“ตรีชฎา” โฆษก สธ. เผย คิกออฟปฏิบัติการหลักประกันสุขภาพ 30 บาท อัปเดต 7 ม.ค. 2567 นี้ นโยบายบัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่ “เศรษฐา-ชลน่าน-แพทองธาร” เปิดงานหน้าหอโหวด 101 ที่ จ.ร้อยเอ็ด คนเข้าร่วม 10,101 คน
วันที่ 4 ม.ค. 2567 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า การเปิดโครงการ 30 บาท อัปเกรด ยกระดับปรับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการบริการประชาชนด้านสาธารณสุข ตามนโยบายบัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่ใน 4 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี นราธิวาส จะมีขึ้นวันที่ 7 มกราคมนี้ ขณะนี้มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ กำหนดการเปิดนโยบาย บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ ลานสาเกตนคร หน้าหอโหวต 101 ในฐานะจังหวัดนำร่องของภาคอีสาน ในช่วงเย็นเวลา 17.00-19.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และคณะ จะมาถึงบริเวณงาน
...
โดย นายเศรษฐา จะกล่าวเปิดงาน ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ บุคลากรสาธารณสุข ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น อสม. ชมรมผู้สูงอายุ และประชาชน จำนวน 10,101 คน
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 7 มกราคม นพ.ชลน่าน น.ส.แพทองธาร นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาล อำเภอจตุรพักตรพิมาน เพื่อรับทราบการดำเนินงานเกี่ยวกับประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล ใบสั่งยา ใบสั่งแล็บออนไลน์ การแพทย์ทางไกล การนัดหมายออนไลน์ การส่งยาและเวชภัณฑ์ที่บ้าน และระบบปลอดภัยทางไซเบอร์ ในช่วงบ่ายจะตรวจเยี่ยมในพื่นที่อำเภอเมือง เพื่อดูโรงพยาบาลจุรีเวช ร้านยาเภสัชกร เซ็นทรัลแล็บ 101 สหคลินิกบ้านคุณหมอ และโรงพยาบาลร้อยเอ็ด
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า นับถอยหลังจากนี้ไปเหลือเพียง 3 วัน สำหรับการเดินหน้านโยบาย บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่ จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการใน 4 จังหวัดนำร่อง เมื่อทุกอย่างเข้าที่ จะได้พิจารณาขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดอื่นๆ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารของกระทรวงสาธารณสุข การดำเนินการเช่นนี้เป็นไปตามนโยบายที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงและรัฐบาลแถลงเป็นนโยบายต่อรัฐสภา ถือเป็นสัญญาประชาคมในการนำสิ่งดีๆ เพื่อสุขภาพอนามัยของคนไทยทุกคน ต่อยอดจากโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค จากยุคพรรคไทยรักไทย สู่โครงการ 30 บาท อัปเกรด ยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศในยุคที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ยุคที่มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นเจ้ากระทรวงสาธารณสุข โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่เป็นรองประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ
“จากนี้ไปบัตรประชาชนของทุกคนจะมีคุณค่า มีความหมายต่อการตรวจรักษาสุขภาพร่างกายให้หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ถือเป็นการปฏิวัติการให้บริการตามนโยบายขับเคลื่อน ยกระดับโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค โดยโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก ร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ จะให้บริการประชาชนอย่างดี ประชาชนคนไทยต้องได้รับการรักษาพยาบาลที่เท่าเทียมถ้วนหน้า” น.ส.ตรีชฎา กล่าว...