือไม่ หรือรวมเสียงต่อรองอะไร ในระยะยาวอาจเป็นการรวมกลุ่มใช้ต่อรองทางการเมือง หากเป็นการรวมกลุ่มผู้มีแนวคิดเดียวกันก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ารวมกลุ่มให้มีผลประโยชน์เกิดขึ้น เช่น เสนอค่าตอบแทนต่างๆ ความหวังจะเห็น สว. มีความเป็นกลาง ปลอดจากการเมือง การแทรกแซงกลุ่มทุน คงต้องผิด

“หมอเกศ” รอแจงหลัง กกต.รับรอง

วันเดียวกัน พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ว่าที่ สว. ที่มีคะแนนได้รับเลือกเป็น สว.สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กกรณีถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอกที่นำมาใช้สมัคร สว.ว่า เงียบไม่ใช่ยอมรับ แต่นิ่งเพื่อมองคนได้กว้างและลึกขึ้น เก็บข้อมูลเมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะปรากฏว่าใครคือของจริงหรือของปลอม การกระทำและคำพูดบ่งบอกนิสัยที่แท้จริง-ปมด้อยทางจิตใจ และการแสวงหาผลประโยชน์ของตนเองแอบแฝง รวมถึงการใส่ร้ายป้ายสี โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนอื่น “และเพื่อปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวหมอต้องขออภัย รับผิดชอบในสิ่งที่ทำกันนะคะ ด้วยความเคารพ ขออนุญาตชี้แจงทั้งหมดหลัง กกต.รับรอง ขอบคุณทุกท่านที่เชื่อมั่น ขอบคุณทุกกำลังใจจากมิตรแท้ สังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี เราไม่สามารถควบคุมคนไม่ดีได้ทั้งหมด แต่เราเลือกได้ว่าจะเป็นคนแบบไหน ความจริงก็คือความจริง ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นในตัวหมอ ด้วยความจริงใจ ด้วยเกียรติและหัวใจที่ตั้งใจมาทำประโยชน์เพื่อประชาชน สังคม และเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยไม่หวั่นไหวกับอะไรทั้งสิ้น”

สว.เก่าตื๊ออยู่ต่อรอเลือกศาล รธน.

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่อาคารบางซื่อจังชั่น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนาหัวข้อ “ส่อง สว.ใหม่ ความหวังหรือวิกฤติครั้งใหม่” โดยนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การเลือก สว.ครั้งนี้ซับซ้อนที่สุด แต่บรรลุผลได้ผู้แทนปวงชนชาวไทยน้อยสุด ไม่บาลานซ์จังหวัด ไม่สะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริง เชื่อว่ามีการจัดตั้ง ใครจัดตั้งได้มากสุดก็ได้เปรียบ เมื่อการเลือกไม่เที่ยงธรรมมีเครือข่ายบ้านใหญ่ ต้องดูว่า กกต.จะกล้าประกาศผลหรือไม่ กกต.ควรประกาศให้ชัดเจนจะใช้เวลากี่วันรับรอง สว. ไม่ใช่เงียบหายไป ส่วนกระแส สว.สีน้ำเงินนั้น เป็นการสันนิษฐานกับความเกี่ยวข้องในเครือข่ายไม่อยากให้สรุป สว.ชุดนี้ใช้ไม่ได้ ต้องเลือกใหม่ แม้มีข้อครหา แต่ กกต.ควรเร่งประกาศรับรองผล ถ้าต้องรอให้บริสุทธิ์ผุดผ่องทุกคนอาจต้องรอข้ามปี ลากยาวให้ สว.ชุดปัจจุบันอยู่ต่อในระยะเวลาอันใกล้จะมีการเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน จึงอาจถูกมองได้ว่า ลากยาวเพื่อเหตุนี้ ส่วนการนัดประชุม สว. วันที่ 8 ก.ค. ต้องถามว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ การเลือก สว.ระบบนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย และมีการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกัน

“โหดเหี้ยมหักหลังฮั้ว” เลือก สว.

นางนันทนา นันทวโรภาส ว่าที่ สว. กล่าวว่า เห็นด้วยที่ กกต.จะประกาศไปก่อนและสอยภายหลัง แต่หากรับรองช้าอาจไปร้อง กกต.บ้างได้หรือไม่ ส่วน สว.ชุดปัจจุบันที่มาเปิดประชุมเพื่อตรวจสอบการได้มาของ สว.ชุดใหม่ถือว่าใช่หน้าที่หรือไม่ ถ้า สว.ชุดใหม่เข้าไปในสภาจะตรวจสอบการได้มา สว.ชุดเก่าได้หรือไม่ โดยมารยาท สว.ชุดเก่าควรยุติบทบาทไม่ดิ้นรนต่อไป การได้มาของ สว.ครั้งนี้พิสดารวิปริตที่สุดในโลก ไม่ควรมาใช้กับการคัดเลือกกับผู้มาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ เหมือนเล่นเกมโชว์ไปรับรางวัลใหญ่ ขอเรียกวิธีคัดเลือกว่า โหด เหี้ยม หักหลัง และฮั้ว ที่ผ่านมายังไม่มีการกำหนดคุณสมบัติผู้คัดเลือก ทั้งที่อย่างน้อยต้องกำหนดให้มีความรู้ขั้นต่ำระดับปริญญาตรี หากไม่รู้จะตรวจสอบกฎหมายได้อย่างไร จะได้คนไม่มีคุณภาพไม่ตรงปกมาทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ กติกาคัดเลือก สว.ครั้งนี้ตนไม่เห็นด้วย อยากให้ประชาชนตัดสินใจเลือก สว.ดีกว่าหรือไม่ อำนาจที่ไหนไม่ปลอดภัยเท่ากับอยู่ที่ประชาชน ที่ผ่านมาได้รวมกลุ่มว่าที่ สว.ที่มีอุดมการณ์อยู่ที่ 30 คน ถึงมีจำนวนน้อย แต่เป็นความหวัง อยากให้ สว.ยุคใหม่สื่อสารกับประชาชน เรียกร้องให้ถ่ายทอดสดประชุม สว. และประชุมกรรมาธิการทุกนัด สว.รู้อะไร ประชาชนต้องรู้เหมือนกัน การเลือกองค์กรอิสระต้องแสดงวิสัยทัศน์ ถ่ายทอดสดให้ประชาชนดูเพื่อความโปร่งใส ส่วนกระแสข่าว สว.สายสีน้ำเงินเข้ามามากที่สุดเป็นเรื่องเจ็บจี๊ดและมีจริง

แฉจ่ายเงินแสนแลกบล็อกโหวต

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวว่า กระบวนการเลือก สว.ครั้งนี้มีเจตนารมณ์ให้ได้กลุ่มอาชีพหลากหลาย แต่ สว.ที่ได้เกินกว่าครึ่งดูเหมือนถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง ทำให้ความเป็นกลางไม่เกิดขึ้นตามที่ตั้งไว้ ทราบว่าขั้นตอนระดับประเทศมีผู้สมัครอิสระได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากคนกลุ่มหนึ่ง เสนอตัวเลขให้มาอยู่กลุ่มเดียวกัน มีค่าโรงแรม ค่าเครื่องบินออกให้ และให้เงิน 1-2 แสนบาท ถ้าไปถึงรอบสุดสาย เพื่อเลือกคนตามบัญชีในโพยที่ให้ไว้ โดยจะมีโพยสำเร็จรูปไม่ว่าอยู่ในกลุ่มใดใน 20 กลุ่ม จะกำหนดว่าต้องเลือกใคร โพยเหล่านี้ไม่มีการพิมพ์ ให้จดด้วยลายมือ ลำดับที่ 1-7 จะมีคะแนนเกาะเป็นกลุ่ม เพราะบัตรที่ใช้เลือกรอบบ่ายมีเพียง 5 เบอร์เท่านั้น คนกลุ่มนี้จึงมีคะแนนสูงจากโพย ส่วนการทำหน้าที่ของ กกต. ถ้ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจทำให้สังคมรู้สึกมี กกต.ไปทำไม คงต้องมีราคาที่ต้องจ่ายกลับไม่น้อย ทั้งนี้อนาคต สว.ยังมีความหวัง แม้ไม่ได้หน้าตาดีหมด แต่อนาคตทางการเมืองไทยถือว่าวิกฤติ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าที่ สว.ใหม่ทำงานไม่ได้ มีที่มาไม่ชอบมาพากล ต้องยอมรับถึงผลและกติกาที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ไขต่อไปในอนาคต

คาดมี สว.ไม่ตรงปก 20 คน

นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล ว่าที่ สว. กล่าวว่า จากนี้ต้องรอว่า กกต.จะประกาศรับรองเมื่อใด แต่ สว.ชุดใหม่ใน 200 รายชื่อมองว่ามีคนไม่ตรงปกประมาณ 20 คน เชื่อว่าการมีคนทุกสาขาอาชีพจะมาสะท้อนปัญหาต่างๆของสังคมได้ดีกว่าในฐานะมีประสบการณ์ที่สะท้อนจากอาชีพ ดังนั้น สว.ชุดใหม่ถือเป็นความหวังของประเทศ

อดีตผู้สมัคร สว.แจ้งจับ กกต.

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สภ.เมืองขอนแก่น นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว อดีตผู้สมัคร สว. เลย นายการุณ ใสงาม อดีตผู้สมัคร สว.บุรีรัมย์ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีตผู้สมัคร สว.ยโสธร นายทวีศักดิ์ มาพงษ์ นายอิทธ์สุรพงษ์ ภูมิศักดิ์ อดีตผู้สมัคร สว.ขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.ยศวัชน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ. เมืองขอนแก่น ให้ดำเนินคดีกับกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน เลขาธิการ กกต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต นายคุ้มพงษ์กล่าวว่าตนและอดีตผู้สมัคร สว.พื้นที่ภาคอีสานหลายจังหวัดเห็นว่า กกต.ที่มีหน้าที่ต้องควบคุมจัดเลือก สว.ให้สุจริตเที่ยงธรรม แต่กลับละเลย ละเว้น ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จึงมาแจ้งความให้ดำเนินการกับ กกต. เลขาธิการ กกต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ละเว้นไม่ตรวจสอบกรณีนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย มีพฤติกรรมส่อในทางให้คุณให้โทษผู้สมัคร สว. โดยเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 นายเอกราช ไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จ.ขอนแก่น พบปะพูดคุย รับประทานอาหารกับกลุ่มผู้สมัคร สว.ขอนแก่น กว่า 10 คน มีการต่อสายโทรศัพท์ไปยัง จ.บุรีรัมย์ ไม่ทราบว่านายเอกราชเกี่ยวข้องกับผู้สมัคร สว.เหล่านี้อย่างไร โดยใช้คำพูดทำนอง อาจให้ดูแลกัน เป็นผู้ช่วย สว. ผู้ช่วย สส. คำพูดเหล่านี้ให้คุณให้โทษกับผู้สมัคร สว. ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ป้อง สส.กินข้าวผู้สมัคร สว.ไม่ผิด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระบวนการเลือก สว.ที่ยังคงมีการพาดพิง สว.สีน้ำเงินว่า คำว่าสีน้ำเงินในบริบท สว.สีน้ำเงินคงไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย ใครไปบัญญัติคำว่า สว.สีน้ำเงิน ตนไม่ทราบ แต่พรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในเรื่องการเลือก สว. เพราะถูกห้ามด้วยกฎหมายอยู่แล้ว ในฐานะกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการอำนวยความเป็นธรรมในช่วงการคัดสรรผู้สมัครรอบแรกในระดับอำเภอ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย เป็นไปตามกลไกข้อปฏิบัติที่กำหนดไว้ในการเลือก สว.ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ส่วนการแชร์คลิปนายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย ไปรับประทานอาหารร่วมกับผู้สมัคร สว.บางราย ที่ได้เข้ารอบระดับประเทศในการคัดเลือก สว.นั้น แล้วไปเกี่ยวข้องอะไรกัน นายเอกราชเป็นเพียง สส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย คิดว่าการกินข้าวการพบปะ ไม่มีข้อห้าม แน่นอนคนระดับนั้นต้องรู้จักกัน การช่วยเหลือกันผิดกฎหมาย แต่การกินข้าวไม่ผิดกฎหมาย อย่าไปคิดแบบนั้นเลย ถ้าคิดแบบนั้นเท่าไหร่ก็ไม่จบ

เสื้อแดงบี้นายกฯ ใส่ใจติดตามงาน

นายวรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดงในฐานะที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำหน้าที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ใกล้ครบ 1 ปีว่า นายเศรษฐาเป็นนายกฯที่ขยันลงพื้นที่รวมถึงเดินสายโรดโชว์ประเทศไปทั่วโลก เป็นนายกฯที่ขยันที่สุดคนหนึ่ง แต่วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเงินสดในระบบหายไปบ้านรถถูกยึดขายของไม่ออก ข้อมูลเหล่านี้นายเศรษฐาทราบดีจากการลงพื้นที่ และกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลตามโซเชียลมีเดีย ทำให้ความเชื่อมั่นรัฐบาลและนายกฯลดลงทุกวัน รวมถึงกระแสพรรคเพื่อไทยก็ลดลงแนวทางทำงานที่ผ่านมาของนายกฯ แม้ขยันอดทน แต่ไม่เร็วพอทำให้ประชาชนพอใจ ข้อมูลความเป็นจริงนายกฯมีเพียงพอแล้ว อยากให้นำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ปรับใช้ ทวงถามความคืบหน้าข้อสั่งการต่างๆที่เคยให้ไว้ในรอบปีกับข้าราชการแต่ละกระทรวง เพราะคือแขนขาที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล อยากให้นายกฯแบ่งเวลาลงพื้นที่มานั่งทำงานที่ทำเนียบฯ เรียกข้าราชการมารายงานความคืบหน้านโยบาย ไม่ใช่ตะบี้ตะบันลงพื้นที่ ไม่เหลียวแลหลัง ถ้าเป็นแบบนั้นไม่มีอะไรต่างจากรอบปีที่ผ่านมา ประชาชนต้องการผลสำเร็จนโยบาย ถึงเวลาที่นายกฯ ต้องเร่งขันนอตกำชับตรวจการบ้าน ไม่ใช่สั่งแล้วสั่งเลย

ขอเป็นยาขมทำหน้าที่มหามิตร

นายวรชัยกล่าวว่าสิ่งที่พูดในฐานะคนในบ้าน แม้บางอย่างอาจระคายหู แต่อยากให้รู้ว่า ความคิดเห็นของคนเป็นมิตร ไม่มีเจตนามุ่งร้ายแอบแฝง ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าได้ปากท้องประชาชนจะได้กินอิ่ม พรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาเป็นที่นิยมชมชอบ ใครจะว่าอะไร ตนไม่สนใจ วันนี้ขอเป็นยาขมบอกปัญหาที่ประชาชนเดือนร้อนให้ถึงนายกฯ เมื่อนายกฯทราบปัญหา ถือว่าทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว

ฉะ ก.ก.เพิ่มวันประชุมหวังเพิ่มแต้ม

นายวิสุทธิ์ ไชยณุรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเสนอเพิ่มวันประชุมสภาฯเพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญให้มากขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่หากย้อนไปดูในอดีตการประชุมสภาฯเริ่มในช่วงบ่ายวันพุธและวันพฤหัสบดีพอมายุคนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ ให้เพิ่มการประชุมเป็นวันพุธและวันพฤหัสบดีเต็มวัน หากมีความจำเป็นต้องพิจารณากฎหมายสำคัญ อาจเพิ่มการประชุมวันศุกร์อีกวัน แต่ถ้าจะเพิ่มวันประชุมเป็น 4-5 วันเลยคงไม่ไหว เพราะ สส.ต้องประชุมพรรคและประชุมกรรมาธิการชุดต่างๆ หากเป็นเรื่องเร่งด่วนจะเพิ่มประชุมในวันศุกร์อีก 1 วัน อาจพอได้ แต่ขอให้มานั่งประชุมสภาให้ครบทั้ง 2 วัน นั่งประชุมให้เต็มๆ น่าจะพอแล้ว สส.เขตต่างจังหวัดน่าเห็นใจ เพราะ ประชาชนในพื้นที่อยากเห็นหน้า ยิ่งเวลามีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง อยากให้ผู้แทนมาดูรับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด เข้าใจว่า สส.ก้าวไกลส่วนใหญ่เป็นสส.บัญชีรายชื่อ และ สส. กทม.อาจไม่ต้องลงพื้นที่เหมือน สส.พรรคอื่นๆอย่าคิดจะประชุมเพื่อหวังเอาคะแนนลอยๆ

ป้องนายกฯ ไม่เคยหนีสภาฯ

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาตอบกระทู้ในสภานั้น หากวันไหนนายกฯว่างก็จะมาตอบด้วยตัวเองไม่เคยหนีสภาฯ ถ้าเทียบกับนายกฯคนอื่นที่ผ่านมา หรือหากติดภารกิจจะมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เข้าใจว่านายกฯมีภารกิจสำคัญมากมาย ต้องต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองให้เวลานายกฯได้ทำงาน แต่หากนายกฯมีเวลาก็จะมาสภาฯ นายเศรษฐามาสภาบ่อย รับฟังปัญหาและรับเรื่องร้องเรียนของผู้แทน ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชน กวดขันตลอด พูดเสมอว่าหากรัฐมนตรีคนไหนไม่มาตอบกระทู้ จะลากไส้ให้หมด ยิ่งตอนนี้เปิดสมัยประชุมสภาแล้วยิ่งต้องมาวิปรัฐบาลประสานโดยตลอดว่า รัฐมนตรีห้ามเบี้ยวตอบกระทู้ ตอนนี้ สส.เริ่มพูดกันเยอะว่าถ้ารัฐมนตรีคนไหนขี้เกียจหลังยาว สส.ที่รอเป็นรัฐมนตรีมีอีกเยอะ

ดักคออย่าตีรวนสร้างดราม่า

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านขอให้เพิ่มวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันกฎหมายสำคัญได้เร็วขึ้น ว่า พรรคเพื่อไทยหารือเรื่องเพิ่มวันประชุมสภาตั้งแต่ก่อนเปิดประชุมสภานัดแรกแล้ว สอดคล้องท่าทีรัฐบาลที่พร้อมสนับสนุนฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยหวังใช้เวทีสภาทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชนผลักดันกฎหมายสำคัญๆให้เร็วและมากขึ้น จึงมีความเห็นตรงกันเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ขอความร่วมมือทุกฝ่าย หากเห็นตรงกันสามารถเพิ่มวันประชุม
สภาผู้แทนราษฎรได้มากขึ้นแล้ว ควรใช้เวทีสภาอย่างสร้างสรรค์ ไม่ตีรวนไม่สร้างดราม่า มุ่งสร้างคอนเทนต์ให้เกิดความวุ่นวายนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงในสังคม การเพิ่มวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันกฎหมาย ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน แต่ควรใช้เวทีสภาทำงานสร้างสรรค์ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน

รทสช.บอกประชุมกี่วันก็พร้อม

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า สส.รวมไทยสร้างชาติ 36 คน พร้อมเต็มที่ในการเข้าร่วมประชุมสภาสมัยนี้ เพื่อเดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญหลายฉบับ โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรื้อ ลด ปลด สร้าง ปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ได้เร่งดำเนินการเตรียมยื่นบรรจุวาระ เพื่อสร้างความเป็นธรรมด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้คนไทยทั้งประเทศโดยเร็ว ส่วนที่ฝ่ายค้านเสนอให้เพิ่มวันประชุมสภา ถือเป็นเรื่องดีที่จะเร่งพิจารณากฎหมายสำคัญให้ออกมาช่วยเหลือประชาชนโดยเร็ว โดยเฉพาะกฎหมายปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จะส่งผลดีโดยตรงช่วยลดค่าครองชีพ ลดรายจ่ายให้ประชาชน จะประชุมกี่วันก็พร้อม

ไล่ “ทักษิณ” ทบทวนวิธีกู้แต้ม

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ว่า หากมองคะแนนเสียงที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ไม่กี่คะแนนนั้น การเลือกตั้งนายก อบจ. ต่างจากการเลือกตั้ง สส. เพราะการเลือก อบจ. การวางแผนเครือข่ายอาศัยนักการเมืองท้องถิ่นแต่ละพื้นที่เป็นผู้ทำคะแนนให้ ผลที่แพ้ชนะกันไม่ได้บ่งบอกการเลือก สส.ครั้งต่อไป จะชนะเลือกตั้งหรือไม่ เพราะ สส.จะเป็นการเลือกแบบเขตใครเขตมัน ทั้งนี้ การเลือกนายก อบจ.ที่ผ่านมา ฝั่งชนะใช้ชื่อพรรคการเมือง บุคคลสำคัญของพรรคไปช่วยทำคะแนน แต่ผู้แพ้ลงสมัครอิสระ ดังนั้นฝ่ายชนะที่เลือกใช้ชื่อพรรคการเมือง มีบุคคลสำคัญของพรรคมาช่วย ถือว่าขาดทุนอยู่ เพราะชนะฉิวเฉียด ส่วนการร้องทุจริตเลือกตั้งนั้น การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นมีการใช้เงินและอิทธิพลจำนวนมาก ขึ้นอยู่กับ กกต.จะเอาจริงเอาจังให้ใบเหลืองใบส้มหรือไม่ เมื่อถามว่าผลแพ้ชนะเพียงฉิวเฉียด สะท้อนความนิยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลดน้อยลงหรือไม่ นายสมชัยตอบว่า นายทักษิณห่างเหินการเมืองเป็นเวลานาน เมื่อกลับมามีการใช้กระบวนการที่คนทั่วไปรู้สึกว่าใช้อภิสิทธิ์หลายเรื่อง ทำให้คะแนนนิยมลดน้อยลง แม้จะพยายามเดินสายสร้างผลกระทบทางการเมืองต่างๆ แต่ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นยังได้ไม่เท่าที่ควร นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยต้องกลับไปประเมิน หากจะให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นที่นิยม วิธีที่ใช้อยู่ปัจจุบันเป็นประโยชน์หรือไม่

“อนุทิน” ยันไม่กลั่นแกล้งใคร

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการพิจารณาประกาศรับรองนายชาญ พวงเพ็ชร์ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ว่า กระทรวงมหาดไทย และ จ.ปทุมธานี เป็นหน่วยงานราชการต้องยึดเรื่องกฎหมาย กรณีนี้นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุชัดเจน และคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยมีหนังสือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แจ้งแนวปฏิบัติเรื่องนี้ชัดเจน เพราะเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันในการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่หรือกลั่นแกล้งทางการเมือง สนิทกับทั้งนายชาญที่เคยอยู่พรรคภูมิใจไทย และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ก็เคารพนับถือกัน ทั้งคู่เป็นบุคคลที่เคารพนับถือ รักใคร่ชอบพอกัน แต่ต้องทำตามกฎหมาย ทราบว่านายชาญจะไปยื่นคำร้องให้ศาลมีคำวินิจฉัยให้ชัดเจน หากไม่มีคำสั่งศาลก็ต้องเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่คณะกรรมการกฤษฎีกากำหนดไว้ ไม่ได้มีเจตนาส่วนตัว และ ผวจ.ปทุมธานี เพิ่งย้ายมาจาก จ.กระบี่ เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีเจตนาไปกลั่นแกล้งใคร ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

โยน สธ.แก้เอากัญชาคืนยาเสพติด

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข มีมติให้กัญชา-กัญชง กลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้งว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ให้ใช้กัญชาเรื่องสันทนาการ แต่การนำช่อดอกกลับไปเป็นยาเสพติดเท่ากับกลับไปจุดเดิมที่เคยคลายให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ ภายใต้การควบคุมจำนวนทีเอชซี การทำยารักษาและปลูกภายในบ้าน มีข้อสงสัยหากนำช่อดอกกลับไปเป็นยาเสพติดจะต้องดำเนินคดีประชาชนที่ปลูกไว้หรือไม่ ก่อนหน้านี้เดือน มิ.ย.2565 มีการปล่อยคนที่กระทำความผิดดังกล่าวไป 8,000 กว่าคน จากนี้ไปคนมีใบอนุญาตให้ปลูกหรือทำยาจะทำอย่างไร กระทรวงสาธารณสุขต้องไปหาทางออก ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดที่มีมติให้เอากลับไปเป็นยาเสพติดเป็นชุดเดียวกับที่ปล่อยให้ช่อดอกออกจากยาเสพติด คนเหล่านั้นต้องชี้แจงประชาชน เท่าที่ทราบไม่มีข้อมูลใหม่มีแต่ข้อมูลลอยๆ ทำไมไม่ออกกฎหมายควบคุมให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นใครกลับเข้าไปเป็น รมว.สาธารณสุขใหม่ถ้าเห็นว่ากัญชามีประโยชน์ก็ต้องมาแก้กฎหมายใหม่ จะพัลวันพัลเก ที่ผ่านมาทำตามนโยบายที่สัญญากับประชาชนไว้แล้ว แต่ตอนนี้ถือเป็นนโยบายใหม่ก็อย่าให้ใครเดือดร้อน เราพร้อมให้ความร่วมมือถ้ามีเหตุผล ส่วนจะกระทบนโยบายพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ใครเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ เราต้องยอมรับ และเคารพนโยบายของคนเหล่านั้น ภูมิใจไทยคงไม่ประท้วงอะไร แต่ยังมีจุดยืน

คืนอิสระ “เทพไท” ถอดกำไลอีเอ็ม

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บริการงานกรมคุมประพฤติ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถอดกำไลอีเอ็มกับพนักงานคุมประพฤติ สำนักงานกรมคุมประพฤติ ภายหลังครบกำหนดพักโทษคดีที่ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีทุจริตเลือกตั้ง อบจ.นครศรีธรรมราช นายเทพไทกล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายการถูกคุมขังรวมเวลา 2 ปี และได้รับพักโทษครบ 8 เดือน จึงมาพบเจ้าหน้าที่ให้ถอดกำไลอีเอ็ม ช่วง 2 ปี ไม่ได้สิทธิลดโทษ ได้ปฏิบัติตามระเบียบกรมราชทัณฑ์เคร่งครัด ไม่มีสิทธิพิเศษ ตนกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความเป็น 2 มาตรฐาน นี่คือความเหลื่อมล้ำกระบวนการยุติธรรม ยิ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ว่าเข้าพบนายทักษิณที่โรงพยาบาล ถูกขอร้องให้ถอนฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยหนักมีสติครบ สั่งการเคลื่อนไหวทางการเมืองได้ นายทักษิณเป็นผู้มีอำนาจสั่งการรัฐบาลชุดนี้ รวมถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังได้รับโทรศัพท์จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ถอนฟ้องนายเศรษฐา แสดงว่านายเศรษฐาเป็นร่างทรงนายทักษิณ เชื่อว่าหลังวันที่ 22 ส.ค.ที่นายทักษิณจะพ้นกำหนดพักโทษ ได้รับปล่อยตัวเป็นทางการ จะเคลื่อนไหวมากกว่านี้ ขอเรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่