หุ้นไทยวันนี้ 20 ก.ย. ปิดตลาดเย็น ลบ 15.06 จุด กังวล ‘บอนด์ยีลด์’ 10 ปี พุ่ง กดดันต้นทุนเอกชน

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” วันนี้ (20 ก.ย.66) ปิดตลาดอยู่ที่ 1,507.90 จุด ลบ 15.06 จุด หรือ 0.99% โดย ดัชนีตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงทั้งวัน ซึ่งดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,503.33 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,521.66  จุด มูลค่าซื้อขาย 54,301.16 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

  1. BDMS  มูลค่า 3,338.23 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.95%
  2. PTT มูลค่า 2,817.75 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 33.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.21%
  3. CPALL  มูลค่า 2,424.31  ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 60.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.41%
  4. AOT มูลค่า 2,326.56 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 69.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.71%
  5. PTTEP มูลค่า 2,292.03 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 165.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ 2.07%

นายสุนทร ทองทิพย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ชนิด 10 ปี ปรับตัวขึ้นจากช่วงต้นปี 0.6% มาอยู่ประมาณ 3.17% ประกอบกับรัฐบาลประกาศแผนขาดดุลเพิ่มเติมแสนล้านบาท  รวมทั้งปรับอุปทานขายพันธบัตรจากเดิม 1.1 ล้านล้านบาทไปเป็น 1.25 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นพันธบัตรออกใหม่ 7-7.5 แสนล้านบาท

ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ต้นทุนการออกหุ้นกู้ของบรรดาบริษัทเอกชนเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนจึงเทขายหุ้นที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) สูง

สำหรับแนวโน้มของวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) มีโอกาสเป็นไปได้ 2 ทางคือ หากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีท่าทีคงหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงก็จะทำให้ตลาดมีมุมมองในแง่ลบโดยอาจปรับตัวลงไปอีกครึ่งหนึ่งของที่ปรับตัวลงในวันนี้ แต่ถ้าคืนนี้เฟดมีท่าทีในเชิงผ่อนคลายมากขึ้น ก็จะทำให้ตลาดมองในแง่บวก และส่วนที่ปรับตัวลงไปวันนี้ก็จะขึ้นมาอยู่จุดเดิม

ขณะที่ปัจจัยในประเทศไทยที่ต้องจับตา และอาจกระทบกับตลาดหุ้นไทยในอนาคตคือ ข่าวเรื่องความขัดแย้งระหว่างนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะอาจกระทบกับความร่วมมือเรื่องการทำนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ทั้งนี้ สำหรับประเด็นเรื่องการขาดดุลงบประมาณปีหน้าของรัฐบาล นายสุนทร กล่าวว่า ตลาดอาจมองในแง่ร้ายมากเกินไปเพราะหากรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปด้วยดี อาจทำให้มีเม็ดเงินเข้ามามากขึ้น ประกอบกับอาจจะมีการเก็บภาษีทางอื่นเพิ่ม ทั้งหมดก็อาจจะทำให้การขาดดุลน้อยลง

ส่วนแนวโน้มดัชนีฯ วันพรุ่งนี้มองว่าอาจเเกว่งในแนวรับกรอบ 1,500 จุด - 1,490 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,540 จุด โดยในระยะสั้นหากสถานการณ์แย่ลง แนะนำเก็บ BH ITC และ BLA แต่หากสถานการณ์เป็นบวกมากขึ้นแนะนำ TIDLOR COM7 และ AMATA

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...