“ธรรมนัส” ย้ำ ก.เกษตรฯ-ก.ยุติธรรม ไม่บาดหมาง พร้อมแจง หลัง สว.ขอเปิดซักฟอก ลั่น ปมขบวนการหมูเถื่อน ไม่ไว้หน้าใคร ขยับ ครม.สัญจรพะเยา ไปปลาย ก.พ. แง้ม มีแนวคิดจัด ครม.ชายแดนภาคใต้
เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 16 มกราคม 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการขยายผลกรณีนำเข้าหมูเถื่อน หลังส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการ ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ เพื่อขยายผลจับกุมผู้กระทำเพิ่มเติม
ทั้งนี้ หลังประกาศสงครามปราบหมูเถื่อน เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 อธิบดีกรมปศุสัตว์คนปัจจุบัน ก็เร่งกวาดล้างจนเกือบเป็นผู้ต้องหา จึงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่ที่ขอข้อมูลจากกระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร ให้นำไปใช้ อย่าไปใช้ข้อมูลจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้กลั่นกรองและนำมาผสมปะปนกัน อย่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาห้ำหั่นกันเหมือนในอดีตที่ดีเอสไอเคยถูกกล่าวหา เพราะกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงพี่น้อง ที่สำคัญ ตนได้รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการอย่างจริงจัง
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถเปิดเผยผู้กระทำผิดตัวจริงได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ต้องพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อน ขณะที่เมื่อถามถึงกรณีก่อนหน้านี้ระบุว่าดีเอสไอมีความล่าช้าในการดำเนินคดี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับ พ.ต.อ.ทวี และรักษาการอธิบดีดีเอสไอ ยืนยันว่าทั้ง 2 หน่วยงานไม่ได้เข้าใจผิด ไม่มีข้อบาดหมางกัน แต่บางเรื่องเจ้ากระทรวงทั้ง 2 ก็ต้องกำชับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของตัวเอง ส่วนตนต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับเกษตรกร เราเป็นผู้เริ่มต้นกวาดล้างและประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน หากเรื่องใดที่ล่าช้าต้องติดตามพูดคุยระดับเจ้ากระทรวงด้วยกัน และถ้ามีสิ่งใดทำลายภาคเกษตรต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ จะนิ่งเฉยไม่ได้ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตเกษตรกร โดยตน และ พ.ต.อ.ทวี พูดคุยกันทุกวัน เข้าใจกันดี หากพบว่าคนของกระทรวงเกษตรฯ ไปกระทำการที่ล้ำเส้นก็ต้องตักเตือน และในฐานะที่เป็นตัวแทนรัฐบาล จึงมีความชอบธรรมที่จะตักเตือนหน่วยงานของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดก็ตาม
...
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3 ที่ จ.พะเยา ว่า เดิมกำหนดเบื้องต้นจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2567 แต่ในวันดังกล่าวมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จึงต้องเลื่อนกำหนดการออกไป อาจจะเป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 5 มีนาคม 2567
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าการขยับวันประชุม ครม.สัญจร จะเกี่ยวข้องกับการที่นายกรัฐมนตรีจะลงไปพักค้างคืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า เรื่อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ เคยประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้ต้องไปฟื้นฟูภาคการเกษตรให้ประชาชน ขณะที่นายกรัฐมนตรีอยากลงไปดูพื้นที่เช่นกัน และอาจมีแนวคิดจัด ครม.สัญจร ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากการประชุม ครม.สัญจรที่ จ.พะเยา โดยหากนายกรัฐมนตรีลงไปที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนก็จะลงไปด้วย เพราะบ้านอยู่ที่ จ.นราธิวาส แม้ตนจะเกิดที่ จ.พะเยา แต่ไปโตที่ภาคใต้
ในเรื่องกรณีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เข้าชื่อเพื่อเสนอขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 153 ถือว่าเร็วไปหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า ต้องดูว่าจะขออภิปรายเรื่องใด และดูกรอบเวลาการดำรงตำแหน่งของ สว. ว่าเหลือกี่เดือนด้วย และยังไม่เห็นรายละเอียดว่าจะอภิปรายเรื่องอะไร หากจะอภิปรายถึงกระทรวงเกษตรฯ ต้องบอกว่าทำงานในฐานะรัฐมนตรีมา 4 เดือน ได้แก้ปัญหาและสร้างประโยชน์ให้เกษตรกรและประชาชน ทั้งเรื่องเร่งด่วนและการแก้ปัญหาปากท้อง การมอบที่ดิน ส.ป.ก. ออกเป็นโฉนดเพื่อการเกษตร โดยมีจากหลายพรรคมาร่วมงาน จึงไม่ต้องกลัวที่จะถูกอภิปราย และการฟังข้อมูลจากฝ่ายที่เห็นต่าง อย่ามองเป็นศัตรู แต่จะเป็นกระจกเงานำมาปรับปรุงการทำงานต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อถามว่าหาก สว. หยิบยกกรณีหมูเถื่อนมาอภิปรายจะส่งผลกระทบหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ แต่ย้ำว่าเราประกาศสงครามกับหมูเถื่อน และใครที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับตนหรือไม่ จะไม่ไว้หน้าทั้งนั้น เพราะถือว่าทำลายวงจรภาคการเกษตร หากไปยกเว้นหรือเกื้อกูล ปกป้องคนทำผิด เรื่องดังกล่าวคงอยู่ในตำแหน่งตรงนี้ไม่ได้.
