ยอดขาย BYD ไตรมาส 2 พุ่ง 21% ตามหลัง 'เทสลา' แค่หมื่นกว่าคัน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า "บีวายดี" (BYD) ค่ายรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกจากจีน รายงานยอดขายในไตรมาส 2 ปีนี้เติบโตถึง 21% เมื่อเทียบปีที่แล้ว โดยยอดขายตามหลังคู่แข่งเบอร์ 1 "เทสลา" (Tesla) มาติดๆ ชนิดหายใจรดต้นคอ

รายงานของรอยเตอร์สซึ่งรวบรวมจากข้อมูลยอดขายรายเดือน ระบุว่า BYD มียอดขายทั้งสิ้น 426,039 ระหว่างไตรมาสเดือนเม.ย.-มิ.ย. ปีนี้ หรือน้อยกว่าเทสลาอยู่ประมาณ 12,000 คัน 

ในทางกลับกัน เป็นที่คาดว่าเทสลาจะรายงานยอดขายไตรมาส 2 ลดลงราว 6% และจะเป็นยอดขายที่ลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกันเป็นครั้งแรกของบริษัท  เนื่องจากต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดรถยนต์จีนและความต้องการซื้อที่ชะลอตัวลงเพราะไม่มีรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาแข่งขันเหมือนค่ายอื่น 

รอยเตอร์สระบุด้วยว่ามีความเป็นไปได้ที่เทสลาอาจจะพลาดท่าเสียแชมป์เบอร์ 1 ให้บีวายดีอีกครั้ง หากยอดขายออกมาแย่กว่าที่คาด

เบื้องต้นธนาคารบาเคลย์สคาดการณ์ว่ายอดขายของเทสลาอาจปรับตัวลงมากถึง 11% เนื่องจากสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน (CPCA) เปิดเผยตัวเลขรายเดือนในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ยอดขายของเทสลาลดลงถึง 24.2% เมื่อเทียบปีที่แล้ว อยู่ที่ 71,007 คันเท่านั้น และเป็นยอดที่ลดลง (เทียบปีต่อปี) เดือนที่ 3 ติดต่อกัน

ค่ายรถ 'อีวีจีน' ยอดขายพุ่งทั่วหน้า

นอกจากบีวายดีแล้ว บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ จากจีนต่างรายงานยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน นำโดยค่าย "ซีกเกอร์" (Zeekr) ในเครือของบริษัทจีลี มียอดส่งมอบรถ 20,106 คันในเดือน มิ.ย. รวมครึ่งปีแรกส่งมอบรถ 87,870 คัน

ส่วนค่าย "นีโอ" (Nio) มียอดส่งมอบเดือน มิ.ย. สูงสุดทำสถิติใหม่ที่ 21,209 คัน รวมเป็นยอดครึ่งปี 87,426 คัน ในขณะที่ "เอ็กซ์เผิง" (Xpeng) มียอด 10,668 คัน รวมครึ่งปีอยู่ที่ 52,028 คัน

ทั้งนี้หากรวมยอดขายในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดไปด้วยแล้ว "หลี่ ออโต" (Li Auto) มียอดขายนำอยู่ที่ 47,774 คันในเดือน มิ.ย. หรือรวมครึ่งปีอยู่ที่ 188,981 คัน โดยเป็นยอดที่มาจากรถยนต์ไฮบริดมากที่สุด

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ