รายได้ ‘Foxconn’ โตสูงสุดในประวัติศาสตร์ ขับเคลื่อนด้วย AI และ iPhone

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า บริษัท “ฟ็อกซ์คอนน์” (Foxconn) ของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกและเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ให้บริษัท Apple เป็นหลัก สร้างความฮือฮาด้วย “รายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์” ในไตรมาสที่สาม ซึ่งตัวผลักดันมาจากความต้องการเซิร์ฟเวอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรายได้ของ Foxconn เพิ่มขึ้น 20.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เป็น 1.85 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1.92 ล้านล้านบาท

“ผลประกอบการในครั้งนี้ดีเกินคาดกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้อย่างเห็นได้ชัด” ฟ็อกซ์คอนน์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ โดยผลประกอบการนี้สูงกว่าประมาณการของ LSEG SmartEstimate ที่อยู่ที่ 1.79 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน

ฟ็อกซ์คอนกล่าวว่า ความต้องการเซิร์ฟเวอร์ปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่งส่งผลให้รายได้จากธุรกิจคลาวด์และผลิตภัณฑ์เครือข่ายเติบโตอย่างมั่นคง โดยลูกค้าของฟ็อกซ์คอน ได้แก่ บริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์

ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เช่น iPhone มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสต่อไตรมาส เนื่องจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ประสิทธิภาพปีต่อปีนั้นคงที่

สำหรับไตรมาสที่สาม เป็นช่วงเวลาที่บริษัทเทคโนโลยีของไต้หวันเริ่มแข่งขันกันจัดหาสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ให้กับผู้ขายรายใหญ่อย่าง Apple เพื่อรองรับช่วงเทศกาลสิ้นปีในตลาดตะวันตก

เพียงรายได้รวมในเดือนกันยายนเดือนเดียวสูงถึง 733,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 10.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเป็นระดับสูงสุดอันดับสองตลอดกาลสำหรับเดือนนี้

“เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาลสูงสุดในครึ่งหลังของปี เราคาดว่าการดำเนินงานของเราจะค่อย ๆ ได้รับแรงผลักดัน และคาดว่าไตรมาสที่สี่จะสอดคล้องกับคาดการณ์ตลาดในปัจจุบันโดยประมาณ” ฟ็อกซ์คอนกล่าวถึงแนวโน้มในไตรมาสปัจจุบัน

ที่ผ่านมา หุ้นของฟ็อกซ์คอนเพิ่มขึ้น 24.43% จากต้นปีจนถึงปัจจุบัน โดยหุ้น Foxconn ปิดเพิ่มขึ้น 3.7%

เมื่อวันศุกร์ก่อนการเปิดเผยข้อมูลรายได้ ซึ่งสวนทางกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง 0.4%
ทั้งนี้ บริษัทจะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามเต็มรูปแบบในวันที่ 14 พฤศจิกายน บริษัทได้กำหนดวันเทคโนโลยีประจำปีในวันที่ 8-9 ตุลาคม ซึ่งเป็นงานที่ฟ็อกซ์คอนมักประกาศผลิตภัณฑ์หรือพันธมิตรใหม่

อ้างอิง: Reuters

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ