“นฤมล” เป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU ขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มโอกาสทางการค้า สร้างรายได้เข้าประเทศ เผย มูลค่าการส่งออกกว่า 15,000 ล้านบาท
วันที่ 11 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เป็นสักขีพยานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ระหว่าง องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และ บริษัท เดอะลิส อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท หวา ฉี ซับพลาย เชน ยูนาน จำกัด (Huashi Supply Chain (Yunnan) Co.,Ltd) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรุงเทพมหานคร
ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า จากนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่มุ่งส่งเสริมช่วยเหลือเกษตรกร ในการเพิ่มโอกาสทางการค้า ส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการขยายตลาดสินค้าเกษตรในต่างประเทศ ตามนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล
...
นางนฤมล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) หาตลาดเพื่อรองรับผลผลิตทางการเกษตร โดยการส่งเสริมช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสร้างโอกาสในการจำหน่ายให้เกษตรกร ส่งเสริมให้สินค้าเกษตรไทยสามารถเข้าสู่ตลาดการค้าต่างประเทศได้มากขึ้น โดยได้ทำ MOU ร่วมกับ บริษัท เดอะลิส อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จะสนับสนุน ส่งเสริมการดำเนินการเกี่ยวกับการแสวงหาช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงจัดส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2567 บริษัทวางแผนจัดซื้อสินค้าเกษตรจากไทยมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท และมีแผนนำเข้าทุเรียนแช่แข็งจากไทยส่งไปจีน จำนวน 5,000 ตู้ โดยรัฐบาลหวังว่าตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นจะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
“พิธีลงนามภายใต้ความร่วมมือ การขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคนี้ มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงสนับสนุนและดำเนินการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค โดยการแสวงหาช่องทางการตลาด ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งศึกษาความเป็นไปได้และโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบความร่วมมือต่างๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น การให้บริการจัดหา จำหน่าย ขนส่งและขยายตลาดสินค้าเกษตรทั้งในและต่างประเทศผ่านการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ”