หอบคำวินิจฉัยศาล รธน.คดีล้มล้างปกครอง ยื่น กกต.ชงยุบ 'ก้าวไกล'

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ ในฐานะผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล โดยศาลวินิจฉัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำการล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เข้ายื่นสำเนาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 ฉบับเต็มที่รับรองโดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ต่อ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง

นายธีรยุทธ เปิดเผยว่า การยื่นสำเนาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็มให้กับ กกต. เพื่อต้องการให้ กกต.พิจารณายุบพรรคก้าวไกล ให้เป็นไปตามกรอบของระเบียบ กกต. ซึ่งเท่าที่ตนได้ทำการศึกษา มีการวางกรอบระยะเวลา การทำงานในแต่ละขั้นตอนเอาไว้อย่างชัดเจน รวมแล้วไม่น่าจะเกิน 90 วัน นับตั้งแต่ที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน ก็สามารถมีคำวินิจฉัยยื่นต่อศาลได้ และ กกต.ไม่จำเป็นที่จะต้องเชิญผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงอีก เพราะทั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลในขณะนั้น และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ตลอดจนฝ่ายความมั่นคง ได้ชี้แจงข้อมูลให้กับศาลรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วนแล้ว ในคำวินิจฉัยศาลยกเหตุการณ์ที่สมาชิกพรรคก้าวไกลปรากฏตัวทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเยาวชน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น

นายธีรยุทธ กล่าวว่า แต่ในกระบวนการพิจารณา ของศาลได้รับข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคง และศาลได้อนุญาตให้ตนได้เข้าไปอ่าน แต่ไม่สามารถทำการคัดถ่ายสำเนาออกมาได้ เพราะเป็นความลับชั้นความมั่นคงของประเทศ หากหลุดออกมาอาจจะเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปในทำนองไม่สุจริต ข้อมูลดังกล่าวพบว่ามีเหตุการณ์ความเชื่อมโยงที่มากกว่าที่ศาลอ่านและเผยแพร่ผ่านสาธารณะก็ตาม เชื่อว่า กกต.ในฐานะเป็นหน่วยงานตรวจสอบ สามารถไปขอข้อมูลหลักฐานเหล่านี้จากทางศาลได้ จึงไม่จำเป็นต้องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบอีก

นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 รวมถึงที่จะมีการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งขณะนี้ยังมีข้อถกเถียงว่าจะให้ผู้ที่เป็นจำเลยในคดีมาตรา 112 ได้รับอานิสงส์ด้วยหรือไม่ ซึ่งตนเห็นว่า มาตรา 112 ไม่ใช่คดีความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นคดีที่ศาลได้วางบรรทัดฐานเอาไว้แล้วว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ดังนั้นหากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมนี้ คนที่กระทำความผิดในคดีมาตรา 112 ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย ตนก็จะดำเนินการทุกช่องทางที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ ซึ่งขณะนี้ตนได้ติดตามการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในชั้นกรรมาธิการ เพื่อที่จะดูว่าใครมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร โดยเอาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาตรวจเทียบ

ส่วนกรณีแกนนำพรรคก้าวไกลแสดงความไม่กังวลว่า หากถูกยุบพรรคจากกรณีดังกล่าว เพราะมีความพร้อมที่จะไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น นายธีรยุทธ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่การดำเนินกิจการของพรรคก็ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงแก้ไข มาตรา 112 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ห้าม แต่ต้องเป็นไปโดยชอบและตามที่กฎหมายกำหนด อย่าใช้สิทธิเสรีภาพที่เกินขอบเขต ตนจะมีการติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...