รัฐบาล ย้ำแก้ฝุ่น PM 2.5 จริงจัง ขู่สิ้นสิทธิ-ออกจากที่ดิน หากเผาในที่ปฏิรูปที่ดิน

รองโฆษกรัฐบาล “เกณิกา” ย้ำรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจังและยั่งยืนเพื่ออากาศสะอาด พร้อมเผยมติห้ามเกษตรกรเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน หากไม่ปฏิบัติ จะสิ้นสิทธิและต้องออกจากที่ดิน

วันที่ 10 ม.ค. 2567 น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยมติคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ห้ามเกษตรกรเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ขยะมูลฝอย หรือสิ่งของไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยหากได้รับหนังสือเตือนแล้วยังไม่ปฏิบัติ จะสิ้นสิทธิและต้องออกจากที่ดิน  

รองโฆษกฯ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญและเน้นย้ำถึงการจัดการกับปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่น PM 2.5 ที่ถือเป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จึงได้เห็นพ้องและมีมติกำหนดให้เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดิน ห้ามกำจัดวัสดุทางการเกษตร ฟางข้าว ตอซังข้าว ซังข้าวโพด หญ้า หรือขยะมูลฝอย หรือสิ่งอันไม่พึงประสงค์ใดๆ โดยการเผาอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพดิน หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่สิ่งก่อสร้างในโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือการทำประโยชน์ในที่ดินของเกษตรกรอื่น หรือสภาพแวดล้อม ถ้าเกษตรกรไม่ปฏิบัติตาม ให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดมีหนังสือเตือนให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด ถ้าเกษตรกรยังคงฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุอันสมควร เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หรือผู้ซึ่งเลขาธิการ ส.ป.ก. มอบหมายจะมีคำสั่งให้สิ้นสิทธิและต้องออกจากที่ดิน

โดย “รมว.ธรรมนัส” ตั้งเป้าหมายลดการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรมลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และพื้นที่อื่นๆ ลดลงร้อยละ 10 รวมทั้งมุ่งผลักดันหลักการ 3R แก่เกษตรกร Re-Habit ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม Replace with high value crops ปรับเปลี่ยนพืชบนพื้นที่สูงให้เป็นการปลูกพืชที่ปลอดการเผาและลดการบุกรุกป่า และ Replace with Alternate crops ปรับเปลี่ยนพืชบนพื้นราบ จากพื้นที่ไม่เหมาะสมปลูกข้าวปรับไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชให้เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ 

...

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจังและยั่งยืน เพื่อยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติ รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น อากาศสะอาด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินหน้าแก้ไข พูดคุยกับทุกฝ่ายทั้งในและนอกประเทศ มีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ปัญหามีความเข้มข้นมากขึ้น จึงได้สั่งการเร่งสื่อสารให้ประชาชนและเกษตรกรทราบและเข้าใจถึงการทำการเกษตรที่ต้องไม่มีการเผา รวมถึงให้เข้าใจถึงจุดกำเนิดของ PM 2.5 ที่จะส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ และสุขภาพของประชาชนด้วย” เกณิกา กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...