“ธนาธร” ไม่ออกความเห็นปมร้องเพื่อไทย “วิโรจน์” ไม่เห็นด้วยทำลายพรรคการเมือง

“ธนาธร” ไม่ออกความเห็น หลัง “ธีรยุทธ” ร้องเรียนพรรคเพื่อไทย ชี้ ทุกพรรคมีรูปแบบการทำงานของตัวเอง ด้าน “วิโรจน์” ไม่เห็นด้วยทำลายพรรคการเมือง ควรใช้กลไกสภาตรวจสอบ

วันที่ 12 ตุลาคม 2567 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงกรณีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลิกการครอบงำพรรคเพื่อไทย ซึ่งลักษณะคำร้องมีความยึดโยงมาจากคดีพรรคก้าวไกลนั้น นายธนาธร ระบุว่า ส่วนตัวไม่ได้ติดตามการเมืองรายวัน ตอนนี้ไม่ได้เห็นเนื้อหาคำร้อง จึงไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ โดยผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงความยึดโยงไปถึงการร้องยุบพรรคก้าวไกล นายธนาธร กล่าวว่า ในตัวของพรรคก้าวไกล พรรคประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย ก็คงจะมีรูปแบบการทำงานของตนเอง คงไม่สามารถนำมายึดโยงกันได้

ทางด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนระบุถึง 1 ในคำร้อง 6 ข้อ ที่เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล ว่า เรื่องนั้นคงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป พร้อมชวนตั้งข้อสังเกตว่าเห็นความผิดปกติของการออกมาร้องในครั้งนี้ ที่มี 1 คนร้องและกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งมีหน้าที่ทำร้าย ทำลายพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ตนมองว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรามองเป็นเรื่องปกติไม่ได้ (อ่านเพิ่มเติม : เปิดคำร้องเอาผิด “ทักษิณ-เพื่อไทย” ฉบับเต็ม- “ธีรยุทธ” ลั่น ไม่ได้รับงาน “ลุงป้อม”)

...

นายวิโรจน์ ระบุต่อไป ตนคิดว่าหากจะมีการนำข้ออ้างนั้น มาร้องควรจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ตนมองไกลกว่านั้น หากพ้นจากประเด็นนี้ก็จะมีประเด็นอื่นอีก คือมี 1 นักร้อง และอีก 1 กลุ่มคน ทำร้าย ทำลาย ซึ่งก็จะสามารถทำร้าย ทำลายคนที่ประชาชนเลือกมา ซึ่งตนยืนยันว่าตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จนถึงพรรคประชาชน เราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการที่ผิดปกติ

เมื่อถามว่าแสดงว่าการออกมาร้องนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนบุคคล สลับกันทำหน้าที่ ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนมองโดยพฤติการณ์ ส่วนกลุ่มคนนั้นขอไม่ไปเพ่งเล็งว่าเป็นใคร เราดูที่พฤติกรรม ซึ่งตนเรียกว่าเป็นพฤติการณ์ที่ไม่เคารพสิทธิของประชาชน ซึ่งเราไม่เห็นด้วย ตนไม่อยากไปให้รายละเอียดว่าเรื่องนั้นหรือเรื่องนี้มีเหตุผลหรือไม่ ซึ่งเมื่อมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้วเราก็จะรู้ แต่ตนมองในภาพใหญ่

ผู้สื่อข่าวถามต่อ แสดงว่าหากมีเรื่องใดที่เกิดข้อสงสัย ควรนำมาพูดกันในสภาผู้แทนราษฎร หรือนำมาอภิปราย ใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ ตอบว่า “ถูกต้องครับ มารวมกันเพราะมีกลไกของกรรมาธิการ มีกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากเป็นเรื่องแบบนั้นจริงนายกรัฐมนตรีก็ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยกลไกของรัฐสภา ไม่ใช่พ้นไปด้วยกระบวนการอื่น”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

บ้านร่วมทางฝัน6คอนโดสร้างบุญ'กำไร'บริจาคโรงพยาบาลรัฐ

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โครงการบ้านร่วมทางฝัน เป็นโมเดลธุรกิจ (Business Model) ที่เน้นการนำกำไรท...

'นาคาวิถี' ถนนท่องเที่ยวสายใหม่ 750 กิโลเมตร เลียบแม่น้ำโขง

กรมทางหลวงชนบท เปิดแผนเพิ่มศักยภาพโครงข่ายสายทางพัฒนาให้เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยว และเส้นทางชมทิวทัศ...

ตลาด 'กาแฟ' แข่งเดือด 4 ปั้มใหญ่ขยายสาขาชิงลูกค้า

จากเทรนด์การทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงไลฟสไตล์การดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิทัลดิสรัปชัน ทำให้ธุร...

หนี้สูงเป็นเหตุ! 'ฟิทช์' หั่นแนวโน้มอันดับเครดิต 'ฝรั่งเศส' เป็นเชิงลบ

บริษัทจัดอันดับเครดิต ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสจ...