โฆษกรัฐบาล เผยเตรียมจ้างงาน 2 แสนตำแหน่ง รองรับธุรกิจใหม่ใน EEC

วันนี้ (2 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือบอร์ด EEC ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม ได้เห็นชอบจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเงินระดับภูมิภาคในปี 2570 และ 1 ใน 10 เมืองน่าอยู่อัจฉริยะของโลกในปีพ.ศ. 2580 และประกาศให้พื้นที่พัฒนาระยะที่ 1 ขนาดพื้นที่ประมาณ 5,795 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 14,619 ไร่ ในตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษประเภทเพื่อกิจการพิเศษ มูลค่าการลงทุนประมาณ 534,985 ล้านบาท 

บอร์ด EEC ได้เน้นย้ำถึงการผลักดันให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่พัฒนาระยะที่ 1 ใน EEC เช่น พลังงานสะอาด ดิจิทัลและ 5G โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว การบริการตลาดการเงินในฐานะศูนย์กลางการเงิน EEC การแพทย์และสุขภาพสมัยใหม่ครบวงจร การพัฒนาบุคลากรและการศึกษาวิจัยระดับนานาชาติ ตามแนวคิดการสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ คน นวัตกรรม และเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีที่มีความน่าอยู่และปลอดภัย รวมถึงมีคุณภาพสิ่งแวดล้อมระดับสากล โดยจะรองรับให้มีผู้เข้าอยู่อาศัยจำนวนกว่า 350,000 คนจากทุกกลุ่มรายได้ และจะเป็นเมืองธุรกิจคู่กรุงเทพที่เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนกว่า 200,000 ตำแหน่ง ด้วยมูลค่าการจ้างงานกว่า 1.2 ล้านล้านบาท และกลุ่มสตาร์ตอัพ (Start-up) ในภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 150 – 300 กิจการ ซึ่งจะนำไปสู่การกระตุ้นให้ไทยเกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นเป็นมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ภายในระยะเวลา 10 ปี 

“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สนับสนุนการพัฒนาเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ด้วยพื้นฐานความคิดที่ต้องการสร้างต้นแบบสำหรับการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจ และสังคมให้ทันสมัย มีความน่าอยู่ระดับนานาชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการเชินชวน นักลงทุนให้ย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย และจะมีส่วนพัฒนาให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” นายชัย กล่าว

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ