กกต.รับ-ไม่ง่าย จับโกง สว. เงิน-อำนาจครบ ชี้อาชญากรรมคอปกขาว พท.โต้ลั่นโละปาร์ตี้ลิสต์

พท.ดาหน้าถล่มยับ “สุดารัตน์” เผาบ้านเก่า “ภูมิธรรม” การันตี พท.ไม่มีแนวคิดตัดทิ้ง สส.ปาร์ตี้ลิสต์ งัดปรัชญาพรรคชู สส. 2 ระบบ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เหน็บยังไม่หายโกรธ พท.อีกหรือ ไล่ต่างคนต่างอยู่ ไปทำพรรคตัวเองให้โต อย่ามามัวดิสเครดิต “สรวงศ์” ซัดทำไมชอบปั่นอยู่เฉยๆไม่ได้ ท้าเปิดชื่อคนเปิดปากเล่า “นิกร” ย้ำ กมธ.ศึกษาแก้รัฐธรรมนูญฯลุยตั้ง ส.ส.ร. ไม่มีธงหั่น สส.บัญชีรายชื่อ เชื่อรัฐบาลไม่รับลูกรื้อรัฐธรรมนูญรายมาตรา “เจ๊หน่อย” จี้ “ เศรษฐา” ให้สัญญาประชาคมไม่แก้ รธน.หมกเม็ดวาระซ่อนเร้นเอาเปรียบคู่แข่ง เลิกถ่วงเวลาคลอดรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน “พิชัย” นั่งประธาน กมธ.งบฯปี 68 “ก้าวไกล” เมินสังฆกรรมไม่รับตำแหน่งต่างๆใน กมธ. “แสวง” มั่นใจเลือก สว.ได้ครบ 200 คนตามไทม์ไลน์ รับจับไม่ง่ายขบวนการทุจริต 4 รูปแบบ

จากกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ออกมาระบุได้รับทราบคำบอกเล่าจากเพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่ามีความพยายามแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตัด สส.แบบบัญชีรายชื่อออก เหลือเพียง สส.เขตเพื่อสกัดกั้นพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขณะที่แกนนำรัฐบาลและพรรค พท. ต่างพากันออกมาปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำว่าเป็นการให้ข่าวดิสเครดิต โดยไม่มีมูลความจริง

...

“อ้วน” ปัด พท.ไม่คิดตัด สส.ปาร์ตี้ลิสต์

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์กรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ระบุได้ข้อมูลจากคนใน พรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า มีความพยายามแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่ให้มี สส.บัญชีรายชื่อว่า ยืนยันพรรคไม่มีแนวคิดดังกล่าว เราเชื่อว่าการเมืองต้องมี สส.ทั้งสองส่วน สส.เขตต้องทำงานใกล้ชิดประชาชน เพื่อรับฟังปัญหาแล้วหาแนวทางแก้ปัญหาให้เขา สส.บัญชีรายชื่อต้องอยู่ส่วนกลางคอยคิดนโยบายหาแนวทางทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น นี่คือปรัชญาของพรรค พท. คุณหญิงสุดารัตน์ เคยอยู่พรรค พท.มาน่าจะรู้ตรงนี้ ทำไมถึงไปพูดไม่ตรงกับปรัชญาและสิ่งที่พรรค พท.ยึดถือปฏิบัติ

อัดยังไม่หายโกรธหรือไล่ต่างคนต่างอยู่

“ที่ทำให้สงสัยคือทำไมคุณหญิงสุดารัตน์รู้ดีกว่าคนเพื่อไทย และสงสัยว่าการที่อ้างพรรคพวกใน พท.เป็นพรรคพวกใน พท.จริงๆ หรือว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์คิดเอาเองกันแน่ อยากถามว่ายังไม่หายโกรธพรรค พท.หรืออย่างไร อยากให้เราต่างคนต่างอยู่ พยายามพัฒนาพรรคของตัวเองให้เติบโต พท.เราพยายามปรับปรุงพรรคอยู่ เห็นได้ว่าการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 มีการพัฒนาการเมืองให้สร้างสรรค์มากกว่าที่เคยมี และให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ขอให้ต่างคนต่างทำพรรคของตัวเองให้ดีขึ้นๆจะดีกว่า” นายภูมิธรรมกล่าว

ไปทำพรรคให้โต อย่ามัวดิสเครดิต

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับการออกมาให้ข้อมูลเช่นนี้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่สาธารณชนต้องรู้ว่าอะไรที่ไม่มีหลักฐานความเป็นจริง ไม่รู้ว่าได้รับข้อมูลมาจากไหน ควรเชื่อได้หรือไม่ ขอให้มาร่วมทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์กันดีกว่า อยากให้ทำงานของพรรคตัวเอง ให้เติบโตเพื่อสร้างประชาธิปไตยมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ดีกว่ามาดิสเครดิต อยากชวนให้มาสร้างคุณค่าที่ดีงาม ไม่ใช่มาคะคานคนอื่นโดยไม่อิงข้อเท็จจริง

“สรวงศ์” ซัดชอบปั่นอยู่เฉยๆไม่ได้

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ระบุว่ามีคนในพรรค พท.เล่าว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะยกเลิกระบบสส.บัญชีรายชื่อ ให้เหลือแต่ สส.เขตว่า เขาก็พูดไป นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค พท.ออกมาโต้แล้ว ไม่เข้าใจว่าอยู่กันเฉยๆไม่ได้หรืออย่างไร ชอบปั่น ชอบอะไรแบบนี้ เรื่องนี้เรารู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทุกอย่างมีขั้นตอนในคณะ กมธ.มีทุกพรรคอยู่ด้วย ไม่ใช่อยู่ดีๆใครจะไปทำอะไรได้ดั่งใจ จริงๆเราไม่ได้มีความคิดที่จะทำด้วยซ้ำ เพราะไม่ใช่เรื่องได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมืองเลยทุกพรรคต้องหวังบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว ไม่เข้าใจทำไมถึงไปพูดเช่นนั้นได้

ท้าพูดมาเลยใครเป็นคนบอกเล่า

เมื่อถามว่า ในการประชุมพรรคต้องพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่มี รับประกันได้ว่าในที่ประชุมพรรค ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้เลย ขอให้พูดมาเลยว่าใครเป็นคนพูด แบบนี้ก็พูดได้ว่าคนในพรรค ทสท.มาบอกตนเช่นนั้นเช่นนี้ อยากให้การทำงานราบรื่นดีกว่า เมื่อถามว่า มองว่าการออกมาเปิดประเด็นเช่นนี้เป็นการดิสเครดิตพรรค พท.หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าคำว่าดิสเครดิตคืออะไร แต่หากคนใช้วิจารณญาณในการฟัง แยกแยะออกอยู่แล้ว ใครจะพูดอะไรแล้วแต่ แต่พูดโดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้น พูดแค่ว่าคนในพรรค พท.ที่ยังสนิทกันอยู่ แบบนี้ใครก็พูดได้ อย่างไรก็ตาม จะไม่กระทบต่อการทำงานร่วมกันของคนในพรรค พท.

อัดมโนฉ่ำๆความเชื่อถือหดหาย

ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า ถ้าท่านพูดกับคนในครอบครัว หรือสมาชิกพรรคของท่านเป็นการภายใน จะมโนกันฉ่ำแค่ไหนก็เป็นสิทธิ แต่การจินตนาการแบบไม่มีมูลความจริงออกสื่อ ต้องระวังต้นทุนความน่าเชื่อถือของท่านจะหดหายลดต่ำลงไปเรื่อยๆ สิ่งที่พรรค พท.ประกาศจุดยืนชัดและดำเนินการไปแล้ว คือการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.ไปร่างรัฐธรรมนูญ และหากมีการตั้ง ส.ส.ร. พรรคการเมืองจะไม่สามารถไปครอบงำการทำงานของ ส.ส.ร.ได้ การจินตนาการแบบไม่มีมูลความจริงเจือปน หากมุ่งหวังจะลดทอนความน่าเชื่อถือดิสเครดิตคนอื่น ระวังจะย้อนกลับเข้าตัวไปดิสเครดิตตัวเอง บ้านเมืองมีหลักมีการ ใครจะโหนพรรคไหนโหนไป ได้ติดตามเรื่องรัฐธรรมนูญไม่เคยได้ยินเรื่องตัด สส.ระบบบัญชีรายชื่อ เหลือเฉพาะ สส.เขตการทำงานการเมืองต้องตรงไปตรงมา อย่าใช้วิธีหาคะแนนด้วยการใส่ร้าย ทำลายคะแนน หรือด้อยค่าพรรคอื่นด้วยการปล่อยข่าวที่ไม่มีมูลความจริง

แขวะจินตนาการบริสุทธิ์ไม่มีจริงปน

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น่าจะเป็นจินตนาการบริสุทธิ์ของคนที่พูด เพราะในพรรค พท.ไม่มีการพูดคุยกันเลย ไม่เคยได้ยินและคงจะไม่มีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายประเด็นยกเลิก สส.แบบบัญชีรายชื่อ แปลกใจที่มีข่าวนี้ออกมา การจุดประเด็นคงไม่สามารถลดทอนความน่าเชื่อถือของพรรค พท.ได้ เพราะพรรคเสนอแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ไปร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าตั้ง ส.ส.ร. พรรคการเมืองคงไม่สามารถไปครอบงำได้ และสมมติถ้ามีแนวคิดจะยกเลิก สส.แบบบัญชีรายชื่อ ก็ยากจะผลักดันสำเร็จ เพราะ สว.และ สส.ฝ่ายค้านบล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ได้ เพราะวาระที่สามต้องได้เสียงฝ่ายค้านสนับสนุนอย่างน้อยร้อยละ 20 ของฝ่ายค้านและ สว.67 เสียงถึงจะผ่านได้ สว.และฝ่ายค้านมีสิทธิวีโต้ได้ อย่าไปเสียเวลาถกเถียงกันเลย เพราะมันไม่มีอยู่จริง

กมธ.ยันไม่มีธงหั่น สส.บัญชีรายชื่อ

นายนิกร จำนง เลขานุการคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ เพื่อแก้ปัญหาความเห็นต่างในรัฐธรรมนูญ 2560 กล่าวถึงกระแสข่าวการแก้ไขกติกาเลือกตั้งให้มีเฉพาะ สส.เขต ว่า เป็นประเด็นที่มโนไปเอง ไม่มีที่มาที่ไป ในฐานะที่ทำงานในส่วนของรัฐบาล เรื่องนี้ไม่มีการตั้งธงไว้ การออกแบบกติกาเลือกตั้งให้เป็นแบบใดขึ้นอยู่กับสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) หลังจากการทำประชามติ เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ การออกแบบให้มี สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นความลงตัวในระบบการเมืองไทย ที่มาการออกแบบให้ สส.มาจาก 2 ระบบ เกิดจาก ส.ส.ร.ชุดที่มาจากการเลือกของประชาชนในรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นการออกแบบจากประชาชน ไม่มีฝ่ายการเมืองแทรกแซงหรือตั้งธงไว้

เชื่อ รบ.ไม่รับลูกรื้อ รธน.รายมาตรา

นายนิกรกล่าวว่า เชื่อว่าฝั่งรัฐบาลจะไม่รับลูกไปเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากธงขณะนี้เดินไปในแนวทางการออกเสียงประชามติ ให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ หากคิดจะแก้เป็นรายมาตรา ไม่จำเป็นต้องมี ส.ส.ร. แม้ในกระบวนการรัฐสภาจะเสนอแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราได้ แต่เชื่อว่ารัฐบาลไม่ทำ เพราะมีนโยบายทำประชามติให้มี ส.ส.ร.จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ การออกแบบกติกาใดๆขึ้นอยู่กับส.ส.ร.จะพิจารณา ใครจะเสนอ เพราะนโยบายนี้ เพราะรัฐบาลจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยหรือฝ่ายค้านจะเสนอเองหรือไม่

“เจ๊หน่อย” จี้ผู้นำให้สัญญาประชาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.00 น. เฟซบุ๊กพรรค ทสท. เผยแพร่ข้อความลงชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท. เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิก สส.บัญชีรายชื่อ มีเนื้อหาสรุปว่า “โละ หรือลด Party List” จะจริงเท็จ เลอะเทอะหรือไม่? นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และพรรคเพื่อไทยต้องเป็นผู้ยืนยัน “เป็นสัญญาประชาคม” ต่อประชาชนว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อความได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางการเมืองเท่านั้น และต้องให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากประชาชนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ภายในเวลารวดเร็วโดยไม่ใช้เทคนิคการถ่วงเวลา ดิฉันอยากเห็นรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย อยู่บนพื้นฐานของการดูแลสิทธิและโอกาสของประชาชนอย่างทั่วถึงทัดเทียม รวมทั้งสามารถรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้มั่นคง ไม่ปล่อยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีวาระซ่อนเร้น แนวคิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดจำนวน หรือยกเลิก สส.ระบบบัญชีรายชื่อ เป็นเรื่องเท็จหรือเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องที่เลอะเทอะ อยู่ที่นายกฯต้องให้คำมั่นเป็นสัญญาประชาคมกับประชาชน

ย้อนตระบัดสัตย์ “เลอะเทอะ” กว่า

โพสต์ดังกล่าวระบุอีกว่า หลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก่อนเลือกตั้งพูดอย่าง หลังเลือกตั้งทำอีกอย่าง แล้วบอกว่าเป็น “เทคนิคการหาเสียง” ซึ่งทำให้ระบบการเมืองถูกมองว่า “เลอะเทอะที่สุด” ในยุคนี้ เคยบอกให้สัญญากับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับ 3 ป. เพราะรังเกียจเผด็จการ แต่เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลยอมตระบัดสัตย์บอกกับประชาชนว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันทันที แต่จนถึงวันนี้ปัญหาเหล่านี้กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย จึงขอถามนายเศรษฐาในฐานะหัวหน้ารัฐบาลว่า นโยบายเหล่านี้และอีกหลายนโยบายที่เคยพูดไว้ เป็นเพียงเทคนิคการหาเสียงใช่หรือไม่ ถ้าทำแน่นอนจะทำเมื่อไหร่ ตอบประชาชนให้ชัดเจนอย่าพูด “เลอะเทอะ”

นายกฯลุยงานท่องเที่ยว-ลงทุน

สำหรับความเคลื่อนไหวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 09.30 น. นายกฯเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ตามปกติ โดยไม่มีวาระงานอย่างเป็นทางการ ช่วงเช้ามีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ และ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าพบ ต่อมาเวลา 13.40 น. นายกฯโพสต์ภาพและข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า ภารกิจเช้าวันที่ 24 มิ.ย. เตรียมและติดตามงาน 2 เรื่อง เรื่องแรกเชิญ ททท.มาเตรียมแผนการท่องเที่ยวช่วง Q2-Q3 ที่เป็นช่วง low season ของไทย ได้ขอให้ ททท.เตรียม package สำหรับแต่ละประเทศที่มีศักยภาพเพื่อจะทำแผนการท่องเที่ยวราย segment ให้ตอบโจทย์ของแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอาระเบียหรือประเทศอื่นๆ เช่น รัสเซีย คาซัคสถาน อินเดีย ที่มีความต้องการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูง และมีความชอบเฉพาะที่แตกต่าง และได้พบนายมาร์คัส วอลเล็นเบิร์ก (Mr.Marcus Wallenberg) ประธานกลุ่มบริษัท SAAB SEB ที่เคยพบตอนห้วงประชุม World Economic Forum ที่ Davos มีนายพิชัยร่วมหารือ ติดตามประเด็นต่างๆที่เคยคุยไว้ เช่น การดึงดูดการลงทุนในไทย การเข้ามาตั้งโรงงานของ Astra Zeneca ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมแล้ว และบริษัทจะวางแผนพบกับนักลงทุนไทย เพื่อทำงานร่วมกันระหว่างการประชุม Davos ในปีหน้า

“ธรรมนัส” แจ้งงานคืบหน้า

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยหลังเข้าพบนายกฯว่า รายงานสรุปการดำเนินงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประจำสัปดาห์ โดยเฉพาะโครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ที่รับผิดชอบหลัก

ขอบคุณนายกฯไม่ปรับออก พปชร.

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับพรรค พปชร.ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ในส่วนของพรรค พปชร.ไม่ได้มีปัญหาอะไร เห็นได้จากการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 สมาชิกพรรค พปชร.ยังเหนียวแน่นและพร้อมเพรียง และได้ยืนยันนายกฯไปแล้วว่า พรรคไม่ได้มีปัญหาอะไร พร้อมได้ขอบคุณนายกฯที่ให้สัมภาษณ์สื่อว่าจะไม่มีการปรับพรรค พปชร.ออก ส่วนการรับประทานอาหารพรรคร่วมรัฐบาล คิวต่อไปพรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพ ได้เตรียมสถานที่ไว้แล้ว รอวันที่เหมาะสม ต้องดูภารกิจของนายกฯด้วย

“พิชัย” ปธ.กมธ.งบฯ 68 ก.ก.ไม่สังฆกรรม

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 นัดแรก เพื่อพิจารณาตั้งประธาน กมธ.และตำแหน่งต่างๆ พร้อมวางกรอบการประชุม โดยที่ประชุมมีมติตั้งนายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง เป็นประธาน กมธ. รองประธาน กมธ.18 คน อาทิ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เลขานุการ กมธ. 8 คน อาทิ นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย นายสุรเกียรติ เทียนทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โฆษก กมธ. 7 คน คือนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มี สส.พรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งใน กมธ.

ดันงบฯ 68 วาระ 2-3 เข้าสภาฯ ส.ค.

ภายหลังการประชุมนายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 กล่าวว่า การประชุมดำเนินไปด้วยดี หลังจากนี้จะตั้งคณะอนุกรรมาธิการชุดต่างๆ เพื่อพิจารณางบฯด้านต่างๆต่อไป คาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะเริ่มประชุมอนุ กมธ.ได้ เชื่อมั่นทุกอย่างจะดำเนินไปตามขั้นตอน และเสนอร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 เข้าสู่การประชุมสภาฯวาระ 2-3 ได้กลางเดือน ส.ค. ในฐานะประธาน กมธ. จะพยายามทำความเข้าใจงบฯที่ได้รับการจัดสรร และปรับปรุงต่อไป ส่วนงบฯโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีงบกลางอยู่ ยังมีเวลาพิจารณาว่า จะใช้อย่างไร ส่วนที่ฝ่ายค้านจะยื่นศาลปกครอง เพื่อยับยั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากผ่านวาระ 3 แล้วไม่ทราบ

ก.ก.ไม่ให้เหตุผลไม่รับตำแหน่ง กมธ.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะโฆษก กมธ.กล่าวว่า กรอบเวลาพิจารณา 105 วัน เริ่มนับตั้งแต่ 11 มิ.ย. ที่สภาฯได้รับเอกสารงบฯจนถึงวันที่ 23 ก.ย.67 จะพิจารณาเรียงลำดับตามภาพรวมในภาวะเศรษฐกิจประเทศและงบฯรายมาตรา เชื่อมั่นจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนงบฯของประเทศอย่างราบรื่น ส่วนที่พรรค ก.ก.ไม่รับตำแหน่ง กมธ.ใดๆ พรรค ก.ก.ไม่ให้เหตุผลการไม่รับตำแหน่งใน กมธ.และที่ประชุมไม่ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาพรรค ก.ก.แสดงเจตจำนงมาตลอดไม่ประสงค์รับตำแหน่งใน กมธ. แต่ไม่ส่งผลต่อการทำงาน กมธ.ทำหน้าที่ได้เต็มที่อยู่แล้ว

ปชป.ชวน ปชช.ให้ข้อมูลร่วมพิจารณา

นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะโฆษกคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 กล่าวว่า นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และนายวุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลราชธานี เป็นรองประธาน กมธ.สัดส่วนพรรค ปชป. และให้ทำหน้าที่โฆษก กมธ.วิสามัญชุดนี้ หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลใดเพิ่มเติมส่งให้ กมธ. และส่งถึงพรรค ปชป.ได้ กมธ.ของพรรค ปชป.จะนำไปเสนอในที่ประชุมเพื่อประกอบการพิจารณา และหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังเสียงสะท้อนต่างๆเหล่านี้ด้วย

“เทพไท” แฉ กมธ.งบฯนักตบทรัพย์

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)โพสต์เฟซบุ๊กในหัวเรื่อง “กมธ.งบประมาณ แหล่งหาประโยชน์ ของนักตบทรัพย์” พร้อมคลิปใจความว่า เห็นรายชื่ออาจารย์วีระ ธีรภัทรานนท์ เป็น กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 2568 ในโควตาของพรรคก้าวไกลแล้วแปลกใจ ไม่คิดว่านายวีระจะถูกเสนอชื่อโดยพรรคก้าวไกล เพราะเป็นนักวิชาการและสื่อมวลชนอิสระ ที่รอบรู้เรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมเป็นอย่างดีคนหนึ่ง ต้องขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ใจกว้างสร้างวัฒนธรรมใหม่ ให้คนนอกไม่มีผลประโยชน์ใดๆเข้ามาจัดสรรงบฯเพราะทุกยุคทุกสมัยจะมีคนกลุ่มหน้าเดิมๆผูกขาดเป็น กมธ. เรียกตามประสาชาวบ้านว่า เข้าไปทำมาหากินตบทรัพย์ ล็อบบี้ วิ่งเต้นโครงการ เป็นตัวแทนผู้รับเหมา หางบสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ต้องให้อาจารย์วีระเข้าไปเป็นรองประธาน กมธ. และเป็นประธานอนุ กมธ. ชุดใดชุดหนึ่งเพื่อพิสูจน์ความรู้ความสามารถ

“แสวง” มั่นใจได้ สว.ตามไทม์ไลน์

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมอบรมคณะกรรมการประจำสถานที่เลือก (กปล.) สว.ระดับประเทศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยประจำสถานที่คัดเลือก สว.และผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ในการปฏิบัติงาน การคัดเลือก สว.ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย. ที่อาคารศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรัม อาคาร 4 เมืองทองธานี โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวภายหลังมอบนโยบายว่า วันที่ 26 มิ.ย.นี้ กปล.จะใช้ส่วนผสมระหว่างส่วนกลางกับจังหวัด ด้วยประสบการณ์ของ กกต.การเลือก สว.จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อถามว่า ยังมีข้อกังวลเรื่องการใช้ช่องว่างทางกฎหมายในการล้มการคัดเลือก สว.หรือไม่ นายแสวงตอบว่า ไม่ได้กังวล แต่ในฐานะผู้ที่รับผิดชอบกระบวนการเลือก ต้องรักษาเป้าหมายให้ได้ สว.ครบ 200 คน ตามไทม์ไลน์กำหนด ถ้ากระบวนการมีปัญหาอาจมีคนนำไปร้องให้เป็นโมฆะ ต้องพยายามปิดช่องว่างเหล่านี้

เผยกระทำผิด ก.ม.น้อย 333 เรื่อง

นายแสวงกล่าวว่า สำหรับเรื่องความผิดที่เกิดขึ้นมีอยู่ 3 กลุ่ม รวม 333 เรื่อง ซึ่ง 200 เรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติ และการลงผิดกลุ่ม รู้อยู่แล้วว่า ตัวเองไม่มีสิทธิสมัคร ทางศาลฎีกา และ กกต.วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว กลุ่มที่ 2 การดำเนินการในวันเลือกทั้งในระดับอำเภอและระดับจังหวัด มีอยู่ 39 เรื่อง กกต.ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกลำดับถัดไป กลุ่มที่ 3 การเลือกที่ไม่สุจริตมีประมาณ 90 เรื่อง ต้องใช้เวลาพิจารณา แต่คิดว่าจากทั้งหมดยังถือว่าน้อยถ้าเทียบกับจำนวนผู้สมัครทั้งประเทศที่มีกว่า 4 หมื่นคน

จับตาขบวนการทุจริต 4 รูปแบบ

นายแสวงยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่ กกต.พบความเคลื่อนไหวการทุจริตเลือก สว. 4 รูปแบบ ว่า เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอย่างที่เราเคยได้ยิน White Collar Crime หรืออาชญากรรมคอปกขาว คือผู้กระทำเป็นผู้ที่มีความรู้ มีอำนาจ มีทุน ยิ่งถ้าเป็นการเมืองจะมีเครือข่ายผู้สนับสนุนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองอยู่แล้ว ข้อมูลที่รับมามีทั้งเป็นเบาะแส เรื่องเล่า เรื่องคนนำมาร้อง อย่างเรื่องรับจ้างหรือจ้างคนลงมาสมัคร ให้เงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเป็นความผิดทั้งนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงแรกๆ สำนักงาน กกต.ได้ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจทำงานร่วมกันเข้าไปดูใน 2-3 วันนี้ว่าจะป้องกันป้องปราม หรือจับกุมได้อย่างไร อย่างกรณีที่มีข่าวเปิดโรงแรมจองห้องพักเพื่อล็อบบี้กันนั้น โรงแรมใกล้สถานที่เลือก สว.มีไม่เยอะ เราตรวจสอบพบว่ามีผู้สมัครมาจองห้องเต็มหมด เพราะสะดวกต่อการเดินทาง แต่จะมีอะไรมากกว่านั้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่สำนักงาน กกต.ไปดูแล อยากฝากไปยังผู้สมัครว่า ต้องไปรับผิดชอบประเทศชาติ อยากให้เคารพกฎหมาย

ย้ำฝ่ายการเมืองห้ามจุ้นผิด ก.ม.

เมื่อถามว่า กรณีมีฝ่ายการเมืองเข้ามาสนับสนุนผู้สมัคร สว. นายแสวงตอบว่า กฎหมายห้ามนักการเมือง 2-3 เรื่อง คือ ห้ามช่วยให้ได้รับหรือเป็น สว.และผู้สมัครเองต้องไม่ให้ฝ่ายการเมืองช่วยให้ได้รับการเลือก ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้ง หรือให้ทรัพย์สิน แต่การเมืองบางที่เป็นเรื่องของการสมยอมสมประโยชน์กัน ทำให้ กกต.ทำงานยากขึ้นในการที่จะเข้าไปจับกุม แต่มีในบางส่วนที่เป็นเรื่องที่ กกต.หาเองให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อมีการกล่าวหาว่ามีการให้ทรัพย์สิน แลกตำแหน่ง เช่น มาอยู่ทีมเดียวกันถ้าได้เป็น สว.จะให้มาเป็นผู้ช่วยหรือนั่งเป็นกรรมาธิการ แต่กฎหมายได้ออกแบบไว้หมดแล้ว ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อไทม์ไลน์แน่นอน

“อิทธิพร” ติวเข้ม จนท.ขานคะแนน

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.กล่าวระหว่างเข้าร่วมสังเกตการณ์การอบรมฯว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด การขานคะแนนต้องขานอย่างช้าๆและชัดๆ คนขีดต้องทวนให้ตรงกัน เพื่อเป็นการตรวจทานซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผู้สมัครคนอื่นที่อยู่ในกลุ่มก็จะช่วยเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่ได้ในอนาคตหากเกิดข้อร้องเรียน

สั่งเช็กผู้สมัครพักโรงแรมเดียวกัน

ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวผู้สมัครพักในโรงแรมเดียวกันจำนวนมากว่า เป็นเรื่องที่ไม่ปกติและปกติ เพราะการเลือกระดับประเทศใช้สถานที่อิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี เพียงที่เดียว แต่ไม่ได้หมายความว่า เจตนามารวมกลุ่มกัน เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ กกต.ตระหนักในประเด็นนี้ตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ และจังหวัดว่า หากไปรวมตัวที่ไหนให้มีการตั้งข้อสงสัย กกต. สั่งให้จับตาดูตั้งแต่การเลือกตั้งระดับอำเภอแล้ว และให้สายข่าวติดตาม หากมีพยานหลักฐานชัดเจนนำไปสู่การจับกุม กกต.ทำทันที ประชาชนมีพยานหลักฐานมาแจ้งเบาะแส กกต.ได้ ผู้สมัครมาเป็นตัวแทนประชาชน ต้องมีเกียรติและศักดิ์ศรี ควรยึดมั่นปฏิบัติตามกฎหมาย

“เชาว์” สิ้นหวังเลขาฯ กกต.ขี้กลัว

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวเรื่อง “เลือก สว.ซับซ้อนซ่อน “ฮั้ว” VS กกต.ขี้กลัว” ว่า เห็นข่าวนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เปิดข้อมูลเรื่องร้องเรียน สว. ยอมรับจับคนโกงไม่ง่าย เพราะคนทำมีทั้งอำนาจและเงินแล้ว “สิ้นหวัง” กับการทำงานของ กกต. ไม่เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน มีแต่คำถามมากมายถึงประสิทธิภาพในการจับโกงตั้งแต่การเลือกตั้ง สส.ปี 2566 มาถึงการเลือกตั้ง สว.ที่ยอมรับกันทั่วประเทศแล้วว่า เป็นระบบที่ซับซ้อนซ่อนฮั้ว ขณะที่เลขาฯ กกต.ยังสะท้อนมุมมองขี้กลัวที่ไม่น่าจะออกจากปากคนทำงานองค์กรอิสระ คนธรรมดาพูดได้ แต่คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบพูดไม่ได้ ไม่ว่ามีเงินแค่ไหนครองอำนาจล้นฟ้าอย่างไร ต้องลากมาลงโทษให้ได้ จึงจะเป็นทัศนคติที่ถูกต้อง ทำนายว่าเราจะได้ สว.ฮั้วพร้อมซูเอี๋ยการเมือง ตบหน้าคนออกแบบกลไกนี้ได้ผลลัพธ์แบบหัวมังกุท้ายมังกรท่าดีทีเหลว สิ่งที่ต้องจับตาใกล้ชิดคือการกินรวบทั้งสภาล่างและสภาสูง ที่เคยเกิดขึ้นในยุคทักษิณ ที่มีแนวโน้มกลับมารุนแรงอีกครั้ง

ร้อง ป.ป.ช.สอบบัญชีทรัพย์สินนายกฯ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์อีเอ็มเอส เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 114 วรรคหนึ่งหรือไม่ เนื่องจากกรณีนายกฯยื่นบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติม 2 รายการ มีเหตุควรสงสัยว่าเหตุใดตัวเลขบัญชีทรัพย์สินไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงมียอดรวมรายการทรัพย์สินเท่าเดิมคือ 659,391,610 บาท ทั้งที่ควรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมียอดบัญชีทรัพย์สินเพิ่มเติม 2 รายการคือ รายการโทเคนดิจิทัลชื่อ SiriHubA 310 หน่วย มูลค่า 2,907 บาท และเงินอีก 197,048 บาท ควรมีทรัพย์สินเพิ่มอีก 199,956 บาท อีกทั้งประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี ไม่มีการระบุข้อมูลในปี 2565 และปี 2566 ที่นายเศรษฐาดำรงตำแหน่งใน บมจ.แสนสิริ ไว้ด้วย

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...