“อี้ แทนคุณ” แฉ สส.ก้าวไกลเชียงใหม่ ถูกผู้ช่วยหาเสียงแจ้งความปลอมลายเซ็น-อมเงิน-ยื่นเอกสารเท็จให้ กกต. จี้ ออกมาสารภาพและลาออก ก่อนจะถูกเปิดโปงจนไม่มีที่ยืน
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ตนได้รับทราบข้อมูลจากแหล่งข่าว กล่าวอ้างว่า มี สส.ก้าวไกลจังหวัดเชียงใหม่ ปลอมลายเซ็นผู้อื่น และแจ้งยอดเงินไม่ตรงกับที่จ่าย มีบางรายไม่ได้รับเงินสักบาท แต่ถูกสวมสิทธิเซ็นชื่อรับเงิน ซ้ำร้ายนำส่งเอกสารปลอมยอดเงินเท็จ และการหลอกนำบัตรประชาชนของผู้เสียหายไปประกอบเอกสารเท็จ ยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่าย การลงสมัคร สส.ให้ กกต. โดยไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง เมื่อตนได้รับหลักฐาน คือ ใบแจ้งความที่ไปพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลและถูกปลอมลายเซ็น และนำสำเนาบัตรประชาชนไปแอบอ้างในการรับเงินค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง โดยได้มีการรับเงินเป็นจำนวน 13,490 บาท แต่กลับไม่ได้รับเงินเลยสักบาท และผู้เสียหายอีก 2 ราย ได้รับเงินมาเพียง 9,000 บาท ถูกทำเอกสารปลอมว่ารับเงินจำนวน 18,020 บาท โดยมีการนำบัตรประชาชนของผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ไปปลอมลายเซ็นแอบอ้างทำเอกสารเท็จ ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่
โดยตนได้โทรสอบถามรายละเอียดกับแหล่งข่าว ยืนยันเป็นเรื่องจริง โดย 1 ใน 3 กล่าวว่า “พวกตนทั้ง 3 คนที่รักพรรคก้าวไกลด้วยหัวใจ เพราะชื่นชอบแนวคิดและอุดมการณ์ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศ จึงทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ สนับสนุนช่วยเหลือ จนผู้สมัครได้เป็น สส.แทนเจ้าถิ่นเดิม แม้ว่าจะได้เงินค่าใช้จ่ายเพียงน้อยนิดเพราะต้องช่วยตั้งแต่ 6 โมงเช้ายันค่ำมืดทุกวัน ต้องออกค่าใช้จ่ายเองด้วย แต่กลับถูกนำบัตรประชาชนไปปลอมลายเซ็น และรับเงินสนับสนุนจากพรรคแทนพวกตน และไม่ได้ให้พวกตนตามจริง ซ้ำยังกล้าทำเอกสารปลอมส่งให้ กกต.อีก โดยตนมาทราบเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2566 และได้รวบรวมหลักฐานและความกล้าหาญ ปรึกษาหารือกันเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ สส.คนดังกล่าว และต้องการให้ข้อมูลกับ นายแทนคุณ เพราะอยากให้ช่วยเรื่องความเป็นธรรมกับพวกตน ที่ทุ่มเทให้ สส.ก้าวไกลจนได้รับชัยชนะ นอกจากนี้ สส.คนนี้ยังเคยรับปากว่าจะให้ดูแลพื้นที่ โดยแบ่งงานและแต่งตั้งให้ดูแลคนละเขต แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตกลง และมีการตั้งคนอื่นเพื่อนำเงินผู้ช่วยไปใช้เองอีกด้วย โดยไม่คิดว่า สส.คนดังกล่าวจะทำกับพวกตนที่รักและภักดีแบบนี้”
...
ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้นำเอกสารการแจ้งความไปยื่นกับ กกต.แล้วด้วย จึงขอเรียกร้องสำนึกจาก สส.ก้าวไกล ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ออกมาสารภาพและลาออก ก่อนจะถูกเปิดโปงจนไม่มีที่ยืนต่อไป.