"สมศักดิ์" นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ เข้มตัวชี้วัดจากนี้ต้องทำให้คนหายจน-ไม่มีหนี้ ทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข ชี้กองทุนหมู่บ้านคนชอบตั้งแต่สมัย "นายกฯทักษิณ" เล็งสร้างอาชีพ-เลี้ยงวัว ดันเจรจาให้จีนซื้อ สั่งศึกษาแอปของกองทุนฯใช้ขึ้นทะเบียนซอฟต์พาวเวอร์ได้หรือไม่
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยมี นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯ เข้าร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานกรรมการ พร้อมขอบคุณคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านฯทุกท่าน ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนงานจากนี้ โดยกองทุนหมู่บ้านนี้ ได้ตั้งมาหลายปีแล้ว ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชน ชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะในสมัยอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ได้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการให้เงินกู้ยืม หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ดังนั้น จากนี้ เราจะทำให้ละเอียดมากขึ้น โดยจากที่ประชาชนเป็นหนี้ จะไม่เป็นหนี้อีก เพราะเราจะทำให้เงินลงทุน สามารถสร้างกำไรให้กับประชาชนได้
...
"ตัวชี้วัดกองทุนหมู่บ้านฯจากนี้ คือ จะทำอย่างไรให้คนหายจน โดยจะต้องใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพให้มีดอกผลและอยู่ดีมีสุข ซึ่งผมคิดว่าควรเอาแนวนโยบายดั้งเดิมมาสานต่อ คือ ทำให้ประชาชนมีความสุข พร้อมช่วยลดความเหลื่อมล้ำ โดยแนวนโยบายที่จะเดินต่อไป เราต้องยึดว่าจะลดหนี้สินได้เท่าไหร่ เพราะผมอยากให้คนหลุดพ้นจากความยากจน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนได้รับมอบหมายเกี่ยวกับซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งต้องทำเรื่องขึ้นทะเบียนคนที่สนใจเข้ามา ตนจึงขอมอบหมายให้กองทุนหมู่บ้านฯไปศึกษารายละเอียดว่า จะสามารถใช้แอปพลิเคชัน ที่มีอยู่ของกองทุนหมู่บ้านได้หรือไม่ ซึ่งถ้าสามารถทำได้ ก็จะทำให้สามารถช่วยเกษตรกรได้ด้วย เพราะรัฐบาล ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีงานทำถึง 20 ล้านตำแหน่ง โดยทางกองทุนหมู่บ้านฯได้รับไปศึกษาในรายละเอียดแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนอยากผลักดันการสร้างอาชีพต่อ เพราะตัวอย่างผู้เข้าร่วมโครงการที่ จ.สุโขทัย แรกเริ่มกู้เงินไปจำนวน 3 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันสามารถมีวัวแล้วถึง 9 ตัว ทำให้สามารถใช้หนี้และเลี้ยงดูครอบครัวได้ โดยทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ตนจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะสามารถช่วยเกษตรกรแก้หนี้สินได้ ส่วนในอนาคตนั้นตนจะฝากให้รัฐบาลไปเจรจากับจีน เพื่อซื้อวัวจากเรา ซึ่งจะทำให้วัวมีราคาแพงขึ้นทันที โดยตนเชื่อมั่นว่าถ้าเราตั้งใจจริง ก็จะสามารถช่วยเกษตรกรแก้หนี้สินได้