ผู้พิพากษารัฐจอร์เจียสั่งระงับกฎให้นับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งด้วยมือ

เมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โรเบิร์ต แม็คเบอร์นี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะศาล ฟุลตัน เคาน์ตี ระบุไว้ในคําตัดสินของเขาว่ากฎดังกล่าวจะถูกนํามาใช้ในเวลากระชั้นชิดกับวันเลือกตั้งมากเกินไป และจะทําให้เกิด “ความโกลาหลในการบริหาร” เนื่องจากมีเวลาจํากัดในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่เลือกตั้ง

 “ผลประโยชน์สาธารณะไม่ได้เสียหายด้วยการระงับกฎไว้ชั่วคราว ฤดูกาลเลือกตั้งนี้เต็มไปด้วยภาพจําของวันที่ 6 ม.ค.ที่ยังไม่ได้จางหายไป ไม่ว่าจะเป็นการมองภาพในแง่ดีหรือไม่ดีของวันนั้น” เขาเขียนในคำสั่งศาล “อะไรก็ตามที่เพิ่มความไม่แน่นอนและความผิดปกติในกระบวนการเลือกตั้งทําให้ประชาชนเสียประโยชน์”

ที่ผ่านมานักวิจารณ์โจมตีบทบัญญัตินี้ว่าจะทําให้เกิดความล่าช้าและการหยุดชะงักในการรายงานผลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ

ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะมีการอุทธรณ์คําสั่งห้ามชั่วคราวของศาล การตัดสินในครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะของพรรคเดโมแครตที่ยื่นฟ้องหลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐลงมติ 3 ต่อ 2 เพื่อสนับสนุนกฎการนับด้วยมือเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีกําหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ต.ค. สองสัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายน

กฎดังกล่าวกําหนดให้เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งต้องนับจํานวนบัตรลงคะแนน ก่อนที่จะถูกส่งไปยังเคาน์ตีเพื่อนับและนำขึ้นตารางรายงานผลคะแนน ซึ่งทําให้เกิดความกังวลว่าอาจชะลอการรายงานผลลัพธ์โดยไม่จําเป็นและสร้างความไม่แน่นอนในรัฐสําคัญของการเลือกตั้งประธานาธิบดี

ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยกย่อง สมาชิกคณะกรรมการสามคนที่สนับสนุนกฎระเบียบดังกล่าว ขณะที่พรรคเดโมแครตในรัฐ เลขานุการรัฐจอร์เจียจากพรรครีพับลิกันและอัยการสูงสุด แสดงความเห็นคัดค้าน

•  พรรคเดโมแครตยินดีกับคําสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาล

“ตั้งแต่เริ่มต้น กฎนี้เป็นความพยายามที่จะชะลอผลการเลือกตั้ง เพื่อทำให้เกิดความสงสัยในผลลัพธ์ และประชาธิปไตยของเราแข็งแกร่งขึ้นด้วยการตัดสินใจนี้ที่จะสกัดกั้นมันไว้ เราจะต่อสู้ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถลงคะแนนเสียงได้โดยรู้ว่าคะแนนจะถูกนับ” เควนติน ฟูลค์ รองผู้จัดการทีมหาเสียงของ คามาลา แฮร์ริส รักษาการณ์ผู้อํานวยการร่วมของคณะกรรมการแห่งชาติเดโมแครต โมนิกา การ์ดิโอลา และส.ส.นิเคมา วิลเลียมส์ ซึ่งเป็นประธานพรรคเดโมแครตแห่งจอร์เจีย กล่าวในแถลงการณ์ร่วม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ