“ไผ่ ลิกค์” สส.กำแพงเพชร 3 สมัย ได้เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในโผ ครม.เศรษฐา 1 จากโควตาพรรคพลังประชารัฐ แต่กลับหลุดโผในวินาทีสุดท้ายอย่างน่าเสียดาย
ภายหลังมีพระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ใน ครม.เศรษฐา 1 โดยผลการแต่งตั้งมีรายชื่อ 2 คนที่หลุดจากโผ หนึ่งในนั้นคือ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ จากเดิมที่ถูกวางตัวเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่เมื่อมีประกาศในราชกิจจานุเบกษาออกมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ย. 2566 กลับไม่พบชื่อของนายไผ่ ในรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย
“ไผ่ ลิกค์” ลูกชาย “เรืองวิทย์” แห่งเมืองกำแพงเพชร เจ้าของฉายา “ไผ่ วันพอยท์”
สำหรับนายไผ่ ลิกค์ เป็นบุตรของนายเรืองวิทย์ ลิกค์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กับนางปราณี โชติรัชต์กุล เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2521 ปัจจุบันอายุ 45 ปี มีน้องชาย คือ นายภูผา ลิกค์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม หลังเรียบจบได้มาสานต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว และขยายธุรกิจมายังแวดวงรถยนต์และเต็นท์รถมือสอง ชอบการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ จนได้ฉายา “ไผ่ วันพอยท์”
...
เส้นทางสู่ชีวิตทางการเมือง
หลังจาก นายเรืองวิทย์ ลิกค์ บิดา ได้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ตามคำวินิจฉัยในคดียุบพรรคไทยรักไทย เนื่องจากอยู่ในกลุ่มบ้านเลขที่ 111 ที่นั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค จึงผลักดันให้ นายไผ่ ลงเล่นการเมืองแทน โดยประเดิมสนามครั้งแรกในสังกัดพรรคพลังประชาชน เมื่อปี 2550 แต่สอบตกไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2554 นายไผ่ ลิกค์ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย เอาชนะนายสุขวิชชาญ มุสิกุล จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้สำเร็จ จนได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งโฆษกคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร
ในปี 2561 ได้ตัดสินใจย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากมีความสนิทสนมกับ สส.โซนภาคเหนือ อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ต้องการรวม สส.เกรดเอ จากทั่วประเทศ มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ บิ๊กป้อม คอยเป็นผู้ดูแลพรรค ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 นายไผ่ ลิกค์ ก็ได้รับการเลือกตั้งให้เป็น สส.สมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
แต่เนื่องจากก๊กและเหล่าภายในพรรคพลังประชารัฐมีหลายกลุ่ม ทำให้เกิดการต่อรองทางการเมืองค่อนข้างสูง จนเกือบล้มโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ประยุทธ์ เกิดขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐ พร้อมเกิดกระแสแจกกล้วยแลกโหวต และมีกระแสค่อนข้างรุนแรงอ้างว่า ร.อ.ธรรมนัส อยู่เบื้องหลังดีลล้ม “บิ๊กตู่”
ต่อมาวันที่ 19 ม.ค. 2565 พรรคพลังประชารัฐ มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค พร้อม สส. รวม 21 คน ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยหนึ่งในนั้นคือนายไผ่ ลิกค์ เนื่องจากมีเหตุผลเชื่อว่า สร้างความขัดแย้งและแตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐ มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปตั้งพรรคใหม่ ชื่อว่า “พรรคเศรษฐกิจไทย” โดยดึงนายไผ่ ลิกค์ ย้ายสังกัดไปอยู่ด้วย
แต่เมื่อเลือกตั้งปี 2566 ร.อ.ธรรมนัส ได้พา สส.ในสังกัด รวมถึงนายไผ่ ลิกค์ ย้ายเข้ากลับพรรคพลังประชารัฐ มาอยู่ใต้อาณัติ “บิ๊กป้อม” ตามเดิม และนายไผ่ ลิกค์ ก็ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งเป็นสมัยที่ 3
ทำให้นายไผ่ ลิกค์ ขยับเข้ามาเป็น สส.เกรดเอ มีผลงานด้านการเมือง จนได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ วางตัวให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่แล้วก่อนวันนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ กลับมีกระแสข่าวว่า มี 2 รายชื่อ อาจชวดเก้าอี้รัฐมนตรีเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หนึ่งในนั้น คือ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ถูกว่าตัวเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายไผ่ ลิกค์ ที่ถูกวางตัวเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม นายไผ่ ลิกค์ เคยตกเป็นข่าวดัง เรื่องที่มารถลัมโบร์กินี อะเวนตาโดร์ คันต้องสงสัย ที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เรียกเข้าตรวจสอบ แต่นายไผ่ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนการพลาดเก้าอี้รัฐมนตรีครั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุอะไร
