ดีอี-ดีป้าประกาศผลสำเร็จสมาร์ทซิตี้ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางศก.กว่า 200 ล้านบาท

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวถึงผลความสำเร็จโครงการ DIGITAL INFINITY: SMART LIVING ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ว่าจากการสร้างเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีเครือข่ายพันธมิตร อาทิ นายกเทศมนตรี คณะผู้บริหาร และผู้แทนเมืองจาก 11 พื้นที่ 10 จังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดนนทบุรี ราชบุรี อ่างทอง ปราจีนบุรี นครราชสีมา มหาสารคาม ตรัง ชลบุรี เชียงราย และกรุงเทพฯ 

โดย ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงดีอี โดย ดีป้า มุ่งส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่รัฐบาลวางรากฐานไว้ และเลือกประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่เหมาะสมกับบริบทของตนเอง

ผ่านแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ (Human Capital) เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ สู่เมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ทซิตี้ 

ด้านนายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการดีป้า กล่าวว่า ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ระดับท้องถิ่นใน 11 พื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ก่อนกระจายการพัฒนาสู่พื้นที่ใกล้เคียง และนำไปสู่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศอย่างยั่งยืนด้านเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) ยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม โดยการส่งเสริมการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชัน 'ฟ้าฝน' ซึ่งทำหน้าที่พยากรณ์อากาศและเชื่อมโยงข้อมูลสภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดสภาพอากาศอัจฉริยะแบบ All-in-one ในชื่อ FAHFON SENSE ที่สามารถวัดค่าได้ถึง 17 ตัวแปรจาก Smart Pole เพียง 1 ต้น ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผน ดูแล จัดการกระบวนการผลิตและเพาะปลูก รักษาคุณภาพผลผลิต และเพิ่มรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยโครงการดังกล่าวสร้างสถานีตรวจวัดสภาพอากาศใน 5 จังหวัด ประกอบด้วยเทศบาลตำบลพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เทศบาลตำบลแม่ลาว จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนตำบลนาชุมเห็ด จังหวัดตรัง องค์การบริหารส่วนตำบลหัวหว้า จังหวัดปราจีนบุรี และ เทศบาลตำบลเมืองบางแพ จังหวัดราชบุรี รวม 250 พิกัด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 250 ตารางกิโลเมตร และส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาทักษะการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแล้วกว่า 1,000 ราย

ขณะที่การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นด้านธุรกิจอาหารใน 7 พื้นที่ ได้แก่ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ เทศบาลเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เทศบาลตำบลหัวทะเล จังหวัดนครราชสีมา เทศบาลตำบลสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เทศบาลเมืองบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลหัวหว้า จังหวัดปราจีนบุรี เทศบาลตำบลบางแพ จังหวัดราชบุรี และ เทศบาลตำบลโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ด้วยการยกระดับผู้ประกอบการท้องถิ่นเข้าสู่แพลตฟอร์มรับ-ส่งอาหารสัญชาติไทยในชื่อ eatsHUB เพื่อยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นเข้าสู่ระบบออนไลน์ เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้า และเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 1,000 ราย

ด้านการดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน รองรับสังคมผู้สูงวัยด้วยเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ Smart Health ที่เฝ้าระวังเรื่องสุขภาพและการวางแผนติดตามดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดใน 2 พื้นที่คือ เทศบาลตำบลหัวทะเล จังหวัดนครราชสีมา และ เทศบาลเมืองบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี ดำเนินการร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) บุคลากรทางการแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการนำอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสุขภาพมาประยุกต์ใช้บันทึก จัดเก็บ เชื่อมโยง และตรวจสอบข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิงกว่า 420 ราย สามารถนำข้อมูลประกอบการอ้างอิงเบื้องต้นด้านสุขภาพ ขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อวิเคราะห์โรคได้ง่ายขึ้น และติดตามดูแลได้อย่างใกล้ชิด รวดเร็ว แม่นยำ และทั่วถึงยิ่งขึ้น

ด้านการบริการภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) ติดตั้งเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการสื่อสาร โดยการสนับสนุนป้ายประชาสัมพันธ์อิเล็กทรอนิกส์ใน 2 พื้นที่ คือ เทศบาลตำบลบางแพ จังหวัดราชบุรี และ องค์การบริหารส่วนตำบลหัวหว้า จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและบริการภาครัฐ  เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐ การประชาสัมพันธ์ การแจ้งเตือนภัย และบริการอื่น ๆ แก่ประชาชนกว่า 6 แสนคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"โครงการ DIGITAL INFINITY: SMART LIVING สร้างเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้เกิดการส่งเสริมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 200 ล้านบาท อีกทั้งเป็นการสร้างพื้นที่ต้นแบบด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะระดับท้องถิ่น และเตรียมพร้อมขยายผลไปสู่การขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป" ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ระเบิด ‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่าที่กลับมาได้รับความนิยมในวงการแพทย์

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ “โทรศัพท์มือถือ” จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโล...

เปิดเหตุผล 'ไปรษณีย์ไทย' ทำไมโดดร่วมสมรภูมิ 'เวอร์ชวลแบงก์'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.) เป็นวันปิดรับคำขออนุญาตจัดตั้ง ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (เวอร์ชวลแ...

แกะกล่อง 'iPhone 16' และ 'iPhone 16 Pro Max' ส่องจุดเด่น มีลูกเล่นอะไรใหม่

แกะกล่องเป็นกลุ่มแรกๆ กับ iPhone 16 และ iPhone 16 Pro Max ที่วันนี้ KT Review จะพาไปดูว่าหนึ่งรุ่นเร...

‘ไมโครซอฟท์ - กูเกิล’ มอง ‘Digital Trust’ วาระท้าทาย ชีวิตบนโลกดิจิทัล

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) จัดงาน “60 Years OF EXCELLENCE” ฉลองครบรอบ 60 ปี เชิญผู้นำจา...