MONEY AND STOCK MARKET วันที่ 11-15 กันยายน 2566

•    เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 9 เดือนตามสัญญาณเงินทุนต่างชาติ และการอ่อนค่าของสกุลเงินเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด

•    SET Index เคลื่อนไหวผันผวน สะท้อนกรอบขาขึ้นที่จำกัด ขณะที่นักลงทุนรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดวันที่ 19-20 ก.ย. นี้อย่างใกล้ชิด  
 

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 9 เดือนที่ 35.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ตามค่าเงินเยนที่มีแรงหนุนจากคำกล่าวของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ระบุว่า BOJ อาจสามารถยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบหากบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดีเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต่อมาตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดย เงินหยวนท่ามกลางความกังวลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจจีนในภาพรวม แม้ว่าทางการจีนจะพยายามส่งสัญญาณว่า ไม่ต้องการให้เงินหยวนอ่อนค่าเร็วผ่านการทยอยกำหนดอัตราอ้างอิงเงินหยวนรายวันในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม

นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยลบเพิ่มเติมจากทิศทางเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนบางส่วนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ตลาดประเมินว่า แม้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่กรอบ 5.25-5.50% ในการประชุม FOMC วันที่ 19-20 ก.ย. นี้ แต่ก็ยังไม่ตัดโอกาสที่อาจจะเห็นเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในการประชุมรอบถัดๆ ไปในปีนี้  
 

ในวันศุกร์ที่ 15 ก.ย. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 35.52 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ก.ย.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 11-15 ก.ย. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 5,572 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 6,919 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตร 2,079 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 4,840 ล้านบาท) 
 

สัปดาห์ถัดไป (18-22 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 35.30-36.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมและ Dot Plot ของเฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติและค่าเงินหยวน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนก.ย. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษ การประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น และดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ และยูโรโซน 

 

 


 

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวอิงขาลงช่วงต้น-กลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานจากความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายของภาครัฐ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงสั้นๆ ในระหว่างสัปดาห์ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ และความหวังว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แต่แรงหนุนหุ้นไทยก็ยังคงจำกัด ซึ่งทำให้ดัชนีฯ ย่อตัวลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ในระหว่างที่รอปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุน

ในวันศุกร์ที่ 15 ก.ย. ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,542.03 จุด ลดลง 0.33% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 43,912.05 ล้านบาท ลดลง 0.76% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.12% มาปิดที่ระดับ 475.30 จุด

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,530 และ 1,510 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,555 และ 1,565 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (19-20 ก.ย.) และทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. ดัชนี PMI เดือนก.ย. (เบื้องต้น) รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOE และ BOJ อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. และดัชนี PMI เดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR เดือนก.ย. ของจีน

 


 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...