หุ้นสหรัฐปิดบวก รับน้ำมันลงหนัก-แรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (8 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการชะลอตัวของราคาน้ำมันและแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ และผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 ของบริษัทจดทะเบียน

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,080.37 จุด เพิ่มขึ้น 126.13 จุด หรือ +0.30%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,751.13 จุด เพิ่มขึ้น 55.19 จุด หรือ +0.97%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,182.92 จุด เพิ่มขึ้น 259.01 จุด หรือ +1.45%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการชะลอตัวของราคาน้ำมัน หลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักในวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดร่วงลงในวันจันทร์

อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวลงของต้นทุนการกู้ยืม เช่นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในดัชนี S&P500 โดยปรับตัวขึ้น 2.12% และ 1.07% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.63% หลังจากราคาน้ำมันชะลอตัวลง และหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 0.37% หลังจากราคาโลหะร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่รัฐบาลจีนไม่ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเมื่อวานนี้

หุ้น 7 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือกลุ่ม "Magnificent Seven" พุ่งขึ้น นำโดยหุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 4.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่หุ้น Microsoft บวก 1.2% หุ้น Apple พุ่งขึ้น 1.8% หุ้น Alphabet บวก 0.8% หุ้น Amazon.com ดีดขึ้น 1.06% หุ้น Tesla พุ่งขึ้น 1.5% และหุ้น Meta Platforms พุ่งขึ้น 1.4%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานจะปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% เช่นกันในเดือนส.ค.

เจสัน ไพรด์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและวิจัยจากบริษัท Glenmede กล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนี CPI เดือนก.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ เป็นสองข้อมูลสำคัญที่มีการเปิดเผยก่อนการประชุมเฟดครั้งต่อไปในเดือนพ.ย. โดยหากดัชนี CPI ออกมาใกล้เคียงกับระดับที่คาดการณ์ไว้ ก็อาจทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 ของบริษัทจดทะเบียน โดยธนาคารรายใหญ่หลายแห่งมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์นี้ ขณะที่ผลสำรวจของ LSEG ระบุว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P500 จะมีอัตราการเติบโตของกำไรอยู่ที่ 5%

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

สหรัฐพร้อมรับมือต่างชาติป่วนเลือกตั้ง

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน หน่วยข่าวกรองของสหรัฐบรรยายสรุปแก่ผู้สื่อข่าวถึงกิจกรรมของรัสเซีย จีน อิหร่...

ศิริราชเมดิคัล ดิสทริคบูมอสังหาฯฝั่งธนฯปักหมุดชิงเรียลดีมานด์-ปล่อยเช่า

อาทิตยา เกษมลาวัณย์ หัวหน้าแผนกซื้อขายโครงการที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า พื้นที่ย่านศิ...

เรื่อง “เมื่อผู้บริหาร บจ. ซื้อขายหุ้น (ที่มีนัยสำคัญ) ผู้ลงทุนต้องรู้”

กรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชี อยู่ในตำแหน่งหรือฐานะที่อาจล่วงรู้ข้อมูลภายใน (inside information) ...

ตลาดกระทิงเซินเจิ้น จริงแค่ไหน

หุ้นจีนพุ่งแรงหลังทางการจีนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่จะไปต่อได้อีกไหมจากตรงนี้? เป็นคำถามหลักในใจนักลง...