แบงก์ชาติสวิส 'ลดดอกเบี้ย' เซอร์ไพรส์ตลาด ฉุดค่าเงินร่วงหนักสุดรอบ 8 เดือน

ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% ในการประชุมวันนี้ (21 มี.ค.) ซึ่งเป็นการดำเนินการที่เหนือการคาดการณ์ของบรรดานักวิเคราะห์ และทำให้กลายเป็นธนาคารกลางรายใหญ่แห่งแรกของโลก ที่ยุติการใช้นโยบายการเงินเชิงคุมเข้มเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การตัดสินใจครั้งนี้นับเป็นการตัดสินใจครั้งแรกนับตั้งแต่ โทมัส จอร์แดน ประธานธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือน ก.ย.ปีนี้ และยังนับเป็นการ "ลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี" ของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ด้วย

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในผลสำรวจความเห็นของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จะมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 1.75% ในการประชุมวันนี้ 

ผลของการลดดอกเบี้ยแบบเหนือความคาดหมายครั้งนี้ส่งผลให้มูลค่าเงินฟรังก์สวิสร่วงลงอย่างหนักทันที โดยค่าเงินฟรังก์สวิสอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโร อยู่ที่ 0.978 ฟรังก์สวิส/ยูโร

นอกจากนี้ ยังอ่อนค่าลงถึง 0.9% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ อยู่ที่ 0.8948 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 4 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566

เอเชียสวนทาง 'ไต้หวัน' มีมติขึ้นดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตามในวันเดียวกัน ที่ประชุมธนาคารกลางไต้หวันกลับมีมติ "ขึ้นอัตราดอกเบี้ย" โดยประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.125% ไปอยู่ที่ระดับ 2% 

การขึ้นดอกเบี้ยของไต้หวันในครั้งนี้ยังถือเป็นการ "เซอร์ไพรส์ตลาด" โดยวอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่า ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้ต่างคาดการณ์ตรงกันว่า แบงก์ชาติไต้หวันจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยต่อในการประชุมวันนี้  

ผลของที่ประชุมส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกูแบบมีหลักประกันเพิ่มขึ้นเป็น 2.375% และดอกเบี้ยเงินกู้แบบไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นเป็น 4.250%

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ