โพลชี้ ‘แฮร์ริส’ พลิกแซง ‘ทรัมป์’ ครองใจเสียงคนชานเมือง

ผลการวิเคราะห์โพลจากสำนักข่าวรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) ชี้ให้เห็นว่า คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต สามารถพลิกสถานการณ์แซงหน้าอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ในกลุ่มโหวตเตอร์ที่อาศัยอยู่ในเขตชานเมือง และกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งถือเป็นฐานเสียงสำคัญในการเลือกตั้งสหรัฐ

จากผลโพลล์รอยเตอร์/อิปซอสทั้ง 6 ครั้ง ที่สำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 6,000 คน แฮร์ริสมีคะแนนนำหน้าทรัมป์ 47% ต่อ 41% ในกลุ่มโหวตเตอร์ชานเมือง ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนโหวตเตอร์ทั้งหมดในสหรัฐ ในการสำรวจช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่ทรัมป์นำไบเดน 43% ต่อ 40% ในการสำรวจเดือนมิ.ย.-ก.ค.

ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ระหว่าง 50,000-100,000 ดอลลาร์ต่อปี ซึ่งถือเป็นกลุ่มรายได้ปานกลางของประเทศ ก็พลิกผันไม่แพ้กัน จากที่ทรัมป์เคยนำไบเดน 44% ต่อ 37% กลับกลายเป็นตามหลังแฮร์ริส 43% ต่อ 45%

ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสชี้ว่า โหวตเตอร์มองประเด็นเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง โดยโพลล์เมื่อเดือนต.ค.ระบุว่า 46% ของโหวตเตอร์เห็นว่าทรัมป์เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในด้านเศรษฐกิจ นำหน้าแฮร์ริสที่ได้ 38%

นอกจากนี้ ผลโพลล์ยังชี้ให้เห็นว่าทรัมป์ได้รับความไว้วางใจมากกว่าในประเด็นเรื่องผู้อพยพและอาชญากรรม โดยในเดือนส.ค. ทรัมป์ได้ประกาศกับผู้สนับสนุนว่าเขาคือแคนดิเดตที่จะรักษาความปลอดภัยให้กับย่านชานเมือง และจะทำให้แน่ใจว่าผู้อพยพที่ลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาอย่างผิดกฎหมายจะถูก “กันออกไปจากเขตชานเมือง”

ขณะที่ทรัมป์โจมตีรัฐบาลไบเดนว่า เป็นต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อที่ทำร้ายชนชั้นกลางอเมริกัน แฮร์ริสกลับเน้นย้ำในสุนทรพจน์ของเธอถึงคำมั่นสัญญาที่จะขยายกลุ่มชนชั้นกลางให้ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ ผลโพลล์ยังชี้ว่าแฮร์ริสมักถูกเลือกให้เป็นแคนดิเดตที่ดีกว่าในแง่ของการปกป้องประชาธิปไตยและการต่อต้านแนวคิดสุดโต่งทางการเมือง

เดวิด วาสเซอร์แมน นักวิเคราะห์การเมืองจากคุก โพลิติคัล รีพอร์ต (Cook Political Report) กล่าวว่า “แฮร์ริสเน้นประเด็นเรื่องค่าครองชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความได้เปรียบของทรัมป์ในเรื่องเงินเฟ้อและเศรษฐกิจลดลงอย่างเห็นได้ชัด”

วาสเซอร์แมนระบุว่า แฮร์ริสดูเหมือนจะได้กระแสตอบรับที่ดีในกลุ่มคนชานเมืองที่ค่อนข้างมีฐานะ ซึ่งอาจมองแนวโน้มเศรษฐกิจในแง่บวกมากขึ้น ขณะที่คะแนนนิยมของแฮร์ริสที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางอาจเป็นผลมาจากการที่ทีมหาเสียงของเธอสัญญาจะช่วยเหลือครัวเรือนชนชั้นกลางอย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่าจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเมืองที่โน้มเอียงไปทางเดโมแครต และในเขตชนบทที่สนับสนุนรีพับลิกัน อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินผลการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ ผลโพลล์ล่าสุดจากทั้งหมด 6 ครั้ง ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 4-7 ต.ค. ชี้ให้เห็นว่าแฮร์ริสนำหน้าทรัมป์เพียงเล็กน้อยในหมู่โหวตเตอร์ทั้งหมด โดยได้คะแนนเหนือทรัมป์ 46% ต่อ 43%

แม้คะแนนนำเพียงเล็กน้อยในระดับประเทศของแฮร์ริสมีความสำคัญ แต่ผลการเลือกตั้งจะขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงใน 7 รัฐสมรภูมิ หรือรัฐสวิงสเตตเป็นหลัก ได้แก่ แอริโซนา, มิชิแกน, เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, เนวาดา, วิสคอนซิน และจอร์เจีย ซึ่งผลโพลในรัฐเหล่านี้ยังคงสูสีกันอยู่

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

ประชุมอาเซียน-จีน คุกรุ่น 'ฟิลิปปินส์' เรียกร้องเร่งเจรจาปัญหาทะเลจีนใต้

ที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 27 เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.) อบอวลไปด้วยบรรยากาศคุกรุ่น เนื่องจ...

พายุเฮอริเคนถล่มฟลอริดาหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย

"พายุเฮอริเคนมิลตัน"เคลื่อนตัวออกสู่มหาสมุทรแอตแลนติกแล้วในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.67) หลังพัดถล่มใจกลาง...

‘เทสลา’ จ่อเปิดตัว Cybercabs ธุรกิจ 'แท็กซี่ไร้คนขับ' ที่ยังขาดทุนมหาศาล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า “เทสล่า” (Tesla) ของ “อีลอน มักส์” เตรียมเปิดตัว “แท็กซี่ไร้คนขับ” ที่ชื่...

‘อิสราเอล’ โจมตีกรุงเบรุต ตาย 22 เจ็บ 117 หัวหน้าฮิซบอลเลาะห์รอด

กระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานว่า การโจมตีกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนของอิสราเอล เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ต.ค...